พยานหลายปากเห็นนาทียิง สว.แบงค์ เผยชื่อ 14 ตร.จ่อถูกดำเนินคดี ยัน ผกก.สน.พญาไท ไม่ได้บิดพริ้ว
พยานหลายปากเห็นนาทียิง สว.แบงค์ เผยชื่อ 14 ตร.จ่อถูกดำเนินคดี ยัน ผกก.สน.พญาไท ไม่ได้บิดพริ้ว มีใครถูกดำเนินคดีไปแล้วบ้าง
วันที่ 17 ก.ย.66 พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. เดินทางเข้ามาประชุมที่ บช.ภ.7 โดยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า วันนี้ทีมของกองปราบ เข้ามาสอบสวนพยานที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม เนื่องตอนนี้ส่วนของคดีในเรื่องของสำนวน พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้ลงนามโอนสำนวนทั้ง 2 เรื่อง คือ เรื่องคดีกำนันนกสั่งการให้ยิงสารวัตรแบงค์ และเรื่องคดีทุจริตตำรวจทั้ง 6 นาย ไปที่กองปราบฯ แล้ว
โดยหลังจากรับโอนสำนวนมา ขั้นตอนหลังจากนี้ ก็จะต้องมาตรวจสอบข้อเท็จจริงในสำนวนว่า สำนวนเดิมดำเนินการครบถ้วนสมบูรณ์หรือไม่ ถ้าครบถ้วนถูกต้องแล้ว ก็ไม่ต้องดำเนินการอะไรเพิ่มเติม แต่หากยังไม่ครบถ้วนถูกต้อง เราก็จะต้องทำให้ครบถ้วนสมบูรณ์
ในส่วนของประเด็นตำรวจที่อยู่ในที่เกิดเหตุ จะถูกแจ้งข้อกล่าวหาหรือไม่นั้น พ.ต.อ.เอนก ระบุว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณา ประกอบกับต้องดูพยานหลักฐานจากกล้องวงจรปิด และดูพฤติการณ์ต่างๆ ว่า แต่ละคนได้ดำเนินการอย่างไรบ้าง ซึ่งต้องนำข้อเท็จจริงมาพิจารณากัน
ส่วนเรื่องตำรวจให้การไม่ตรงกันนั้น ส่วนนี้จะจริงหรือให้การเท็จ ต้องดูว่าในการสอบสวนครั้งแรกที่ทางตำรวจแต่ละนายให้การไว้นั้น ได้ให้การไว้ครบถ้วนหรือไม่ เพราะบางกรณีอาจจะให้การไว้ในมุมที่เขารับรู้ แต่ว่าภายหลังที่ได้สอบกันเพิ่มเติม เขาอาจให้การเพิ่มเติมขึ้นมา อย่างนี้เรียกว่า “ไม่ได้ให้ข้อมูลเท็จ” แต่ในบางรายก็มีให้การว่า “ไม่รู้ ไม่เห็นเลย” แต่ภายหลังบอกว่า “รู้เห็น” ขึ้นมา ซึ่งก็ต้องดูไปในแต่ละเรื่องและอยู่ระหว่างพิจารณาว่าเข้าข่ายให้การเท็จหรือไม่
นอกจากนี้ในกรณีของ “ผกก.เบิ้ม” ที่เสียชีวิตไปแล้ว เข้าข่ายถูกดำเนินคดีข้อหา “ละเว้นการปฎิบัติหน้าที่” หรือไม่ เรื่องนี้ทาง “ผกก.เบิ้ม” ได้ให้การกับพนักงานสอบสวนที่ สภ.เมืองนครปฐม ไปแล้ว ซึ่งประเด็นการแจ้งข้อกล่าวหา ยังไม่มีข้อยุติว่าใครละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ เพราะขณะนี้ยังต้องดูข้อมูลอย่างละเอียด ทั้งภาพจากกล้องวงจรปิด และพฤติการณ์ของพยานที่เกี่ยวข้องรู้เห็น ซึ่งอยู่ระหว่างพิจารณาว่าใครเข้าข่ายข้อหาละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ (ม.157)
