ทักษิณยัวะ ด่าแต่รัฐบาล สมเพชพวกมองโลกแย่ เย้ยคนแก่ตกยุค ผูกปีแพ้ ลุยชิงนายกอบจ.เชียงราย
“ทักษิณ” เปิดศักราช 2568 ร้อนระอุ ทุ่มช่วย “สลักจฤฎดิ์” ชิงนายก อบจ.เชียงราย บ่นอุบระบบวางไว้ดีๆทำกันจนป่นปี้ สมเพชพวกมองโลกแย่จ้องด่าแต่รัฐบาล รับหลงลูกสาวมีอะไรเปย์ให้หมด ยินดีเสียตำแหน่งแชมป์นายกฯรวยสุดให้ เย้ยคนแก่ตกยุคผูกปีแพ้แค้นไม่เลิก โวปี 68 ประชาชนเริ่มฝันได้ สั่งกดค่าไฟให้อยู่หมัด ถ้าต่างจังหวัดไม่ฟื้นกรุงเทพฯฟื้นยาก สยบข่าวเขี่ย “พีระพันธุ์” พ้น ครม. “เท้งเต้ง” ยกทีมลุยเชียงใหม่เหงาๆ “ชูศักดิ์” ลั่นเข็นร่างกาสิโนเสรีเข้าสภา “วิสุทธิ์” ย้ำแก้ รธน.ไม่กล้าแตะสูตรสรรหา สว.พิสดาร โพลชี้คนมองการเมืองปี 68 ยังวุ่นวาย จี้แก้ปากท้องจริงจังไม่หลอกลวง
นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ดีเดย์หลังเทศกาลปีใหม่ 2568 ยกพลช่วยนางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช ผู้สมัครนายก อบจ.เชียงราย พรรคเพื่อไทย (พท.) หาเสียงคึกคัก ร่ายยาวหลายประเด็นทั้งสถานการณ์การเมืองในปี 2568 การขับเคลื่อนนโยบายที่รัฐบาลต้องทำ รวมไปถึงการตอบโต้ทางการเมืองอันดุเดือด
“ทักษิณ” ทุ่มสุดตัวสนามเชียงราย
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 5 ม.ค.ที่สนามบินแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ช่วยหาเสียงของนางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช ผู้สมัครนายก อบจ.เชียงราย พรรคเพื่อไทย (พท.) เดินทางถึง จ.เชียงราย มีกลุ่มคนเสื้อแดงมารอต้อนรับกันแน่นสนามบิน บางคนเข้าสวมกอดและขอถ่ายรูป ต่อมาเวลา 11.30 น. คณะนายทักษิณ เดินทางถึงโรงเรียนปล้องวิทยาคม อ.เทิง พร้อมขึ้นเวทีปราศรัยว่า วันนี้มาด้วย 3 เหตุผล คือ 1.คิดถึงชาวเชียงราย ไม่ได้เจอกันมา 20 กว่าปี 2.นาย
ยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นน้องรักสร้างพรรคมาด้วยกัน เมื่อนายยงยุทธตัดสินใจส่งนางสลักจฤฎดิ์ลงนายก อบจ. จึงมาสนับสนุนนางสลักจฤฎดิ์ให้ชนะเลือกตั้ง และ 3.น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นลูกสาว เรามีหน้าที่สนับสนุน เพราะสร้างพรรคมา จึงต้องมาเชียร์นางสลักจฤฎดิ์เต็มที่
ระบบดีๆทำไว้ถูกทำลายจนป่นปี้
