รายละเอียดล่าสุด ดิจิทัลวอลเล็ต นับเงินฝาก-อายุ เกณฑ์ไหนยังเหมือนเดิม
เปิดรายละเอียดล่าสุด โครงการ ดิจิทัลวอลเล็ต แจกเงิน 10,000 บาท อายุ 16 ปีบริบูรณ์ ถึงวันไหน นับยอดเงินฝากไม่เกิน 500,000 บาท เผย หลักเกณฑ์ไหนยังคงเดิม
วันที่ 9 พ.ค.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการกำกับการดำเนินโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet เมื่อวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยมีการหารือรายละเอียดต่าง ๆ ทั้งหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และระบบที่จะใช้ในการแจกเงินโครงการนี้
เกณฑ์อายุ 16 ปี
กำหนดให้จะต้องมีอายุ 16 ปีบริบูรณ์ ภายในวันที่ 30 ก.ย.2567 หรือต้องเกิดก่อน 1 ต.ค.2551
เกณฑ์เงินฝากกำหนดไม่เกิน 500,000 บาท
นับยอดเงินฝากทั้งในส่วนของธนาคารพาณิชย์ และธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ อาทิ เงินฝากกระแสรายวัน เงินฝากออมทรัพย์ เงินฝากประจำ บัตรเงินฝาก ใบรับเงินฝาก ผลิตภัณฑ์เงินฝาก
นับยอดบัญชีเงินฝากถึงวันที่ 31 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา
เงินฝากดังกล่าว ต้องเป็นเงินฝากสกุลเงินบาทเท่านั้น
ไม่นับรวมสลากออมทรัพย์
เกณฑ์รายได้ ไม่เกิน 840,000 บาทต่อปีภาษี
วัดจากฐานข้อมูลเงินได้ของกรมสรรพากร ณ ปี 2566 ซึ่งสิ้นสุดไปแล้วเมื่อ 31 ธันวาคม 2566
นับรวมทุกรายได้ที่ยื่นในระบบภาษี (เงินเดือน, ค่าจ้าง, ค่างานฟรีแลนซ์, ค่ารับเหมา, ค่าเช่า, ดอกเบี้ย ปันผล, รายได้ลิขสิทธิ์ต่าง ๆ)
รายละเอียดอื่น ยังคงเดิม
สำหรับรายละเอียดอื่น ๆ ในการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ยังคงเป็นไปตามเดิม ดังนี้
การลงทะเบียนจะเริ่มต้นภายในไตรมาส 3 ของปี 2567 และจะเริ่มใช้จ่ายภายในไตรมาส 4 ของปี 2567
เกณฑ์ซื้อสินค้า ยังเป็นสินค้ากลุ่มเดิม ยกเว้นบริการและสินค้าต้องห้าม (สินค้าที่ยกเว้น คือ สินค้าอบายมุข น้ำมัน บริการ และออนไลน์ เป็นต้น และสิ่งที่กระทรวงพาณิชย์จะกำหนดเพิ่มเติม)
เกณฑ์ร้านค้าขนาดเล็ก ยังเป็นเหมือนเดิม เข้าร่วมได้ทั้งนิติบุคคล และบุคคลธรรมดา (ยกเว้น ซูเปอร์มาร์เก็ต ไฮเปอร์มาร์เก็ต)
ทั้งนี้ ในการประชุมดังกล่าว สำหรับสินค้า Negative List ยังไม่มีการพิจารณาเพิ่มเติม ซึ่งจะมีการนัดประชุมอีกครั้งในสัปดาห์หน้า
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง กล่าวว่า การประชุมวันนี้ส่วนใหญ่เป็นการหารือในเรื่องระบบ และเงื่อนไขต่าง ๆ เพื่อให้โครงการดำเนินต่อไปได้ เช่น เรื่องการยืนยันตัวตนจะเชื่อมอย่างไร ตัดสิทธิที่วันไหน เรื่องเงินฝากตัดวันไหน รวมอะไรบ้าง
รวมถึงการเชื่อมโยงข้อมูลกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในโครงการ อาทิ การเชื่อมโยงข้อมูลกับกรมสรรพากร กรมการปกครอง เป็นต้น เพื่อหาข้อสรุปและดำเนินการต่อ
“แอปพลิเคชันที่จะใช้ในโครงการ กระบวนการยังดำเนินต่อเนื่อง ต้องมีการทำข้อตกลงกับหลายหน่วยงาน เช่น การตรวจสอบข้อมูลบัญชีเงินฝาก ก็จะต้องหารือกันว่าจะเชื่อมถังข้อมูลอย่างไร ใครรับผิดชอบส่วนไหน โดยเบื้องต้นจะใช้แอปพลิเคชันทางรัฐในการเชื่อมโยงข้อมูล” นายเผ่าภูมิ กล่าว
ขอบคุณแหล่งที่มา : khaosod
ความคิดเห็น