โดยทั้งหมดต้องขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง และจะต้องแบ่งตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์ด้วย ทั้งตำรวจที่เสียชีวิตและบาดเจ็บ 2 นายนี้ ถือเป็นผู้เสียหายในทางคดี กับอีกส่วนหนึ่ง คือ ตำรวจที่ช่วยเหลือผู้ต้องหา ซึ่งได้ถูกดำเนินคดีไปแล้ว 6 นาย และอีกส่วนที่เหลือ ก็ต้องดูว่าพฤติการณ์เป็นอย่างไร ซึ่งขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงที่ปรากฏตามกล้องวงจรปิดหรือจากคำให้การพยานอื่นที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย ส่วน “ผกก.สน.พญาไท” ก็ต้องดูข้อมูลอย่างละเอียดด้วยเช่นกัน เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน แต่ยืนยันว่า ทีมพนักงานสอบสวน ทำงานอย่างละเอียด และพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์
ขณะเดียวกันมีข้อมูลคำให้การของ “ผกก.สน.พญาไท” อ้างว่าในช่วงเกิดเหตุ เป็นคนสั่งให้ลูกน้องให้การช่วยเหลือ “สารวัตรแบงค์” และ “รองผกก.วศิน” นั้น เรื่องนี้ก็ต้องดูว่าคนที่เกี่ยวข้องมีข้อมูลยืนยันในเรื่องนี้หรือไม่ เพราะในสิ่งที่แต่ละคนให้การไม่ว่าจะจริงหรือเท็จต้อง ต้องอยู่ในเรื่องของพยานวัตถุกล้องวงจรปิดด้วยเช่นกัน ว่าให้การไปแล้ว สามารถรับฟังได้หรือไม่ แต่เบื้องต้นจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดเรื่องนี้นั้น ไม่สามารถบอกรายละเอียดได้ เพราะอยู่ในสำนวน จึงขอสงวนไว้
เมื่อถามว่า “ผกก.สน.พญาไท” เรียกว่าแถซ้ำซากหรือไม่ พ.ต.อ.เอนก ระบุว่า ยังเรียกอย่างนั้นไม่ได้ เพราะถือว่าเขาให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีมาตั้งแต่วันแรก ตั้งแต่ที่ สภ.เมืองนครปฐม และในขั้นตอนที่กองปราบฯ ได้ทำการสอบสวน ซึ่งไม่ได้บิดพริ้วหรือให้การว่าไม่รู้ไม่เห็น อย่างไรก็ตามในส่วนคดียิง “สารวัตรแบงค์” พ.ต.อ.เอนก ยืนยันว่า มีพยานหลายปากเห็นในวินาทียิง ทั้ง 2 ส่วน ทั้งในส่วนโต๊ะของกำนันนกที่นั่งอยู่ หรือโต๊ะวีไอพีก็ตาม ซึ่งมีความชัดเจนในส่วนของคดียิงแล้ว
สำหรับตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์ที่จะถูกดำเนินคดีมี 14 นาย ประกอบด้วย
1.พ.ต.อ.ภาณุทัต เหลืองสัจจกุล ผกก.สส.ภ.จว.นครปฐม
2.พ.ต.อ.กฤษฎาพร จงอักษร ผกก.สน.พญาไท
3.จ.ส.ต.พิสิฐ ชิวปรีชา ผบ.หมู่ ส.ทล.กก.2
4.ร.ต.อ.นุชิต บรรณชัย รอง สว.ปทส.5
5.จ.ส.ต.อภิรักษ์ โรจน์พวง ผบ.หมู่ กก.5 บก.ปคม.