นายทักษิณกล่าวว่า เดิมไม่ได้สนใจการเมืองท้องถิ่น เพราะก่อนหน้านั้นเป็นรัฐบาลมาจากพรรคใหญ่ มีกลไกในทุกกระทรวง แต่วันนี้เราไม่ได้มี สส. 200 คน เหมือนเมื่อก่อน การเลือกตั้งสมัยหน้าก็ขอคืน สส.ให้กับพรรค พท.ให้หมด ดังนั้นพรรค พท.จึงมองว่าการเมืองท้องถิ่นเป็นกลไกสำคัญ และตอนกลับมานั่งดูปัญหาทุกเรื่อง สิ่งที่เคยแก้ไว้มันหายไปหมด 17-18 ปีที่ไม่ได้อยู่ในประเทศไทย ระบบเสียหายไปหลายอย่าง วันนี้เลยต้องมานั่งดูว่าจะทำอย่างไรบ้าง ให้ต่างจังหวัดฟื้นก่อน หากเศรษฐกิจในต่างจังหวัดฟื้นมีกินมีใช้ เศรษฐกิจประเทศก็จะดี
ซัดพวกมองโลกแย่ด่าแต่รัฐบาล
นายทักษิณกล่าวต่อว่า หมู่คนแอฟริกาเดินแบบครั้งหนึ่งเป็นล้านบาท เด็กบ้านเรายังหน้าตาดีกว่า ไม่ต้องไปทำจมูก เสริมกราม ต่อไปนี้เราจะคัดคนบ้านเราที่เป็นชนชาติไทย คนดอย คนกะเหรี่ยง ที่สวยธรรมชาติ ใครบุคลิกดีส่งไปเป็นนางแบบระดับโลก ใครเล่น TikTok บ้าง 2-3 วันนี้ว่างวันหยุดเลยนั่งดูตามโซเชียล “ไอ้พวกนี้นะ ชีวิตมันอีกนิดเดียวก็จะผูกคอตาย เพราะมองโลกแย่ไปหมด ตื่นมาก็เห็นว่าโลกไม่ดีแล้ว อีกไม่กี่วันจะส่งเชือกให้ ตื่นเช้ามาก็ด่ารัฐบาล บ่ายมาก็ด่ารัฐบาล ด่าอยู่นั่นมีอยู่ 4-5 ตัวที่ด่า พวกนี้สงสัยคงอยากได้เชือก เหลือก็แต่ด่าพ่อด่าแม่มัน รู้สึกสมเพชคนพวกนี้ อยากจะเอามาฝึกอาชีพ แต่ดูท่าแล้วจะเป็นคนไม่ขึ้นซ่าง ทำนองว่ามีหลักไว้ให้แต่ไม่เลื้อยขึ้น เลื้อยลงตลอด เราเอาคนไทยทั้งหมดอยากขึ้นซ่าง งั้นเรามาทำซ่างให้คนไทยขึ้น”
รับหลงลูกสาวมีอะไรเปย์ให้หมด
นายทักษิณกล่าวว่า ถามคนในครอบครัวว่าใครจะอาสาเป็นนายกฯ น.ส.แพทองธาร ลูกคนเล็กอาสาเสียสละทำงานให้บ้านเมือง ที่ผ่านมามีคนไปค่อนแคะว่ามีเครื่องแต่งตัวเยอะ เขาเป็นลูกคนสุดท้องตนเป็นคนหลงลูกสาว จึงซื้อของแต่งตัวให้เยอะมีอะไรก็ซื้อให้หมด เลยมีของเยอะเพราะพ่อซื้อให้เอาใจ ปีนี้เลยต้องใช้งาน เมื่อกล่าวมาถึงตรงนี้มีมวลชนตะโกนว่าให้นายทักษิณกลับมาเป็นนายกฯ นายทักษิณจึงตอบกลับว่า แก่แล้ว ขอสนับสนุนให้ลูกเป็น แล้วคอยส่งเสริมดีกว่า ได้ค่าช่วยหาเสียงวันละ 300 บาท วันนี้มา 3 เวทีได้เวทีละ 100 บาท มาลำบากก็ตอนแก่ ตอนไม่เล่นการเมืองก็สบายมีเงินอยู่ 60,000 ล้านบาท พออยู่ไปอยู่มาจนลง เพราะโดนยึดบ้าง โดนหาเรื่องบ้างสารพัดอย่าง “พวกควายพวกนี้ หาว่าผมไปเอาตังค์ที่ไหนมา ก็รวยมาตั้งแต่ปี 2535-2536 แล้ว ตอนนั้นผมรวยที่สุดในประเทศ แต่ตอนนี้จนพอๆกับชาวเชียงราย”
เย้ยคนตกยุคผูกปีแพ้แค้นไม่เลิก
