โจรใต้เย้ยกลางดึก บึม 2 โรงไฟฟ้า ระทึกคนงานหนีตาย ตูมสนั่นยับทั้ง 2 แห่ง

สอบสวนทราบว่า ขณะที่คนงาน 7 คน เฝ้าเครื่องผลิตไฟฟ้าอยู่ภายในโรงงาน มี รปภ. 2 คนเฝ้าป้อมยามทางเข้าโรงงาน จู่ๆมีคนร้ายราว 10 คน สวมหมวกไหมพรมคลุมหน้าบุกเข้ามาจากด้านหลังโรงไฟฟ้าที่เป็นป่า และคนร้ายอีกส่วนราว 10 คน บุกเข้าด้านหน้าโรงไฟฟ้า ใช้ปืนสงครามจี้บังคับคนงานทั้งหมดให้หมอบกับพื้นพร้อมตะโกนว่า “จะวางระเบิด 10 ลูกในโรงไฟฟ้า” ก่อนที่คนร้ายจะนำระเบิดแสวงเครื่องบรรจุถังแก๊สปิกนิก น้ำหนัก 10 กก.จำนวนหลายลูกกระจายไปวางในห้องต่างๆ คนร้ายบางส่วนจุดไฟวางเพลิงและไล่คนงานทั้งหมดออกจากโรงงาน ทุกคนวิ่งหนีตายอย่างไม่คิดชีวิต หลังปฏิบัติการเสร็จ คนร้ายหลบหนีออกไปทันที อีก 10 นาทีต่อมาได้เกิดระเบิดติดต่อกัน 5 ลูก

จากการตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดพบว่า ช่วงเกิดเหตุกล้องทุกตัวดับหมด ทั้งที่ก่อนหน้านี้กล้องวงจรปิดใช้งานได้ทุกตัว ส่วนจุดต่างๆทั้ง 5จุดที่คนร้ายวางระเบิดไว้นั้น เป็นที่น่าสังเกตว่าเหมือนคนร้ายจะรู้ว่าควรจะก่อเหตุส่วนไหนของโรงไฟฟ้าที่เป็นเครื่องจักรและระบบสำคัญในการผลิตไฟฟ้า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าคนร้ายบางคนอาจเคยทำงานหรืออาจมีคนในโรงงานรู้เห็นเป็นใจกับการก่อเหตุครั้งนี้ ตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมเก็บวัตถุพยานเพื่อตรวจสอบหาความเชื่อมโยงว่าคนร้ายที่ก่อเหตุเป็นกลุ่มใด มีความเกี่ยวข้องกับบุคคลใดบ้าง คาดว่าน่าจะรู้ตัวเร็วๆนี้

นายเจ๊ะมะแอ เจ๊ะมะ หัวหน้า รปภ.โรงไฟฟ้าเล่าว่า คนร้าย 20 คน ถือปืนบังคับให้คนงานอยู่นิ่งๆและหมอบลงกับพื้นก่อนจะไล่คนงานออกไป จากนั้นคนร้ายจุดไฟเผารถยนต์สีขาวของคนงานที่จอดไว้ และยังเข้าไปวางระเบิด ผ่านไปราว 10 นาที เกิดระเบิดขึ้น 5 ครั้ง ก่อนหน้านี้คนร้ายบอกมีระเบิด 10 ลูก ตนไม่เห็นหน้าคนร้ายเพราะไม่กล้ามอง กลัวถูกสังหาร และมีคนงานบางคนโดนปืนจี้อยู่ด้วย โชคดีทุกคนปลอดภัย คนร้ายได้วางระเบิดไว้ที่เครื่องปั่นไฟและส่วนสำคัญต่างๆในโรงงาน เหมือนรู้ว่าจะต้องระเบิดจุดไหน ก่อนหน้านี้ไม่มีอะไรผิดสังเกต เพราะโรงงานนี้เป็นโรงผลิตไฟฟ้าประชารัฐชีวมวล เผาไม้ยางพารา เพิ่งดำเนินงานได้เพียง 6 เดือนเท่านั้น และคนงานส่วนใหญ่เป็นคนพื้นที่

