ผลเลือกตั้งสหรัฐฯ : ทรัมป์ชนะแล้ว จะเกิดอะไรขึ้นกับคดีที่เขาถูกฟ้อง?
โดนัลด์ ทรัมป์ จะกลายเป็นประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐฯ ที่รับตำแหน่งในขณะที่ถูกฟ้องร้องคดีอาญาหลายคดี การได้เป็นประธานาธิบดี จะส่งผลออย่างไรกับคดีความเหล่านี้บ้าง
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า การที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ รับตำแหน่งโดยถูกฟ้องร้องคดีอาญาอยู่ เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในแดนลุงแซม นักวิเคราะห์คาดว่า คดีของ โดนัลด์ ทรัมป์ หลายคดีจะถูกยกฟ้องหลังเขารับตำแหน่ง ขณะที่ทีมของนายทรัมป์กับเจ้าหน้าที่ที่ดูแลคดีที่เขาถูกฟ้องตามกฎหมายกลาง หารือกันมานานแล้วว่าจะชะลอกระบวนการอย่างไร
ปัจจุบัน คดีอาญาที่นายทรัมป์ถูกฟ้องร้องอยู่มีทั้งสิ้น 4 คดี และอะไรจะเกิดขึ้นกับคดีเหล่านี้บ้าง
คดีจ่ายเงินปิดปาก-ปลอมแปลงเอกสารทางธุรกิจ
เมื่อเดือนพฤษภาคม นายทรัมป์ถูกศาลตัดสินว่ามีความผิดทั้ง 34 ข้อหาที่เกี่ยวข้องกับการปลอมแปลงเอกสารทางธุรกิจ เพื่อปกปิดเรื่องการจ่ายเงินให้แก่ น.ส.สตอร์มี แดเนียลส์ ดาราหญิงผู้ใหญ่ ไม่ให้เธอออกมาเปิดเผยเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับโดนัลด์ ทรัมป์
ผู้พิพากษา ฮวน เมอร์ชาน เลื่อนวันประกาศบทลงโทษของนายทรัมป์จากในเดือนกันยายน ไปเป็น 26 พ.ย. หรือหลังการเลือกตั้ง ซึ่งอาจสามารถดำเนินการตามกำหนดการเดิมได้ แม้นายทรัมป์จะชนะเลือกตั้ง ผู้เชี่ยวชาญมองว่า นายทรัมป์อาจไม่ถูกลงโทษจำคุกในคดีนี้ เนื่องจากเป็นการกระทำผิดครั้งแรก
แต่ถ้าเขาถูกตัดสินจำคุก ทนายของเขาจะยื่นอุทธณณ์ทันที โดยใช้ข้อแก้ต่างว่า ช่วงเวลาที่ถูกจำคุกทำให้นายทรัมป์ไม่สามารุปฏิบัติหน้าที่ได้ และเขาควรเป็นอิสราเอลระหว่างรอศาลพิจารณาคดี
คดี 6 มกราคม จลาจลรัฐสภา
อัยการพิเศษ แจ็ค สมิธ ยื่นฟ้องร้องคดีอาชญากรรมต่อนายทรัมป์เมื่อปีก่อน กล่าวหาทรัมป์ว่าพยายามล้มล้างผลการเลือกตั้งในปี 2563 ซึ่ง โจ ไบเดน เป็นผู้ชนะ
นายทรัมป์ปฏิเสธข้อกล่าวหา ขณะที่การกำลังคดีเข้าสู่ภาวะชะงักงัน หลังศาลสูงสุดตัดสินว่า นายทรัมป์มีความคุ้มครองบางส่วน จากการถูกดำเนินคดีอาญา สำหรับการกระทำอย่างเป็นทางการที่เกิดขึ้นระหว่างดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี แต่นายสมิธก็โต้แย้งว่า การพยายามล้มล้างผลการเลือกตั้ง ไม่เกี่ยวกับหน้าที่ของประธานาธิบดี
