เข้าทางตัวแปรกินรวบ

ทัวร์ลงเต็มคณะ หาที่จอดแทบไม่ได้ เรียงคิวถล่มกูรูกฎหมายรัฐบาล กรณี “วิษณุ เครืองาม” รองนายกรัฐมนตรี จุดพลุส่งสัญญาณเลือกตั้งโมฆะ ชี้โพรงคำร้องสอย “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล กรณีถือครองหุ้นสื่อ เสี่ยงบานปลาย อาจถึงขั้นเลือกตั้งใหม่ทั่วประเทศ

ปั่นกระแสล้างกระดานเลือกตั้ง ปลุกอาการขนหัวลุกนักการเมือง ยังไม่ทันได้เหยียบเข้าสภาฯ อาจต้องไปเสี่ยงตายรอบใหม่

ปมคุณสมบัติต้องห้าม ส.ส.อาจไม่สิ้นสุดแค่เรื่องเฉพาะตัว แต่เหาะเหินเกินลงกาไปกันใหญ่ กระตุกขวัญด้อมส้ม ใจหล่นไปอยู่ตาตุ่ม

ในช่วงที่พรรคก้าวไกลกำลังเร่งเก็บแต้ม สร้างกระแสการเมืองยุคใหม่ให้ประชาชนเห็น

“กัปตันทิม พิธา” ลุยตั้งคณะทำงานเปลี่ยนผ่านประเทศ เดินสายรับฟังความเห็นจากหน่วยราชการ ภาคเอกชน ประสานการทำงานก่อนเข้าบริหารประเทศ

ตีคู่ไปกับการเล่นบทเฮี้ยวปราบทุจริต ถูกจริตคนทั้งประเทศ อย่างที่ “วิโรจน์ ลักขณาอดิศร” หัวโจกฮาร์ดคอร์ เปิดโปงข้อมูลส่วยสติกเกอร์รถบรรทุก สะเทือนไปทั่ววงการผู้พิทักษ์สันติราษฎร์

ปล่อยออเดิร์ฟกำราบโกงเรียกน้ำย่อย ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มต้นบริหารประเทศอย่างเป็นทางการ

ก้าวไกลโหมเปิดโหมดสร้างความหวังใหม่ รับสายลมแห่งการเปลี่ยนแปลง เลี้ยงกระแสเล่นกับความรู้สึกของประชาชนไปเรื่อยๆ โดยที่ยังไม่รู้ว่าชื่อ “พิธา” จะฝ่าด่านอรหันต์ต่างๆ ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีได้สำเร็จหรือไม่

แต่อย่างน้อยก็สามารถเข้าไปยืนหนึ่ง ได้ใจชาวบ้านไปเรียบร้อยแล้ว

หากเกิดอุบัติเหตุการเมือง วืดเก้าอี้นายกฯ มีโอกาสเห็นมวลชนลงถนน เสี่ยงไฟลุก “ม็อบชนม็อบ” ประจันหน้า หรือถ้าไปถึงขั้นต้องกาบัตรเลือกตั้งใหม่ กระแสสีส้มฟีเวอร์จะยิ่งไหลมาเทมา สามารถตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้ด้วยลำแข้งของตัวเอง ไม่ต้องยืมจมูกใครหายใจ

ด่านคุมกำเนิดก้าวไกลตั้งรัฐบาลยาวเป็นหางว่าว ทั้ง ส.ว. คดีหุ้นสื่อ ล่าสุดก็มีสูตรตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ถอดชนวนความขัดแย้งให้ทุกพรรคร่วมบริหารประเทศ โดยไม่มีฝ่ายค้าน

โยนหินล้มโต๊ะเลือกตั้งทางอ้อม สวนฉันทามติประชาชน ถึงจะต้องถอยกรูดไม่เป็นขบวนเพราะแรงต้านกระจายทั่วสารทิศ มีแต่ก้อนหินถูกขว้างกลับมา แม้แต่ฝ่ายเดียวกันก็ยังออกมาปราม