นายทักษิณกล่าวอีกว่า วันนี้ความคิดของคนไม่เหมือนกัน เรามีความคิดแบบคนสมัยใหม่ คนรุ่นเก่าบางคนออกมาด่าสารพัด มีอยู่คนหนึ่งหาว่าเราสร้างความวุ่นวาย ตั้งแต่แพ้การเลือกตั้งเมื่อปี 2544 ก็แค้นจนถึงทุกวันนี้ เขตเลือกตั้งมี 450 คนเลือกเขาแค่ 47 คน แก่แล้วยังลงเลือกตั้งอยู่ แต่ตนพอแล้วไม่อยากอะไรแล้ว ช่วยประชาชนดีกว่า ทำงานให้บ้านเมือง ไม่มีเงินก็ไม่เป็นไร ตอนนี้เป็นชาวเกาะ แก่แล้วกลับมาเป็นชาวเกาะ เกาะเมียกิน ส่วนโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ที่รัฐบาลประกาศเทคโนโลยีจะเสร็จเดือน มี.ค. เสร็จแล้วเราจะโอนเงินให้คนที่มีอายุต่ำกว่า 60 ลงมา ส่วนวันที่ 29 ม.ค. เป็นเงินให้สำหรับคนที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป อีกหน่อยการติดต่อกับรัฐบาลจะผ่านดิจิทัล วอลเล็ตหมด เงินไม่ใช่ทุกอย่างแต่เป็นเกือบทุกอย่าง ใช้เงินสร้างเศรษฐกิจ สร้างความสุขในครอบครัว กลับมาเห็นประเทศทรุดไปมาก ถามว่าจะทำได้หรือไม่ ทำได้แต่อาจยากหน่อย มั่นใจว่าพรรค พท.ภายใต้การนำของ น.ส.แพทองธาร จะแก้ปัญหาประเทศรอบนี้ได้ ปี 68 ประชาชนจะเห็นว่าเริ่มฝันได้ และปลายปีต้องฝันแล้วว่าปีหน้าเราจะทำอะไร ปี 68 ต้องเป็นปีที่ทุกคนขยันทำงาน
ลั่นในปีนี้ค่าไฟต้องอยู่ที่เลข 3
นายทักษิณกล่าวว่า ขณะนี้บ้านเราหนี้ประชาชนหนี้ประเทศสูง ขอเวลาอีก 2 ปีหนี้ประเทศจะลดลง บ้านเรามีเสือนอนกินมีทุกวงการ กำลังนั่งไล่ให้รัฐมนตรีไปพูดกับข้าราชการก็มีคำแก้ตัวสารพัด นายกฯก็ไปพูดกับรัฐมนตรีว่าต้องทำให้ได้ ถ้าทำไม่ได้จะเปลี่ยนคนมาแทน รัฐมนตรีจึงกระเตื้อง อย่างเรื่องข้าว เรื่อง ไฟฟ้า ปีนี้ค่าไฟฟ้าต้องลงไปอยู่ที่เลข 3 ไม่ใช่เลข 4 ในใจอยากให้เหลือ 3.50 บาท แต่คงได้แค่ 3.70 บาท กำลังให้เขาช่วยทุบอยู่ ปีนี้ค่าไฟลงแน่เห็นตัวเลขแล้วทุบได้ ต่อไปค่าอาหารสัตว์ ค่าปุ๋ย ค่ายาก็จะให้ลง ต้องทำให้เป็นจริงภายในปี 68 นี้ ถึงบอกว่าปีนี้รัฐบาลต้องทำงานหนัก ยาเสพติด Call Center ต้องเอาให้เกลี้ยง การผูกขาดทุกรูปแบบต้องเอาให้หมด ให้พี่น้องมีค่าใช้จ่ายในชีวิตต่ำลง ทำรายได้ให้ดีขึ้น มีโอกาสดีขึ้น ส่วนเรื่องโฉนดที่ดินทำกินทั้งหลายกำลังคุยกันอยู่ ที่ดินสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) จะให้เป็นแค่โฉนด ส.ป.ก.ไม่ได้ ต้องเปลี่ยนเป็นโฉนดจริง เชื่อรัฐบาลจะแก้ปัญหาประเทศได้ไม่เกินมือ
“เต้น” ฟุ้ง รบ. “อิ๊งค์” พร้อมต่อรอบ 2
