เช็กพาวเวอร์มหาเศรษฐีหนุน "โดนัลด์ ทรัมป์" เครือข่ายอำนาจโลก
ซีอีโอ-มหาเศรษฐี ตบเท้าเข้าร่วมพิธีสาบานตน "โดนัลด์ ทรัมป์” จับตากลุ่ม CFR ล็อบบี้เศรษฐกิจ การเมือง "นักวิชาการ" คาดเดินหน้าฮุบ "กรีนแลนด์" ผูกมิตรจีนคานอำนาจรัสเซีย กระทบเศรษฐกิจฐานรากไทย
พิธีสาบานตนของ โดนัลด์ ทรัมป์ หลังได้รับการเลือกตั้งเข้าสู่เก้าอี้ประธานาธิบดีอเมริกาอีกสมัย เต็มไปด้วยมหาเศรษฐีระดับโลกที่เข้าร่วมงาน โดยเฉพาะ "อีลอน มัสก์" นักธุรกิจหัวแถวด้านเทคโนโลยี ที่ร่วมหัวจมท้ายมาตั้งแต่เริ่มหาเสียง แม้ที่ผ่านมามีนโยบาย "อเมริกาต้องมาก่อน" แต่การมารวมตัวกันของซีอีโอผู้นำธุรกิจระดับโลก ย่อมส่งนัยยะถึงนโยบายการเมือง เศรษฐกิจ ของอเมริกา ที่คาดว่ามีผลต่อจากนี้
ทันทีที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ผ่านการสาบานตน ก็ประกาศเริ่มดำเนินนโยบาย เตรียมประกาศภาวะฉุกเฉินด้านพลังงาน ยืนยันจะพาสหรัฐฯ ออกจากความตกลงปารีส และสนับสนุนการขุดเจาะน้ำมันเพิ่ม เพื่อแก้วิกฤติเงินเฟ้อ
สำหรับมุมมอง รศ.ดร.ณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ ม.รังสิต วิเคราะห์เพาเวอร์ของบรรดามหาเศรษฐี ที่รายล้อม โดนัลด์ ทรัมป์ ว่า หากมองเชิงระบบการดำเนินนโยบายของอเมริกา ไม่มีอะไรอยู่นอกเหนือจากแนวทางของกลุ่ม Council On Foreign Relations (CFR) สภาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คือ องค์กรที่เป็นขบวนการที่มีผู้ทรงอิทธิพลในแต่ละสาขาอาชีพ ด้านการเงิน การค้า การเมือง รวมตัวกันด้วยเป้าหมายที่ต้องการเป็นศูนย์กลางอำนาจบังคับบัญชาโลก
กลุ่มสภาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ถือเป็นผู้ทรงอิทธิพลของโลก ที่ต้องการครอบครองด้านเศรษฐกิจ และการเมืองการปกครองของโลกและเทคโนโลยี ดังนั้น กลุ่มคนเหล่านี้ เวลาลงทุนอะไร จะดูว่ากลไกของโลกได้เปลี่ยนแปลงไปตามที่เขาต้องการหรือไม่ ถ้าไม่เป็นไปตามเป้าหมายก็จะเข้าไปแทรกแซง ตามกลไกที่ตนเองมีอิทธิพล ดังนั้น ต้องจับตาว่าสิ่งที่ทรัมป์พูด กับสิ่งที่ทำจะไม่ใช่เรื่องเดียวกัน แม้บอกว่ากีดกันจีน แต่เอาเข้าจริงอาจไม่เป็นอย่างนั้น
ภาพที่เห็นบรรดามหาเศรษฐีชั้นนำเข้าไปในงานสาบานตน ส่วนใหญ่เป็นสมาชิกของ CFR แสดงถึงความสัมพันธ์ที่เหนียวแน่น และมีอิทธิพลต่อการดำเนินนโยบายของสหรัฐหลังจากนี้
น่าสนใจว่า โดนัลด์ ทรัมป์ และ อีลอน มัสก์ มีความมุ่งหมายอยากได้ "กรีนแลนด์” และการสนับสนุนการเมืองของบางฝ่ายในเยอรมัน ดังนั้น สิ่งที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ทำได้คือ พยายามผูกมิตรไว้กับจีน เพื่อคานอำนาจรัสเซีย ที่ไม่พอใจแน่หากอเมริกาจะเข้าไปยึด "กรีนแลนด์”
“ตอนนี้ ทรัมป์ คงใช้อำนาจรัฐ ส่วน อีลอน มัสก์ จะใช้เทคโนโลยี มาประกอบกันเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงให้อเมริกายิ่งใหญ่ ส่งผลให้นานาประเทศทั่วโลกจะรับมือกับทรัมป์ ในรอบนี้ยากขึ้นกว่าครั้งก่อน เพราะทรัมป์เป็นนักต่อรอง แต่ถึงอย่างไร ก็ไม่สามารถทำลายเป้าหมายของ CFR ได้"
ไทย-อาเซียน การรับมือนโยบาย "โดนัลด์ ทรัมป์"
ในแง่การรับมือกับนโยบายของ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ถาโถมมากระทบไทยและอาเซียน "รศ.ดร.ณรงค์" วิเคราะห์ว่า แม้อเมริกามีท่าทีผ่อนปรนกับจีน ด้วยเงื่อนไขของ "กรีนแลนด์” ทำให้อาเซียนเป็นเหมือนตลาดรองของตลาดการค้าในระดับโลก ขณะที่จีนพยายามขยายอำนาจด้านเศรษฐกิจด้วยการกระจายสินค้าราคาถูกมาไทย เพื่อกระจายส่วนแบ่งตลาด จนกระทบกับผู้ประกอบการรายย่อย
“ไทยต้องพยายามทำตัวเป็นเหมือนสัตว์ตัวเล็ก ที่หูไว ตาไว และเคลื่อนไหวเร็ว ต้องอ่านเกมให้ขาด เพราะเกมทางลับ ไทยสู้เขาไม่ได้ ไทยต้องพยายามหลีกเลี่ยงการปะทะ พยายามสงวนตัวเองไว้ หลบหลีกชาติมหาอำนาจที่ต่อสู้กันไว้ให้ได้ก่อน แต่ต้องทำในสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของไทยให้ชัดเจนเป็นที่ยอมรับ เพื่อดึงดูดความต้องการของชาวต่างชาติก่อน นี่จะเป็นฐานสำคัญในการดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติให้มาไทย”
รัฐบาลไทยควรสร้างความแข็งแกร่งในการส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก มีกว่า 58% ที่เป็นการใช้สอยของประชาชนทั่วไป แต่ตอนนี้ไทยกลับส่งเสริมน้อย และเสี่ยงได้รับผลกระทบอย่างหนัก หาก โดนัลด์ ทรัมป์ ดำเนินนโยบายที่ไม่เป็นผลดี และเสี่ยงที่เศรษฐกิจไทยจะล้มไปด้วย หากไม่มีการสร้างความเข้มแข็งในส่วนนี้
ขอบคุณแหล่งที่มา : thairath
ข่าวใหม่
ความคิดเห็น