แต่อย่างน้อยก็พอเห็นเค้าลาง ฝ่ายอนุรักษ์นิยมยังไม่ยกธงขาว ถึงพลิกขั้วกลับมาใหญ่ไม่ได้ ก็ขอแชร์อำนาจเกาะขบวนร่วมเป็นรัฐบาล

เกมชิงอำนาจยังไม่จบง่ายๆ ฝ่ายแพ้ยังฮึดสู้ จดๆจ้องๆหาจังหวะพลิกกระดานให้กลับมาเป็นประโยชน์กับฝ่ายตนเอง รับส่งลูกเกมโค่น “พิธา” เป็นทอดๆทั้งจุดกระแสเลือกตั้งโมฆะ การปลุกผีตั้งรัฐบาลแห่งชาติ

ขณะที่ 8 พรรคร่วมรัฐบาลกลับมารวมใจเป็นหนึ่ง 2 พรรคหลัก “เพื่อไทย-ก้าวไกล” ขอพักยก หย่าศึกชั่วคราวแย่งเก้าอี้ประธานสภาผู้แทนราษฎร

ระดับแกนนำพรรคเพื่อไทยยอมก้มต่ำ ปิดปากชั่วคราว หยุดสร้างอารมณ์ร่วมลูกทีม เดินเกมผ่อนสั้น ผ่อนยาว ตามจังหวะที่ควรจะเป็น เหยียบเบรกดีลลับพลิกขั้วย้ายข้าง ทำลายความรู้สึกกองเชียร์

เปลี่ยนกลยุทธ์ดีลลับเป็นดีลรัก หันมาร่วมด้วยช่วยกัน ปิดสวิตช์ 3 ป. เดินตามครรลองประชาธิปไตย สนับสนุนพรรคก้าวไกลตั้งรัฐบาลจนสุดทางไว้ก่อน

รอจังหวะไปจนถึงซอยตัน ชื่อ “พิธา” จอดสนิท ไปต่อไม่ได้ ค่อยส่งไม้พรรคอันดับ 2 เป็นหัวขบวนจัดตั้งรัฐบาลรอบใหม่ ภายใต้เงื่อนไข 8 พรรค ยังล่มหัวจมท้ายอยู่ด้วยกันเหมือนเดิม

แล้วค่อยไปลุ้นเก็บแต้มเพิ่ม เปลี่ยนหัวแถวเป็นพรรคเพื่อไทยที่จุดยืนไม่สุดโต่งเรื่องล่อแหลม โอกาสหาแต้มเพิ่มจาก ส.ส.-ส.ว.ยังไงก็เปิดกว้าง สามารถพูดคุยทำความเข้าใจกันได้มากกว่าพรรคก้าวไกล

ทัพนายใหญ่ประเมินแล้ว หากเสี่ยงถอดปลั๊กก้าวไกล ไปเสียบปลั๊กใหม่กับพรรคพลังประชารัฐ-พรรครวมไทยสร้างชาติ ตั้งรัฐบาล ก็มีโอกาสไฟฟ้าลัดวงจรสูง เลือกตั้งรอบหน้า มีแต่กู่ไม่กลับ

เหมือนเร่งหัวเชื้อให้เกิดแลนด์สไลด์สีส้มทั่วประเทศ

เทียบกับการอยู่ล่มหัวจมท้ายกับ 8 พรรคพันธมิตรเดิม ยังไงก็ได้ทั้งขึ้นทั้งล่อง ในสถานะการเป็นพรรคตัวแปรสำคัญ ถ้าดันก้าวไกลตั้งรัฐบาลสำเร็จ เพื่อไทยก็สมหวังได้ร่วมรัฐบาล

ในทางตรงข้าม หากชื่อ “พิธา” จอดป้าย ชวดนั่งเก้าอี้ผู้นำ ก็ถึงคิวชอบธรรมที่พรรคเพื่อไทยจะเสียบนั่งนายกฯแทน ในฐานะพรรคอันดับ 2

เกมอำนาจจะขยับออกมาทางใด ทีมนายใหญ่ก็มีโอกาสกินรวบสูงกว่าใคร!!!

ทีมข่าวการเมือง