ด้านนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษาของนายก รัฐมนตรี กล่าวปราศรัยว่า นายทักษิณเป็นเจ้าของสถิติไปจังหวัดไหนชนะทุกที่ ไม่ว่าจะ จ.ปทุมธานี อุดรธานี อุบลราชธานี ชนะมาหมด เวทีไหนเวทีนั้นไม่เคยแพ้ และเวทีเชียงรายนี้นายทักษิณมาเอง ดังนั้นเมื่อ “ยอดรัก สลักใจ” นายกเชียงรายต้อง “สลักจฤฎดิ์” หลายคนมาถามว่านายกฯจะไปรอดหรือไม่ เลยตอบกลับไปว่า รัฐบาลอยู่ครบเทอมจนถึงเลือกตั้ง แล้วกลับมาใหม่ “หลายคนบอกว่านายกฯต้องมีพ่อคอยสอนมีพ่อคอยแนะ ก็เขาเป็นพ่อลูกกัน แล้วพ่อเคยเป็นนายกฯมาก่อน ทำงานมีประสบการณ์มีผลงานมาก่อน จะแนะนำให้คำปรึกษาลูกมันแปลกตรงไหน หรือพวกคุณต้องการนายกฯที่พ่อแม่ไม่สั่งสอน ขนาดนายกฯมาเลเซียยังเชิญนายทักษิณไปเป็นที่ปรึกษาประธานอาเซียน นับประสาอะไรกับนายกฯแพทองธาร ที่เป็นลูกสาวจะขอคำชี้นำไม่ได้ มองว่าเป็นกำไร เพราะนายกฯแพทองธารกำลังสดใหม่ บวกกับนายทักษิณที่เป็นนายกฯระดับโลก”
ต่างจังหวัดไม่ฟื้นกรุงเทพฯฟื้นยาก
ต่อมานายทักษิณให้สัมภาษณ์ว่า เท่าที่ดูนางสลักจฤฎดิ์น่าจะชนะเลือกตั้ง เพราะประชาชนยังคงให้การสนับสนุน ส่วนเศรษฐกิจในปี 68 สิ่งสำคัญเราต้องมองโครงสร้างปัญหาเศรษฐกิจ ต้องเร่งแก้ไขก่อน เช่น เม็ดเงินที่ไม่ได้อยู่ในระบบ ทำให้หล่อเลี้ยงเศรษฐกิจไม่ได้ และต้องพัฒนาคนในระบบเศรษฐกิจ อย่างเศรษฐกิจสร้างสรรค์ คนไทยมีศักยภาพแต่ต้องฝึกฝนให้ดี รวมถึงอุตสาหกรรมด้านการท่องเที่ยว เมื่อเม็ดเงินมีคนรองรับ ระบบไปได้ ก็ต้องทำพร้อมๆกัน อาจต้องมีเรื่องการใช้จ่ายภาครัฐเมกะโปรเจกต์บ้าง การจะฟื้นเศรษฐกิจ ถ้าต่างจังหวัดไม่ฟื้นกรุงเทพฯฟื้นยาก ต้องฟื้นไปด้วยกัน เมื่อถามว่าจะรับเป็นที่ปรึกษาให้นายกฯในเรื่องเศรษฐกิจหรือไม่ นายทักษิณตอบว่า นายกฯกำลังเรียกประชุมหลายฝ่าย เพื่อตกผลึกวิธีการทำงานให้บรรลุเป้าหมาย
เผย “อิ๊งค์” จ่อเรียกคุยลดค่าไฟฟ้า
ผู้สื่อข่าวถามว่ามาปราศรัยรอบนี้ค่อนข้างดุเดือด ถึงขั้นโยนเชือกให้พวกที่จ้องด่ารัฐบาล นายทักษิณตอบว่า พูดเล่น แค่บอกว่าเขามีความเครียดในชีวิต ไม่มีอะไร ตื่นเช้ามาก็ด่า สงสัยเครียดถึงขั้นจะฆ่าตัวตายหรือเปล่า ถ้าอยากฆ่าตัวตายก็เอาเชือกไปแล้วกัน ส่วนที่แย้มเรื่องแนวทางทุบค่าไฟให้เหลือ 3.70 บาทต่อหน่วยนั้น ไปดูมาแล้วสามารถรีดไขมันจากค่าไฟได้จำนวนหนึ่ง ดูว่าน่าจะลงได้อีก นายกฯดูแล้วจะเรียกประชุมให้ทุกคนเต็มใจยอมรับกับการรีดไขมันครั้งนี้ รวมถึงภาคเอกชนด้วยต้องช่วยกัน วันนี้ถ้าชาวบ้านจนเอกชนไม่มีรวย ถ้าอยากรวยต้องให้ชาวบ้านหายจน ตัวเลข 3.70 ดูเหมือนหนัก แต่เป็นสิ่งที่เป็นไปได้
สยบข่าวเขี่ย “พีระพันธุ์” พ้น ครม.
