เปิดข้อมูล แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่ญี่ปุ่น เป็นสัญญาณเตือน Megaquake จริงหรือไม่
2024.08.13
ชอบ 0
มุมมอง302
ความคิดเห็น 0

- สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่น ระบุว่า ยังคงเตือนให้ประชาชนเฝ้าระวังความเป็นไปได้ที่อาจจะเกิด "อภิมหาแผ่นดินไหว" (Megaquake) บริเวณร่องลึกนันไค ที่ปกติแล้วจะเกิดขึ้นทุกๆ 100-200 ปี
- หลังจากสื่อต่างๆ รายงานเกี่ยวกับความเสี่ยงเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ชาวญี่ปุ่นจำนวนมากได้แห่ไปที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต เพื่อซื้อสิ่งของจำเป็น ข้าวสาร อาหารแห้งและน้ำดื่มมากักตุนไว้ จนซุปเปอร์มาร์เก็ตหลายแห่งขึ้นป้าย "ขออภัย" ที่สินค้าหลายอย่างหมดสต๊อก
สำนักข่าว NHK ของญี่ปุ่น รายงานว่า สำนักงานอุตุนิยมวิทยายังคงประกาศเตือนภัยตาม "ระบบข้อมูลพิเศษการเกิดแผ่นดินไหวแอ่งนันไค" (Nankai Trough Earthquake Extra Information protocol) ซึ่งหมายความว่า ยังมีความเป็นไปได้ที่อาจจะเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ระดับ 8 ขึ้นไป ที่ปกติจะเกิดทุกๆ 100-200 ปี โดยเกิดบริเวณแผ่นเปลือกโลกที่อยู่ระหว่างอ่าวซูรูงะ ในจังหวัดชิซึโอกะ กับทะเลเฮียวกะนาดะ ในคิวชู หลังจากเพิ่งเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง ขนาด 7.1 นอกชายฝั่งจังหวัดมิยาซากิ ทางตอนใต้ของญี่ปุ่น เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 8 ส.ค. ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่อุตุนิยมวิทยากล่าวว่า จากการเฝ้าติดตามข้อมูลพบว่าจนถึงตอนนี้ยังไม่มีความเปลี่ยนแปลงที่บริเวณรอยต่อนันไคเกิดขึ้น

แนวโน้มการเกิดอภิมหาแผ่นดินไหว
หากดูจากภาพรวมแล้ว แผ่นดินไหวขนาด 7.1 ทางตอนใต้ของญี่ปุ่นเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้วอาจไม่ใช่เรื่องใหญ่ และสร้างความเสียหายเพียงเล็กน้อย และการเตือนภัยสึนามิก็ถูกยกเลิกอย่างรวดเร็ว แต่แผ่นดินไหวครั้งนี้มีคำเตือนอย่างรวดเร็วแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยหน่วยงานอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่น ระบุว่า มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นที่จะเกิด "แผ่นดินไหวครั้งใหญ่"
ทางด้านนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ได้ยกเลิกแผนการเดินทางไปประชุมสุดยอดในเอเชียกลาง เพื่อที่จะเฝ้าระวังอยู่ในประเทศในช่วงสัปดาห์นี้
สำหรับชาวญี่ปุ่นหลายคนต่างมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันไป บางคนมองว่าเป็นเรื่องใหญ่ เพราะอาจเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงที่สุดในรอบศตวรรษ หลายคนโตมาและเคยได้รับคำเตือนถึงสถานการณ์แผ่นดินไหวในกรณีที่เลวร้ายที่สุด คาดการณ์ว่าจะมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 300,000 ศพ โดยอาจมีสึนามิ คลื่นสูง 30 เมตร กระแทกตามแนวชายฝั่งแปซิฟิกของประเทศในเอเชียตะวันออก ซึ่งล้วนเป็นเรื่องที่ฟังดูน่ากลัว
มาซาโยะ โอชิโนะ ชาวเมืองโยโกฮามา ทางตอนใต้ของกรุงโตเกียว กล่าวว่า เธอรู้สึกสับสนกับคำเตือนแผ่นดินไหว และไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร เธอบอกว่า เรารู้ว่าไม่สามารถทำนายแผ่นดินไหวได้ และเราได้รับแจ้งว่าแผ่นดินไหวครั้งใหญ่กำลังจะมาถึงในวันหนึ่ง แต่ไม่สามารถคาดเดาได้แน่ชัดว่ามีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้หรือไม่
ความกังวลของทางการญี่ปุ่น
ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ตั้งอยู่บนวงแหวนแห่งไฟ ทำให้เกิดแผ่นดินไหวบ่อยครั้ง ประมาณ 1,500 ครั้งต่อปี ส่วนใหญ่สร้างความเสียหายเพียงเล็กน้อย แต่ก็มีบางครั้งที่รุนแรง คล้ายกับที่เกิดขึ้นในปี 2011 วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 9.0 ทำให้เกิดสึนามิเข้าชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือ และคร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่า 18,000 ศพ
แต่สิ่งที่เจ้าหน้าที่ทางการญี่ปุ่นหวั่นกลัวมาตลอดคือ แผ่นดินไหวที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่นกว่านี้ อาจทำให้เกิดความสูญเสียชีวิตประชาชนจำนวนมาก และในกรณีที่เลวร้ายที่สุด
แผ่นดินไหวตามแนวร่องน้ำนันไค ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เกิดแผ่นดินไหวซึ่งทอดยาวไปตามชายฝั่งแปซิฟิกของญี่ปุ่น แผ่นดินไหวตรงจุดนี้เคยส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วนับพันรายในปี 1707 รอยแตกร้าวตลอดความยาว 600 กิโลเมตร ทำให้เกิดแผ่นดินไหวใหญ่เป็นอันดับ 2 ที่เคยบันทึกไว้ในญี่ปุ่น และตามมาด้วยการปะทุของภูเขาไฟฟูจิ
แผ่นดินไหวรุนแรงในครั้งนั้น เรียกว่า "แผ่นดินไหวเมกะทรัสต์" (Megathrust) ที่มีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นทุก ๆ 100 ปี หรือประมาณนั้น โดยมักเกิดเป็นคู่ๆ โดยครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นในปี 1944 และ 1946
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า มีโอกาส 70-80% ที่จะเกิดแผ่นดินไหวขนาด 8 หรือ 9 ริกเตอร์ที่ไหนสักแห่งตามแนวร่องน้ำนันไค ในอีก 30 ปีข้างหน้า โดยสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดบ่งชี้ว่า แผ่นดินไหวจะสร้างความเสียหายมหาศาล อาจคร่าชีวิตผู้คนนับแสนคน

