อิสราเอลชี้ไม่อยากกลับยุคมืดต้องชนะฮามาส
เป็นที่จับตามองทั่วโลกกับการประชุมสุดยอดผู้นำความร่วมมือเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก หรือเอเปก ครั้งที่ 30 ที่นครซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ ภายใต้หัวข้อ “การสร้างอนาคตที่ยืดหยุ่นและยั่งยืนสำหรับทุกคน” ระหว่างวันที่ 11-17 พ.ย. โดยมีผู้นำและตัวแทนผู้นำจาก 21 ชาติ รวมถึงผู้นำคนสำคัญอย่างนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน เข้าร่วมการประชุมดังกล่าว
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 14 พ.ย. ว่า นายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ เผยว่า การประชุมสุดยอดผู้นำเอเปกในครั้งนี้ นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะผลักดันและแสดงให้เห็นว่าสหรัฐฯ เป็นหนึ่งในผู้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญของการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนในเอเชีย-แปซิฟิก ขณะที่ชาติสมาชิกคาดหวังให้การหารือนอกรอบระหว่างนายไบเดนกับนายสีเป็นไปในทางที่ดี เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดความขัดแย้งในภูมิภาค ถือเป็นการพบปะกันเป็นครั้งที่ 2 นับตั้งแต่นายไบเดนรับตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ ในปี 2564
แม้การประชุมสุดยอดผู้นำเอเปกไม่ได้เกี่ยวข้องกับภูมิภาคตะวันออกกลางโดยตรง แต่การประชุมดังกล่าวก็เกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์การสู้รบระหว่างกองทัพอิสราเอล (IDF) กับกองกำลังติดอาวุธปาเลสไตน์กลุ่มฮามาสที่ทวีความรุนแรงต่อเนื่อง ก่อนหน้านี้ นายโจโก วิโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย หารือกับนายไบเดนที่ห้องทำงานรูปไข่ ทำเนียบขาว กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เรียกร้องให้มีการหยุดยิงซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เพื่อยุติความรุนแรงในฉนวนกาซา ด้านนางเจเน็ต เยลเลน รมว.คลังสหรัฐฯ เผยว่า จากการหารือร่วมกับ รมว.พาณิชย์ชาติเอเปก มีความเห็นว่าจะทำทุกวิถีทางเพื่อป้องกันไม่ให้ความขัดแย้งในฉนวนกาซาบานปลาย เนื่องจากอาจส่งผลกระทบไปทั่วโลกได้
ขอบคุณแหล่งที่มา : thairath
ความคิดเห็น