ชี้พ่อแม่เป็นต้นแบบงดใช้มือถือต่อหน้าลูก เสมา 1 ฝากคิดนอกกรอบดูแลเด็กปฐมวัย
เมื่อวันที่ 5 ส.ค. ที่โรงแรมอัศวินแกรนด์คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ สภาการศึกษา (สกศ.) ได้จัดประชุมวิชาการระดับชาติ ครั้งที่ 3 ประจำปี 2567 หัวข้อ “การขับเคลื่อนและพัฒนาเด็กปฐมวัย 3 เร่ง 3 ลด 3 เพิ่ม เสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยไทย” มี พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ เป็นประธาน โดย พล.ต.อ.เพิ่มพูนกล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัส 2019 หรือโควิด-19 ส่งผลให้สถานพัฒนาเด็กปฐมวัยต้องเปลี่ยนรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ในรูปแบบออนไลน์ ซึ่งไม่สอดคล้องกับวิถีการส่งเสริมพัฒนาการของเด็กปฐมวัย ซึ่งทำให้เกิดวิกฤติการใช้สื่อหน้าจอในเด็กปฐมวัยที่เพิ่มสูงขึ้น และประสบปัญหาจากวิกฤติความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงโอกาสทางการศึกษา รวมไปถึงวิกฤติครอบครัวที่พบว่ามีจำนวนแม่วัยใสที่เพิ่มสูงขึ้น ขาดความพร้อมในการดูแลลูก
รมว.ศึกษาธิการกล่าวอีกว่า จากวิกฤติดังกล่าวจึงเป็นที่มาของข้อเสนอเชิงนโยบาย 3 เร่ง 3 ลด 3 เพิ่มให้เป็นวาระแห่งชาติ คือ เร่งให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ผู้ปกครอง ครู ผู้ดูแลเด็ก ชุมชนและสังคม เร่งจัดสวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้าและเร่งเสริมศักยภาพองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและกลไกระดับพื้นที่ใกล้ตัวเด็ก ลดการใช้สื่อหน้าจอในเด็กปฐมวัยอย่างจริงจัง 2 ปี ลดความเครียด และลดการใช้ความรุนแรงกับเด็กปฐมวัยทั้งทางร่างกายและจิตใจ ขณะเดียวกันต้องเพิ่มการส่งเสริมพัฒนาการและการเรียนรู้ เช่น ดนตรี กีฬา การออกกำลังกาย งานบ้าน งานครัว งานสวน เพิ่มการเล่านิทานกับเด็กอย่างสม่ำเสมอ เพิ่มความรักและเวลาคุณภาพของครอบครัว
“การระดมสมองแก้ปัญหาในครั้งนี้อยากให้คิดนอกกรอบมากขึ้น การติดจอโทรศัพท์ไม่ได้เกิดจากวิกฤติโควิด แต่มาจากกระแสโลกที่เปลี่ยน แปลงไป ดังนั้นหากต้องการให้เด็กลดการใช้โทรศัพท์พ่อแม่ต้องเป็นต้นแบบให้แก่ลูกด้วย ขณะเดียวกันอยากให้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในท้องถิ่นนอกจากจะให้การศึกษาแก่เด็กแล้ว อยากให้เข้าไปสอนพ่อแม่ถึงวิธีการดูแลเด็กเล็กด้วย” รมว.ศธ.กล่าว.
ขอบคุณแหล่งที่มา : thairath
ความคิดเห็น