เมื่อถามว่าได้พูดคุยกับนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน หรือไม่ นายทักษิณตอบว่า วันก่อนก็มานั่งคุยกัน คุยกับนายพีระพันธุ์และไฟฟ้าให้หาทางช่วยกัน เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวนายพีระพันธุ์อาจถูกปรับออกจาก ครม.รอบนี้ นายทักษิณร้อง อ๋อ พร้อมตอบว่า ไม่มี คุยกันรู้เรื่องไม่มีอะไรเลย นายพีระพันธุ์เป็นคนตั้งใจ รู้จักกันมานาน มีความคุ้นเคยกัน รู้เรื่องทุกเรื่อง เมื่อถามย้ำว่านายกฯมีการเปรยเรื่องการปรับ ครม. หรือไม่ นายทักษิณตอบว่า ไม่มีเลย วันนั้นคุยกันเขาบอกว่ายังสบายๆ ถ้าทำงานกับ ครม.ชุดนี้ไม่มีปัญหา ยังไปกันได้ดี เมื่อถามว่าเสียแชมป์นายกฯที่รวยที่สุดของไทยให้กับลูกสาว นายทักษิณตอบว่า ไม่เป็นไรอย่างมากก็ให้ลูกเลี้ยง มีคนบอกว่ารัฐบาลพ่อเลี้ยง เราดีหน่อยลูกเลี้ยงเรา เมื่อถามว่าหลายคนมองว่า น.ส.แพทองธารรวยมาก นายทักษิณตอบว่า อยู่เมืองนอกไม่รู้ทำอะไรเจอของสวยๆงามๆก็ซื้อให้ลูก ช็อปปิ้งไป
“เท้ง” ยกทีมลุยเชียงใหม่เหงาๆ
ที่ จ.เชียงใหม่ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) พร้อมคณะ ลงพื้นที่ช่วยนายพันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่ หาเสียงหลายจุด เช่น ตลาดประตูเชียงใหม่ จากนั้นขึ้นรถแดงไปร่วมวงเสวนากับผู้ประกอบการเกี่ยวกับการผลักดันเรื่องธุรกิจและเทคโนโลยี ที่ร้าน The Brick start up space ย่านถนนศิริมังคลาจารย์ อ.เมืองเชียงใหม่ เป็นที่น่าสังเกตว่าบรรยากาศเป็นไปอย่างเงียบเหงา สาเหตุหนึ่งมาจากสื่อมวลชนประจำพรรค ปชน. ไม่ทราบกำหนดการว่านายณัฐพงษ์ และคณะมีกำหนดการหาเสียง อบจ.ในวันใดบ้าง เนื่องจากพรรค ปชน.ไม่ค่อยแจ้ง และไม่ให้ความสำคัญกับการแจ้งกำหนดการลงพื้นที่ล่วงหน้าของบรรดาแกนนำ อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 6 ม.ค. นายณัฐพงษ์จะเดินทางไปช่วยผู้สมัครนายก อบจ.ลำพูน หาเสียงเป็นคิวถัดไป
พท.ลุยเข็น ก.ม.กาสิโนเสรีเข้าสภา
วันเดียวกัน นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีรัฐบาลเตรียมผลักดันร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์เข้าสภาฯ ในสมัยประชุมนี้ว่า ถือเป็นกฎหมายเรือธงรัฐบาลที่จะสร้างรายได้เข้าประเทศมหาศาล สร้างงาน ขอย้ำว่ากาสิโนเป็นเพียงส่วนหนึ่งของเอนเตอร์เมนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ที่ภายในมีสนามกีฬา ที่พัก โรงแรม สถานที่พักผ่อนหย่อนใจ เป็นเมืองใหม่ที่แสดงถึงความเจริญก้าวหน้า เมื่อถามว่ามองวุฒิสภาเป็นอุปสรรค หรือเป็นโอกาสต่อการพิจารณากฎหมายเรือธงของรัฐบาล นายชูศักดิ์ตอบว่า ต้องพยายามชี้แจงทำความเข้าใจ “วันก่อนระหว่างรับประทานอาหารที่สภาฯ มี สส.อาวุโส รัฐมนตรี พูดถึงรองประธาน (วุฒิสภา) คนหนึ่งที่เป็นทหาร เขาบอกว่ากำลังเชิญกรมสนธิสัญญาระหว่างประเทศมาชี้แจงให้วุฒิสภาฟังว่า ที่ไปที่มาของเอ็มโอยูเป็นอย่างไร ทุกคนทึ่งที่มีความคิดเป็นอย่างนั้น ท้ายสุดมีลักษณะไม่ต่างอะไรกันทั้ง สส. สว. ให้สังคมตัดสิน เอาที่สำคัญคือชี้แจงทำความเข้าใจ เป็นผู้หลักผู้ใหญ่กันแล้วคงจะฟังเหตุฟังผล”
ชิวๆฝ่ายค้านโหมซักฟอกรัฐบาล
เมื่อถามว่าฝ่ายค้านเตรียมยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เป็นห่วงอะไรเป็นพิเศษ นายชูศักดิ์ตอบว่า ยังไม่เห็นประเด็นที่แหลมคมถึงขนาดนำไปอภิปรายไม่ไว้วางใจ รัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร บริหารประเทศ 3 เดือนกว่า ยังไม่มีอะไรส่อให้เห็นว่าเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง อาจมี 2 เหตุผล คือ ส่วนใหญ่เป็นเชิงบริหารเรื่องนั้นไม่ได้ ทำเรื่องนี้ชักช้า ไม่ได้แก้ปัญหาตรงนั้นตรงนี้ แต่ฝ่ายค้านอาจมีทีเด็ดอะไรก็สุดแต่เขา
ย้ำ พท.อยู่ในแถวเดินเกมแก้ รธน.
นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญช่วงกลางเดือน ม.ค.ว่า เตรียมขอมติจากที่ประชุม สส.พรรควันที่ 7 ม.ค. ว่าจะเห็นชอบกับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ฝ่ายกฎหมายพรรคจะเสนอประกบกับร่างของพรรคประชาชนหรือไม่ ในร่างของพรรคเพื่อไทยยึดสาระสำคัญคือ ไม่แตะหมวด 1 หมวด 2 รวมถึงมาตราที่เกี่ยวข้องกับพระราชอำนาจทุกมาตรา อีกทั้งไม่แก้ไขประเด็นที่อาจสร้างความแตกแยกขัดแย้งในสังคม ต้องคำนึงถึงประโยชน์ประชาชน ให้ประเทศเดินหน้าผาสุก ร่างพรรคเพื่อไทยแตกต่างกับพรรคประชาชนยึดหลักการไม่กระทบคนส่วนใหญ่ ไม่กระทบจิตใจคนไทยทั้งประเทศ ไม่ต้องการให้มีรายละเอียดแบบสุดโต่ง หากเอาแบบนั้นจะมีความขัดแย้ง สังคมแบ่งเป็น 2 ฝ่าย จะมีการชุมนุม การทำตามสัญญาประชาคมแก้รัฐธรรมนูญต้องทำให้เป็นประโยชน์กับประชาชน ไม่ใช่ยึดแต่เรื่องการเมืองหรือยึดแต่ผลแพ้และชนะ
ไม่กล้าแตะสูตรสรรหา สว.พิสดาร
นายวิสุทธิ์กล่าวว่า เชื่อว่าต้องมีผู้ยื่นศาล รัฐธรรมนูญแน่นอน แต่มองเป็นเรื่องดีให้ศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาดว่าการแก้รัฐธรรมนูญนั้นเดินหน้าได้ ส่วนข้อเรียกร้องพรรคประชาชนที่ต้องการให้นำร่างแก้ไขมาตรา 256 และเพิ่มหมวดสภาร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาพิจารณาในวันที่ 14-15 ม.ค.นั้น ต้องหารือกับทุกฝ่าย เพราะมีทั้งพรรคร่วมรัฐบาล สว. การทำงานร่วมกันต้องให้เกียรติหารือกันอย่างรอบคอบ ต้องพึ่ง สว.ด้วย จะฟันธงให้เป็นแบบที่ต้องการไม่ได้ เมื่อถามว่ามีเสียง สว.สะท้อนว่าหากแก้ไขเพื่อประโยชน์ฝ่ายการเมืองจะไม่เอาด้วย ทำให้ไปไม่รอดหรือไม่ นายวิสุทธิ์ตอบว่า ต้องหารือกัน พรรคเพื่อไทยจะเสนอรายละเอียดให้พรรคร่วมรัฐบาลพิจารณาหลังจากที่ สส.ลงมติแล้วในวันที่ 7 ม.ค. เบื้องต้นเนื้อหาจะไม่ลิดรอนสิทธิ สว. การเปลี่ยนแปลงต้องมีเวลาเริ่มต้นและปรับปรุงหลายปี การจะหักพร้าด้วยเข่านั้นไม่สำเร็จ หักทันทีไม่ได้ การไปสู่ยุคเปลี่ยนผ่านต้องมีระยะเวลา ให้ทุกฝ่ายอยู่ร่วมกันอย่างสามัคคี ไม่นำการแก้รัฐธรรมนูญมาสร้างความขัดแย้งให้บ้านเมือง
“วันชัย” ส่องชะตาปี 68 เพื่อไทย
วันเดียวกัน นายวันชัย สอนศิริ อดีต สว. โพสต์ เฟซบุ๊กระบุว่า ปีใหม่นี้เห็นมี 2 เรื่อง ที่รัฐบาลและ ฝ่ายค้านกำลังทำคือ แก้รัฐธรรมนูญ และแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องประชาชน เฉพาะเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลยังเห็นไม่ตรงกัน อาจเกิด ความขัดแย้ง ควรเดินสายกลางอะไรทำได้ก็ทำ ทำแล้ว เกิดความขัดแย้งก็อย่าทำ ดูแล้วทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลมีแนวทางไปคนละทิศ ไม่แน่ใจหมดวาระสภา ชุดนี้จะได้เริ่มแก้หรือยัง ส่วนเรื่องแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องประชาชน ทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้านน่าจะเห็น