อย่างไรก็ตาม ชัยชนะของนายทรัมป์ทำให้คดีนี้หมดปัญหาแล้ว โดยนายนีมา ราห์มานี อดีตอัยการศาลรัฐบาลกลาง ระบุว่า สหรัฐฯ มีระบบที่วางมาอย่างดีว่า ประธานาธิบดีในตำแหน่งไม่สามารถถูกดำเนินคดีได้ ดังนั้นคดีการฉ้อโกงเลือกตั้งที่ศาลแขวง ดี.ซี. จะถูกยกฟ้อง
แต่ถ้านายสมิธไม่ยอมถอนฟ้อง นายทรัมป์ก็แค่ปลดเขาออกจากตำแหน่ง เหมือนกันที่ลั่นวาจาไว้เมื่อเดือนตุลาคมเท่านั้น
คดีจัดการเอกสารลับ
นี่เป็นอีก 1 คดีที่ยื่นฟ้องร้องโดยนายสมิธ โดยเขากล่าวหานายทรัมป์ว่า บริหารจัดการเอกสารลับของราชการอย่างไม่เหมาะสม หลังเขาออกจากทำเนียบขาว ซึ่งแน่นอนว่านายทรัมป์ปฏิเสธข้อกล่าวหา
นายทรัมป์ถูกกล่าวหาว่า เก็บเอกสารที่มีเนื้อหาอ่อนไหว ไว้ในรีสอร์ต มาร์-อา-ลาโก ของเขา และขัดขวางการปฏิบัติการหน้าที่ของเจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมที่พยายามไปเก็บเอกสารกลับมา
อย่างไรก็ตาม ผู้พิพากษาในคดีนี้คือ น.ส.ไอลีน แคนนอน ที่ทรัมป์เป็นผู้แต่งตั้งกับมือ และเธอก็ยกฟ้องคดีนี้ในเดือนกรกฎาคม โดยอ้างว่า นายสมิธได้รับการแต่งตั้งเป็นอัยการพิเศษอย่างไม่เหมาะสม เพื่อมาทำคดีนี้
นายสมิธกำลังยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำตัดสิสน แต่เมื่อนายทรัมป์กำลังจะรับตำแหน่งประธานาธิบดี ชะตากรรมของคดีนี้ก็คงไม่ต่างจากคดีฉ้อโกงการเลือกตั้ง
คดีล้มล้างการเลือกตั้งที่จอร์เจีย
นายทรัมป์ถูกฟ้องร้องคดีอาญาที่ศาลรัฐจอร์เจีย ข้อหาสมรู้ร่วมคิดพยายามล้มล้างผลการเลือกตั้งปี 2563 ในรัฐจอร์เจีย
คดีนี้เผชิญอุปสรรคมากมาย รวมถึงความพยายามทำให้ น.ส.ฟานี วิลลิส อัยการศาลแขวงขาดคุณสมบัติ จากการที่เธอมีความสัมพันธืกับอัยการอีกคนที่เธอจ้างมาเพื่อทำคดีนี้ และตอนนี้ศาลอุทธรณ์กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาว่า วิลลิสควรได้ทำคดีนี้ต่อหรือไม่
แต่ตอนนี้ ทรัมป์กลายเป็นว่าที่ประธานาธิบดีคนต่อไปแล้ว คดีนี้ก็อาจจะถูกลากยาวออกไป หรือถูกยกฟ้องไปเลย เนื่องจากสิทธิ์คุ้มครองจะทำให้การพิจารณาคดีนี้ไม่เกิดขึ้น จนกว่าเขาจะลงจากตำแหน่งในอีก 4 ปีข้างหน้า
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ติดตามการเลือกตั้งสหรัฐฯ 2024 ได้ที่ ไทยรัฐออนไลน์ https://www.thairath.co.th/uselection2024
ความคิดเห็น