WHO เลือกไข้หวัดใหญ่พันธุ์ไทยปั๊มวัคซีนป้องกัน
นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวถึงสถานการณ์ของโรคไข้หวัดใหญ่ว่า จากผลการวิเคราะห์ลำดับพันธุกรรมของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่จากทั่วโลก ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2566 จนถึงปัจจุบัน พบ A (H1N1) มีสัดส่วน 56.94% A (H3N2) 95.08% และ B 100% สำหรับประเทศไทยพบการระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยพบสายพันธุ์ A (H3N2) มากที่สุดคิดเป็นสัดส่วน 66.42% รองลงมาคือสายพันธุ์ B 19.32% ในขณะที่สายพันธุ์ A/H1N1 มีสัดส่วน 14.26% สำหรับสายพันธุ์ B ที่พบในประเทศไทยเป็นสายพันธุ์ Victoria ทั้งหมด และจากการวิเคราะห์สายพันธุ์ของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ในประเทศไทยกับสายพันธุ์วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ที่กระทรวงสาธารณสุขฉีดให้กับประชาชน พบว่าสายพันธุ์ไข้หวัดใหญ่ที่ตรวจพบในประเทศไทยมีความสอดคล้องกับสายพันธุ์วัคซีนที่ฉีดและสามารถป้องกันไข้หวัดใหญ่ได้
นพ.ยงยศ กล่าวด้วยว่า จากการประชุมคัดเลือกสายพันธุ์ไข้หวัดใหญ่ เพื่อนำไปใช้ผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ประจำปี 2567 สำหรับประเทศทางซีกโลกใต้ โดยผู้เชี่ยวชาญจากองค์การอนามัยโลก (WHO) สมาชิกห้องปฏิบัติการเครือข่ายทั่วโลก และบริษัทผู้ผลิตวัคซีนได้คัดเลือกสายพันธุ์เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ 3 สายพันธุ์ โดย 1 ใน 3 สายพันธุ์ เป็นเชื้อที่แยกได้จากระบบเฝ้าระวังเฉพาะพื้นที่ของประเทศไทย จากความร่วมมือของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กรมควบคุมโรค โรงพยาบาลเครือข่ายและศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคแห่งชาติสหรัฐอเมริกาที่ได้ดำเนินการเฝ้าระวังสายพันธุ์ ทั้งนี้การที่สายพันธุ์ไข้หวัดใหญ่ที่ตรวจพบในประเทศไทยได้รับคัดเลือกให้เป็นองค์ประกอบในวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ประจำปี 2567 เป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมือและบทบาทที่เข้มแข็งของกระทรวงสาธารณสุขไทยที่มีต่อความมั่นคงทางสุขภาพของประชากรโลก.
ขอบคุณแหล่งที่มา : thairath
ความคิดเห็น