ตรงกันเป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วนที่รัฐบาลต้องเร่งเครื่องเต็มกำลัง เป็นรัฐบาลมาเกือบ 2 ปี มีแต่นโยบายแผนงานและราคาคุย เนื้องานที่ทำให้ลืมตาอ้าปากได้จริงยังไม่เห็น ทั้งฝ่ายค้านและประชาชนตั้งหน้าตั้งตารอคอยอยู่ ภายใน 3 เดือน 6 เดือนนี้ ถ้ายังไม่มีอะไร ในสภาคงระอุ นอกสภาก็คงระเบิด พรรคเพื่อไทยจะชนะ พรรคประชาชนได้หรือไม่ วัดกันที่ผลงานในเรื่องนี้ ประชาชนให้โอกาสรัฐบาลมานานแล้ว ต่อแต่นี้เป็นการชี้ชะตาความเป็นความตายของรัฐบาลและฝ่ายค้าน ว่าใครจะอยู่ยงคงกระพันกว่ากัน เรื่องแก้รัฐธรรมนูญจะสาละวันรำวงไปอย่างไรก็ได้ แต่เรื่องปากเรื่องท้อง การกินดีอยู่ดี การค้าขาย เงินทองคล่องมือ เป็นเรื่องสำคัญของชีวิต พรรคเพื่อไทยจะอยู่หรือไปก็ในปีนี้แหละ
“อนุสรณ์” มั่นใจนายกฯแจงบัญชีได้
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงบรรดานักร้องที่เตรียมยื่นตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่า นายกฯพร้อมรับการตรวจสอบใน ทุกมิติ ที่ผ่านมามีความพยายามยื่นตรวจสอบหลายครั้ง ไม่ใช่ครั้งแรกที่ น.ส.แพทองธารถูกตรวจสอบและ ให้ความร่วมมือมาตลอด ทุกครั้งที่มีการตรวจสอบ น.ส.แพทองธารแสดงให้เห็นถึงความจริงใจในการเปิดเผยข้อมูลและหลักฐานต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เชื่อมั่นว่าการยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินของนายกฯ ครั้งนี้เป็นไปอย่างถูกต้อง ครบถ้วน โปร่งใส และ เป็นไปตามกฎหมาย ป.ป.ช.ทุกประการ รัฐบาลที่เป็นประชาธิปไตย พร้อมเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและ พร้อมรับการตรวจสอบอย่างจริงใจ ไม่ใช่เรื่องต้อง หนักใจ หรือเป็นการบั่นทอนกำลังใจหัวหน้ารัฐบาล
โพลชี้คนมองการเมืองยังวุ่นวาย
อีกเรื่อง นิด้าโพลเปิดผลสำรวจความเห็นประชาชนทั่วประเทศ รวม 1,310 หน่วยตัวอย่าง เรื่อง “การเมือง เศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิต ในปี 2568” ระหว่างวันที่ 16-18 ธ.ค. พบว่าส่วนใหญ่ร้อยละ 50.61 มองว่าสถานการณ์การเมืองในปี 2568 เมื่อเทียบกับ ปี 2567 ยังคงวุ่นวายเหมือนเดิม ร้อยละ 39.92 บอกว่าจะวุ่นวายมากขึ้น นอกจากนี้ ส่วนใหญ่ยังเชื่อว่า รัฐบาลจะอยู่ยาวตลอดทั้งปี 2568 รวมถึงจะมีการปรับ ครม. สำหรับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในปี 2568 เมื่อเทียบกับปี 2567 ร้อยละ 34.35 มองว่าจะแย่เหมือนเดิม รองลงมาร้อยละ 32.82 ระบุจะแย่ลง มีร้อยละ 21.99 ที่เห็นว่าจะดีขึ้น เมื่อถามถึงคุณภาพชีวิตโดยทั่วไปในสังคมไทย ร้อยละ 34.43 ระบุว่า คุณภาพชีวิตจะแย่เหมือนเดิม มีร้อยละ 33.20 ที่เห็นว่าจะแย่ลง
จี้แก้ปากท้องจริงจังไม่หลอกลวง