เราสามารถทำนายแผ่นดินไหวได้จริงหรือ
ศาสตราจารย์โรเบิร์ต เกลเลอร์ แห่งภาควิชาแผ่นดินไหววิทยา มหาวิทยาลัยโตเกียว ของญี่ปุ่น กล่าวว่า การออกคำเตือนอภิมหาแผ่นดินไหวในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แทบไม่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์เลย โดยบอกว่า เป็นเพราะแม้ว่าแผ่นดินไหวจะทราบกันว่าเป็นปรากฏการณ์แบบกระจุก แต่ก็ไม่สามารถบอกล่วงหน้าได้ว่าแผ่นดินไหวนั้นเป็นอาฟเตอร์ช็อกหรือไม่
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า แท้จริงแล้วมีเพียงประมาณ 5% ของแผ่นดินไหวเท่านั้นที่เกิดตามการพยากรณ์ล่วงหน้า อย่างไรก็ตาม แผ่นดินไหวในปี 2011 เกิดขึ้นก่อนแผ่นดินไหวขนาด 7.2 แมกนิจูด พวกเขาตั้งข้อสังเกต ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่คนส่วนใหญ่มองข้าม
โดยระบบเตือนภัยถูกติดตั้งขึ้นหลังจากนั้น เพื่อพยายามป้องกันภัยพิบัติระดับนี้อีกครั้ง และแผ่นดินไหวในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ก็เป็นครั้งแรกที่สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นใช้ระบบเตือนภัยนี้ แต่ที่สำคัญคือ แม้จะบอกให้ประชาชนเตรียมพร้อม แต่ก็ไม่ได้บอกให้มีการอพยพ
ระบบอนุญาตให้ส่งคำเตือนหรือการแจ้งเตือนเพื่อแนะนำให้ประชาชนเตรียมพร้อมจากผลกระทบของแผ่นดินไหวร่องน้ำนันไค เพื่อให้ประชาชนเตรียมพร้อม ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้ออกตรวจสอบสภาพของศูนย์พักพิงอพยพที่เปิดแล้ว ในจังหวัดโคจิ ทางตะวันตกของญี่ปุ่น มีการเปิดศูนย์อพยพเพิ่มอย่างน้อย 75 แห่งภายในเช้าวันต่อมา
บริษัทเจรา ผู้ดำเนินการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อน ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างโตเกียว อิเล็คทริค พาวเวอร์ โฮลดิ้งส์ อิงค์ และบริษัท ชูบุ อิเล็คทริค พาวเวอร์ ระบุว่า บริษัทอยู่ระหว่างการเตือนภัยฉุกเฉิน โดยยืนยันว่ามีการสื่อสารกับผู้ให้บริการเชื้อเพลิงและประกาศระเบียบการอพยพสำหรับท่าเรือในเมืองคุโรชิโอะ และในเมืองโคจิเช่นกัน โดยผู้สูงอายุและคนอื่นๆ ได้รับคำแนะนำให้อพยพไปยังสถานที่ที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นโดยสมัครใจ
ด้านเจ้าหน้าที่ของจังหวัดวาคายามะ ทางตะวันตกของญี่ปุ่น ยืนยันว่ามีการประสานความร่วมมือกับเทศบาลท้องถิ่นตลอดเส้นทางอพยพ
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ถือว่านี่เป็นโอกาสที่ดี ที่จะตรวจสอบให้แน่ใจว่าทุกภาคส่วนได้มีการปฏิบัติตามข้อควรระวังการเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่อย่างเรียบร้อย มีการเตรียมน้ำดื่มไว้หนึ่งสัปดาห์ อาหารกระป๋อง และเตรียมแบตเตอรี่สำหรับไฟฉายอย่างพร้อมเพรียง เพื่อป้องกันไว้ก่อนดีที่สุด.
ขอบคุณแหล่งที่มา : thairath
ความคิดเห็น