6.ส.ต.ท.สุทธิกานต์ แซ่ล้อ ผบ.หมู่ คฝ.ภ.จว.นครปฐม
7.ส.ต.ต.ธนทัต ท่าน้ำตื้น ผบ.หมู่ คฝ.ภ.จว.นครปฐม
8.ร.ต.อ.ประสมมาศ แสงสุขมี รอง สว.จร.สภ.กำแพงแสน
9.ด.ต.ถนอม ศักดิ์มีศรี ผบ.หมู่ สภ.สามควายเผือก
10.ส.ต.ต.สรรเสริญ ศรีอุบล ผบ.หมู่ คฝ.ภ.จว.นครปฐม
11.ด.ต.สมโชค บัวไชย บก.สส.ภาค 7
12.ร.ต.อ.จตุรวิทย์ ชวาลเกียรติธนา รอง สวป.สภ.เมืองนครปฐม
13.ร.ต.ท.มนัส จันทร์มีทรัพย์ รอง สว.จร.สภ.นครชัยศรี
14.ร.ต.อ.ศิริชัย รูปสวย สังกัด บก.ป.
สำหรับการดำเนินคดีที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ยิง “สารวัตรแบงค์” เสียชีวิต ที่ตำรวจแจ้งข้อหาไปแล้ว จะแบ่งเป็นคดีที่เกี่ยวกับการฆ่า ดำเนินคดีทั้งหมด 7 คน
1.นายธนัญชัย หมั่นมาก หรือ “หน่อง” มือปินที่ยิงสารวัตรแบงค์ ถูกวิสามัญเสียชีวิต
2.นายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ “กำนันนก” ถูกดำเนินคดีใน 5 ข้อหา ได้แก่ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, พยายามฆ่าผู้อื่น, มีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต และยิงปืนในเมืองหรือที่ชุมชน
3.นายสนทยา หรือ “เก่ง” คนงานบ้านกำนันนกที่นำปืนไปฝัง
4.นายฐิตินันท์ หรือ “โบ๊ท” เจ้าหน้าที่เรือนจำกลางราชบุรี แจ้งข้อหาทำลายพยานหลักฐาน เพราะเป็นคนนำเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดไปทิ้ง
และแม่บ้าน 3 คน โดนแจ้งข้อหา ฐานทำลายพยานหลักฐาน เนื่องจากช่วยกันล้างความสะอาดที่เกิดเหตุ
ส่วนคดีที่เกี่ยวข้องกับการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ถูกดำเนินคดีไปแล้ว 6 นาย ใน 3 ข้อหา คือ เป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อช่วยไม่ให้ผู้อื่นได้รับโทษ, ร่วมกันทำลาย ซ่อนเร้น, ร่วมกันช่วยเหลือผู้กระทำความผิด ประกอบด้วย
1.พ.ต.ต.เกียรติศักดิ์ สมสุข สว.สส.สภ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร
2.ร.ต.ท.ประสาร รอดผล รองสว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล.
3.ร.ต.ต.นิมิตร สลิดกุล รอง สว.จร.สภ.เมืองนครปฐม
4.ร.ต.อ.ณรงค์ศักดิ์ แตงอำไพ รอง สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล.
5.ร.ต.อ.ณัฏฐพล นาคกร รองสว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล.
6.ร.ต.ต.สรรเสริญ ศรีสวัสดิ์ รอง สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล.
ส่วนคดีที่เกี่ยวกับอาวุธปืน ดำเนินคดี 3 ราย ประกอบด้วย
1.นายประสงค์ ไทรไกรกระ รปภ.และญาติกำนันนก
2.นายชัชวาล ไทรไกรกระ หรือ “เด้ง” หลานกำนันนก
3.นายชัชวาลย์ ก้องภัคดีสุข หรือ “ต๋อง”
ทั้ง 3 คนถูกดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสุนโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ
ขอบคุณแหล่งที่มา : https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_7870847
ความคิดเห็น