ขณะที่ซูเปอร์โพลเปิดผลสำรวจ เรื่อง “เสียงของประชาชนที่หายไป” จากประชาชนจำนวน 1,165 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 2-4 ม.ค.2568 เพื่อสะท้อนถึง ความต้องการและความกังวลของประชาชนที่อาจไม่ได้รับการตอบสนอง หรือความสนใจจากผู้มีอำนาจ และนโยบายสาธารณะอย่างเพียงพอ พบว่าในด้านการเมือง ประชาชนต้องการการปฏิรูปการเมืองให้โปร่งใสและยุติธรรมมากขึ้น มากที่สุด รองลงมาเป็น ความมั่นคงของรัฐบาลที่มีความสำคัญต่อเสถียรภาพประเทศ การคอร์รัปชันยังคงเป็นประเด็นสำคัญที่รัฐบาลต้องแก้ไข ความเหลื่อมล้ำทางการเมือง ปกป้อง ประชาธิปไตยและสิทธิเสรีภาพ ทางด้านเศรษฐกิจ ส่วนใหญ่ต้องการให้แก้ปัญหาปากท้องได้จริงไม่หลอกลวงประชาชน รองลงมาคือการจ้างงานที่ต้องกระจายสู่ท้องถิ่น การกระจายรายได้ ลดความเหลื่อมล้ำ นวัตกรรมและการลงทุน เป็นกุญแจสำคัญของการ เติบโตของเศรษฐกิจ ด้านสังคม การเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ เป็นสิทธิพื้นฐานที่ควรได้รับการปรับปรุง สิทธิสุขภาพและการรักษาพยาบาลที่ประชาชนทั่วไป ระดับรากหญ้าเข้าถึงได้
กต.ผิดหวังแต่ไม่ท้อช่วย 4 ลูกเรือ
นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีไม่มีรายชื่อลูกเรือประมงไทย 4 คน ที่ถูกจับกุมและตัดสินจำคุกเมื่อวันที่ 16 ธ.ค.2567 รวมอยู่ในประกาศนิรโทษกรรมผู้ต้องขัง 151 คน ในวันชาติเมียนมาว่า แม้จะผิดหวังกับกระบวนการปล่อยตัวของฝ่ายเมียนมา แต่กระทรวงการต่างประเทศจะดำเนินการทางการทูตเต็มที่ต่อไป โดยได้รับความร่วมมืออย่างดีจากกระทรวงการต่างประเทศเมียนมา พยายามผลักดันให้มีการปล่อยตัวโดยเร็ว ล่าสุดจากการเข้าเยี่ยมลูกเรือไทยทั้ง 4 คน ที่จังหวัดเกาะสอง พบว่าทุกคนมีสุขภาพแข็งแรง กำลังใจดี ได้รับการดูแลตามความเหมาะสม และได้รับอาหารครบ 3 มื้อ สถานเอกอัครราชทูตฯได้นำสิ่งของจำเป็นไปมอบให้ พร้อมแจ้งความคืบหน้าการดำเนินการของหน่วยงานไทยในการผลักดันกับฝ่ายเมียนมา อย่างไรก็ตามกรณีนี้มีความละเอียดอ่อนทั้งในแง่การปล่อยตัวลูกเรือ ประเด็นปัญหาการทำประมงของทั้งสองฝ่าย และความสัมพันธ์ในภาพรวม จึงต้องอาศัยความอดทนและช่องทางการเจรจาอย่างรอบคอบ
“นายกฯอิ๊งค์” ควงสามีเชียร์บอลไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ว่า น.ส.แพทองธาร พร้อมด้วยนายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามี น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ พี่สาว และนายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ พี่เขย ได้เดินทางไปที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เพื่อชมเกมการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 2024 ระหว่างทีมชาติไทยกับทีมชาติเวียดนาม ตามคำเชิญของนางนวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ มีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯและ รมว.คมนาคม ประธานคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ร่วมรับชมด้วย
ขอบคุณแหล่งที่มา : thairath
ความคิดเห็น