เกาะติดสมรภูมิรบ สงคราม "อิสราเอล-ฮามาส" วิเคราะห์เจรจาช่วยตัวประกัน

เกาะติดสมรภูมิรบ สงคราม "อิสราเอล-ฮามาส" เร่งประสานช่วยนักศึกษาไทยกลับบ้าน พร้อมวิเคราะห์ความอยู่รอดตัวประกัน

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 13 ตุลาคม 2566 ในรายการ "เปิดปากกับภาคภูมิ" ทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32 ดำเนินรายการโดย นายภาคภูมิ พันธุ์สถิตย์ ยังคงเกาะติดสมรภูมิรบ "อิสราเอล-ฮามาส" โดยล่าสุด กระทรวงการต่างประเทศรายงานมีคนไทยได้รับผลกระทบ เสียชีวิต 21 คน บาดเจ็บ 14 คน ถูกจับเป็นตัวประกัน 16 คน ซึ่งจำนวนนี้ยังไม่รวมคนที่ติดต่อไม่ได้ 

ผศ.ดร.ปรีชา สะแลแม อธิการบดี ม.นราธิวาสราชนครินทร์ กล่าวว่า ทางมหาวิทยาลัยได้ส่งนักศึกษาฝึกสหกิจศึกษาจำนวน 30 คน ที่ประเทศอิสราเอล หลังจากทราบข่าว เราได้ประสานไปยังสถานที่ฝึกของนักศึกษา และได้มีการจัดประชุม โดยเชิญผู้ปกครองของนักศึกษาทั้งหมดมายังมหาวิทยาลัย แล้วประชุมกับนักศึกษาที่อิสราเอลผ่านระบบออนไลน์ 

ในส่วนของการประชุมในครั้งนี้ สรุปได้ว่า นักศึกษาอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุที่ ฉนวนกาซา ประมาณ 200 กิโลเมตร ขณะนี้นักศึกษา 30 คนปลอดภัย ในส่วนของผู้ปกครองเอง หลังจากประชุมเรียบร้อยแล้วก็คลายความกังวลมากขึ้น

ผศ.ดร.ปรีชา กล่าวอีกว่า โครงการนี้เป็นความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยกับอิสราเอง เริ่มฝึกตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา จะไปจบเดือนกรกฎาคม 2567 ในส่วนของมหาวิทยาลัยเองก็ได้ทำหนังสือให้ข้อมูลของนักศึกษาไปยังหน่วยงานต่างๆ และขอความอนุเคราะห์เพื่อประสานขอให้นักศึกษากลุ่มนี้เดินทางกลับประเทศไทย

ผศ.ดร.ปรีชา กล่าวว่า ล่าสุด ได้รับการประสานจากสถานทูตไทยประจำอิสราเอลว่าทางสถานทูตได้เตรียมรถบัสเพื่อพาไปยังสถานที่ปลอดภัยเพื่อรอกลับประเทศไทยในวันจันทร์ที่ 16 ตุลาคม 2566 

สาเหตุที่อยากให้กลับไทย เพราะทางมหาวิทยาลัยประเมินแล้วว่าสถานการณ์ไม่สามารถคาดการณ์ได้ หากเกิดเหตุการณ์บานปลายลุกลามจะทำให้การเดินทางกลับประเทศไทยยิ่งมีลำบากมาก ที่สำคัญทางมหาวิทยาลัยมีความจำเป็นต้องให้นักศึกษาทุกคนกลับไทย เพื่อให้ผู้ปกครองเกิดความสบายใจ เมื่อกลับมาแล้วหากจะไปฝึกที่ใดต่อ ก็จะต้องมาดูกันอีกครั้ง

ด้าน คุณศุภมาส อิศรภักดี รมว.อุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวว่า ตั้งแต่เกิดเหตุ ทางกระทรวงได้สอบถามไปยังสถานทูตที่อิสราเอล รวมทั้งสถานศึกษาต่างๆ ว่ามีอาจารย์ นักศึกษา อยู่ในพื้นที่หรือไม่ ซึ่งเราเพิ่งได้รับรายงานเมื่อวานนี้ (12 ตุลาคม) จาก ม.นราธิวาสราชนครินทร์ ว่ามีนักศึกษาร่วมโครงการทั้งหมด 37 คน เป็นของ ม.นราธิวาสราชนครินทร์ 30 คน และจากราชภัฏสกลนครอีก 7 คน ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวค่อนข้างปลอดภัย และทุกคนอยู่ในการรับรู้ของสถานทูตแล้วเพื่อเตรียมเดินทางกลับไทย

วิเคราะห์เจรจาช่วยตัวประกัน

พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า สิ่งที่ถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนขณะนี้คือ การที่อิสราเอลได้ยื่นประกาศไปยังสหประชาชาติว่า ให้มีการอพยพประชากรชาวปาเลสไตน์จากทางเหนือให้ลงไปทางใต้ ภายใน 24 ชั่วโมงนี้ 

นั่นหมายถึงคนประมาณ 1 ล้านคนเศษที่ต้องอพยพ สืบเนื่องจากอิสราเอลต้องการเข้าไปเคลียร์พื้นที่ทางเหนือของฉนวนกาซาที่เป็นพื้นที่ของกลุ่มฮามาส นี่คือเรื่องที่น่าตื่นเต้นมากว่าจะเข้าหรือไม่เข้า ซึ่งต้องรอดูต่อไป

ส่วนเจตนารมณ์คำประกาศของอิสราเอลที่ยืนยันว่า อิสราเอลไม่มีทางเลือกที่จะต้องเข้าไปในพื้นที่ฉนวนกาซา ในการปฏิบัติการทางทหารหมายความว่า เป็นการจัดการกลุ่มฮามาสให้สิ้นซาก แต่จริงๆ แล้วผลกระทบจะกระทบต่อประชาชนชาวปาเลสไตน์ เพราะเป็นการอยู่ปะปนกัน 

และการที่อิสราเอลแจ้งเตือนดังกล่าว ก็เป็นการสร้างความชอบธรรมให้อิสราเอลว่ามีการแจ้งเตือนก่อน แม้ในทางปฏิบัติจะเป็นไปได้ยากแต่ก็สามารถลดการติเตียนของประชาคมโลกได้

ส่วนเรื่องการเจรจากรณีคนไทยถูกจับไป พล.อ.นิพัทธ์ กล่าวว่า ขอชื่นชมท่านนายกฯ ที่ได้เชิญเอกอัครราชทูตอิสราเอลมาพบ และได้แจ้งว่าอยากให้เขาสนับสนุนด้านใด และเรายืนยันชัดเจนว่า เราเป็นคนไทย ไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้ง ในส่วนนี้เราทำได้ดี

เมื่อถามว่า กลุ่มฮามาสจับตัวประกันไปทำไม พล.อ.นิพัทธ์ กล่าวว่า การทำสงครามระหว่างอิสราเอล กับกลุ่มฮามาสนั้นมีมานานแล้ว และประสิทธิภาพของกลุ่มฮามาสก็ถือว่าน้อยมาก ดังนั้นสิ่งเดียวที่กลุ่มฮามาสทำได้คือ การจับคนไปเป็นตัวประกันเพื่อเป็นอำนาจในการต่อรอง ดังนั้นจะเห็นว่าผู้นำของฮามาสออกมาขู่ว่า ถ้าอิสราเอลยิงถล่มจะทยอยสังหารตัวประกันจนกว่าอิสราเอลจะหยุด.

ขอบคุณแหล่งที่มา : https://www.thairath.co.th/news/society/2732684