แม่ "แบงค์ เลสเตอร์" ไม่อยากถือโทษโกรธใคร บอก "เบิร์ด" ผิดที่ไม่ห้ามน้อง
แม่ "แบงค์ เลสเตอร์" รับศพลูกชายไปประกอบพิธีทางศาสนา บอกไม่ถือโทษโกรธใคร เพราะเข้าใจว่าน้องอยากได้เงิน ส่วน "เบิร์ด" ผิดที่ไม่ห้ามน้อง
จากกรณี นายธนาคาร คันธี อายุ 27 ปี หรือ "แบงค์ เลสเตอร์" อินฟลูเอนเซอร์สู้ชีวิต ที่เสียชีวิตกะทันหัน คาดสาเหตุเกิดจากการดื่มสุราในปริมาณมากแลกกับเงิน 3 หมื่นบาท ซึ่งต่อมาทางตำรวจ สภ.ทุ่งเบญจา ได้มีการเชิญตัวเจ้าของงานเลี้ยงไปสอบปากคำ เบื้องต้นยืนยันว่า ไม่ได้มีการจ้างหรือยุ ให้ดื่มแลกเงิน แต่ที่ให้เพราะสงสาร ขณะที่ยายของ "แบงค์" เปิดใจ หลานออกไปหาเงินมาจ่ายค่าบ้าน ไม่คิดว่าจะเป็นวิธีนี้ จากนี้ก็ไม่รู้ว่าจะอยู่อย่างไร ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
เมื่อเวลา 16:00 น. วันที่ 26 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา นางวนิดา สังข์ฤทธิ์ แม่ของแบงค์ เลสเตอร์ ได้เดินทางมาถึงบริเวณห้องเก็บศพ โรงพยาบาลพระปกเกล้า เพื่อติดต่อขอรับร่างของแบงค์ โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า เนื่องจากมีบรรดาเพื่อนที่เคยร่วมงานกับแบงค์ และเพื่อนของทางฝ่ายเอ็มเอกชาติ เข้ามาร่วมแสดงความเสียใจรอรับร่างของแบงค์หลายคน
เบื้องต้นนางวนิดา ได้กล่าวกับสื่อมวลชนว่า แม่ไม่ถือโทษโกรธ เพราะน้องเขาก็อยากจะได้เงิน เบิร์ดผิดตรงที่ไม่ห้ามปรามแค่นั้น ผิดตรงที่เราไม่ห้ามปรามเขา เพราะเราเป็นผู้ใหญ่มากกว่าเขา แม่ไม่คิดว่าลูกแม่จะไปเร็วขนาดนี้ เรื่องผิดเรื่องถูกกล้องวงจรปิดมันก็จับภาพไว้หมดแล้ว แต่เราผิดที่ไม่ห้ามเด็กว่าต้องกินพอประมาณ พอตัว แม่ก็ไม่รู้จะพูดอะไร เพราะไม่มีใครอยากให้มันเกิด ในเมื่อมันเกิดไปแล้วเราก็ต้องยอมรับให้ได้ แต่ว่ามันเร็วเกินไป แม่ยังไม่ทันได้เตรียมใจ รับฟังตรงนี้ ยายเขาร้องไห้จะเป็นจะตายเพราะเขามีหลานคนเดียว
โดยร่างของแบงค์ถูกเคลื่อนออกจากห้องเก็บศพเมื่อเวลา 17:23 น. โดยใช้รถตู้เอกชนสีขาว หมายเลขทะเบียน นข 1951 จันทบุรี แม่ของแบงค์นั่งคู่ไปกับศพของแบงค์ด้วย โดยมุ่งหน้าไปยังวัดออเงิน กรุงเทพมหานคร
ทางด้านหมอผู้ผ่าชันสูตรศพของแบงค์ ให้ข้อมูลว่า ขณะนี้ผลชันสูตรยังไม่ออกอย่างเป็นทางการ แต่เบื้องต้น หลังจากผ่าชันสูตรเสร็จแล้วไม่พบว่ามีอวัยวะใดผิดปกติที่ทำให้เสียชีวิตได้ หลังจากที่ได้ทราบประวัติจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและสื่อ ก็คาดว่าอาจเป็นไปได้จากภาวะแอลกอฮอล์เป็นพิษ อย่างที่ทุกคนสงสัย ซึ่งในขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้เนื่องจากอยู่ระหว่างการส่งเลือดเข้าไปตรวจ ซึ่งต้องรอผลจากเลือดที่ส่งไปตรวจในห้องปฏิบัติการก่อนจึงจะสามารถยืนยันการเสียชีวิตได้
ทั้งนี้ ทางโรงพยาบาลจึงได้มีการตรวจหาสารพิษ หรือยาฆ่าแมลงร่วมกันไปด้วยเพื่อป้องกันข้อสงสัยในอนาคต แต่ต้องรอผลตรวจกลับมาก่อน สำหรับแอลกอฮอล์ที่มีปริมาณมากจนเป็นพิษต่อร่างกายของมนุษย์ ตามทฤษฎีจะมีอยู่ 300 ถึง 400 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับร่างกายและสภาวะของบุคคลคนนั้นด้วย
ขอบคุณแหล่งที่มา : thairath
ความคิดเห็น