เวลาไล่เลี่ยกัน เกิดเหตุคนร้าย 4-5 คนสวมชุดดำและไหมพรมคลุมหน้ามีอาวุธครบมือบุกเข้าไปโรงไฟฟ้าชีวมวล บริษัท รุ่งทิวา ไบโอแมส จำกัด บ้านปลักบ่อ ต.สะบ้าย้อย อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา พื้นที่รอยต่อ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ที่เกิดเหตุหน้าโรงไฟฟ้าชีวมวล จุดที่ 1 พบท่อส่งเสียหายจากแรงระเบิด ชิ้นส่วนท่อส่งฉีกกระจายไปทั่ว จุดที่ 2 ตัวโรงไฟฟ้าถูกแรงระเบิดหลังคาด้านบนและผนังสังกะสีด้านข้างฉีกขาด ส่วนภายในโรงไฟฟ้ายังไม่ทราบความเสียหาย ต้องรอเจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าตรวจสอบเคลียร์พื้นที่เพื่อความปลอดภัยก่อนถึงจะเข้าสำรวจความเสียหายภายในโรงไฟฟ้าได้ จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดทราบว่า คนร้าย 5-10 คน สวมชุดดำทั้งตัว บุกเข้ามาในโรงไฟฟ้าชีวมวลไล่เจ้าหน้าที่ รปภ.และคนงานออกไปทั้งหมด ก่อนจะแยกย้ายไปตามจุดต่างๆของโรงไฟฟ้าเพื่อวางระเบิด มีชาวบ้านแจ้งว่าได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้น 3 ครั้ง มาจากโรงไฟฟ้าชีวมวลดังกล่าว

หลังเกิดเหตุ ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่ภายในโรงไฟฟ้า พบคนร้ายวางระเบิดไว้ทั้งหมด 4 ลูก ทุกมุมอาคาร ระเบิดทำงาน 3 ลูก แรงระเบิดทำให้อาคารหม้อต้มแรงดันไอน้ำ (บอยเลอร์) พังยับ และยังมีระเบิดไม่ทำงานอีก 1 ลูก เจ้าหน้าที่เก็บกู้ไว้ได้สำเร็จ หลังเกิดเหตุโรงไฟฟ้าต้องหยุดให้บริการชั่วคราว มูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท สอบถามผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.สะบ้าย้อย เล่าว่า คนร้ายมาด้วยกันทั้งหมด 4 คน ก่อนจะวางระเบิดได้ชักปืนยิงขู่ รปภ.หน้าประตู 2 คน และคนงานในอาคารโรงไฟฟ้าอีก 7 คน ทั้งหมดพากันวิ่งหนีออกมาด้านนอก จากนั้นเกิดระเบิดขึ้นตามมาเสียงดังสนั่น 3 ครั้ง เหตุระเบิดโรงไฟฟ้าครั้งนี้เกิดขึ้นครั้งแรก ในรอบหลายปีในพื้นที่ อ.สะบ้าย้อย นอกจากนี้ ช่วงเวลา 01.00 น.คืนเดียวกัน คนร้ายยังก่อกวนป่วนเมือง จุดไฟเผายางรถยนต์บนถนน 2 จุดในพื้นที่หมู่ 2 บ้านนาจวก ต.ท่าม่วง อ.เทพา จ.สงขลา พื้นที่รอยต่อกับ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี

ต่อมาเวลา 11.00 น. พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.อาซาน จันทร์ศิริ รอง ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.สันทัศน์ เชื้อพุฒตาล ผบก.ภ.จ.ปัตตานี พ.อ.ปรเมธ ศานุพงศ์ ผบ.ทพ.43 เดินทางมาที่เกิดเหตุเพื่อประชุมวางแผนการปฏิบัติ เนื่องจากยังมีระเบิดหลงเหลืออยู่ภายในโรงงาน มีนายวารินทร์ มาศชาย ผู้จัดการโรงงาน ร่วมให้ข้อมูล เบื้องต้นชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดรายงานว่าได้เข้าตรวจสอบในโรงงานจุดที่เกิดระเบิดทั้ง 5 จุด พร้อมเก็บวัตถุพยานในที่เกิดเหตุอย่างละเอียด ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่นำเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดไปตรวจสอบว่าบันทึกภาพช่วงเกิดเหตุได้หรือไม่ เนื่องจากช่วงเกิดเหตุสัญญาณภาพดับเพราะปัญหาเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ต แต่ถ้าเครื่องยังสามารถบันทึกภาพได้ จะดึงภาพออกมาตรวจสอบได้ ขณะที่พยานทั้ง 7 คน เจ้าหน้าที่สอบปากคำต่อเนื่องและอยู่ในความดูแลความปลอดภัยแล้ว

ขณะที่ ผบช.ภ.9 กำลังประชุม ได้รับรายงานจากชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดว่า ขณะเข้าตรวจสอบในอาคาร 7 ชั้น พบระเบิดแสวงเครื่องแบบตั้งเวลาบรรจุในถังแก๊สปิกนิก น้ำหนัก 15 กก. แขวนไว้ที่ราวบันไดชั้น 3 และยังไม่สามารถเก็บกู้ได้ เนื่องจากระเบิดดังกล่าวเป็นแบบตั้งเวลา เกรงว่าหากเข้าเก็บกู้ ระเบิดอาจทำงานและจะได้รับอันตราย ขอให้ทุกคนออกไปจากโรงงานทันทีเพื่อความปลอดภัยหากเกิดระเบิดขึ้น และห้ามไม่ให้บุคคลใดเข้าไปในบริเวณเกิดเหตุภายใน 5 วัน เพื่อให้ระเบิดหรือแบตเตอรี่เสื่อม เจ้าหน้าที่จะเข้าตรวจสอบอีกครั้งในวันที่ 1 พ.ค.นี้ ขณะที่ชุดสืบสวนสอบสวนคดีความมั่นคงระบุว่า กลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุครั้งนี้ จากข้อมูลความเคลื่อนไหวทราบว่า ได้ประชุมวางแผนในพื้นที่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เพื่อก่อเหตุในพื้นที่ แต่ยังไม่ทราบเป้าหมายมีแกนนำระดับปฏิบัติการที่เคยก่อเหตุในพื้นที่ อ.โคกโพธิ์ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ร่วมกับแนวร่วมชุดใหม่ที่เข้ามาเสริมในการก่อเหตุที่โรงงานไฟฟ้า อ.แม่ลาน

พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภ.9 กล่าวว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นพร้อมกัน 2 จุดทั้งใน จ.ปัตตานี และ จ.สงขลา ได้เดินทางเข้าไปตรวจสอบทั้งสองจุดและได้รับรายงานความคืบหน้าแล้ว โดยเฉพาะการตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดที่ จ.สงขลา พบว่าถึงแม้คนร้ายจะปิดบังใบหน้า แต่ไม่สามารถตบตาเจ้าหน้าที่ได้ การแกะรอยตัวคนร้ายทำให้พอจะรู้แล้วว่าเป็นใคร ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุใน จ.ปัตตานี ชัดเจนว่าป็นกลุ่มเดียวกัน แต่รับผิดชอบพื้นที่ต่างกัน ตามสายข่าวที่รายงานมา รู้เบื้องต้นแล้วว่าคนร้ายจะก่อเหตุทำลายเศรษฐกิจของพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ตั้งใจทำให้เจ้าของโรงงานได้รับความเดือดร้อนและยังทำให้คนงานในพื้นที่ต้องหยุดงาน รวมทั้งชาวบ้านที่มีอาชีพหาไม้ส่งเข้าโรงงานต้องหยุดงานไปด้วย ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง กำชับให้ชุดสืบสวนสอบสวนเร่งขยายผลติดตามจับกุมคนร้ายให้เร็วที่สุด

ขอบคุณแหล่งที่มา :  thairath