MI5 เตือน รัสเซียมีแผนสร้างความโกลาหลตามท้องถนนใน UK
MI5 เตือน รัสเซียมีภารกิจสร้างความโกลาหลตามท้องถนนใน UK และยุโรป เช่น วางเพลิง หรือก่อวินาศกรรม ขณะที่คนหนุ่มสาวถูกแนวคิดหัวสุดโต่งดึงดูดมากขึ้น
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า 8 ต.ค. 2567 ว่า นาย เคน แมกคัลลัม ผู้อำนวยการหน่วยความมั่นคง เอ็มไอ 5 (MI5) ของสหราชอาณาจักร แถลงอัพเดทสถานการณ์ประจำปี เรื่องภัยคุกคามด้านความมั่นคงที่ UK กำลังเผชิญ โดยเขาเตือนว่า รัสเซียกำลังปฏิบัติภารกิจ เพื่อสร้างความโกลาหลตามท้องถนนในอังกฤษและยุโรป
นายแมกคัลลัมกล่าวว่า กองอำนวยการข่าวกรองหลัก (GRU) ของรัสเซีย มีปฏิบัติการวางเพลิง, ก่อวินาศกรรม และพฤติกรรมอันตรายอื่นๆ ในสหราชอาณาจักรอย่างไม่ยั้งคิดมากขึ้น หลังจาก UK สนับสนุนยูเครนในการทำสงครามกับรัสเซีย
ชาติยุโรปขับไล่ทูตรัสเซียออกจากประเทศไปแล้วมากกว่า 750 คน นับตั้งแต่มอสโกยกทัพบุกยูเครนเมื่อปี 2565 นายแมคคัลลัมกล่าว และเสริมว่า ทูตที่ถูกขับออกไปส่วนใหญ่เป็นสายลับ ซึ่งเรื่องนี้กระทบต่อขีดความสามารถของหน่วยข่าวกรองรัสเซียอย่างมาก
นายแมกคัลลัมกล่าวหาว่า ฝ่ายรัสเซียหันไปใช้ตัวแทน เช่น ปฏิบัติการข่าวกรองเอกชนและอาชญากร ให้ทำงานสกปรกให้ แต่นั่นก็กระทบต่อความเป็นมืออีพในการปฏิบัติงาน หมายความว่า เจ้าหน้าที่สามารถหยุดยังปฏิบัติการของคนกลุ่มนี้ได้ง่ายกว่า
นอกจากนั้น MI5 ยังตอบสนองต่อแผนก่อเหตุร้ายของอิหร่านกว่า 20 แผน นับตั้งแต่ปี 2565 อย่างไรก็ตาม งานส่วนใหญ่ของพวกเขายังคงเกี่ยวข้องกับกลุ่มอิสลามหัวรุนแรง ตามด้วยผู้ก่อการร้ายฝ่ายขวาจัด ในอัตราส่วน 75 ต่อ 25
อย่างไรก็ตาม นายแมกคัลลัมระบุว่า การผสมกันอย่างซับซ้อนระหว่างภัยคุกคามจากการก่อการร้าย กับภัยคุกคามจากประเทศอื่น หมายความว่า MI5 มีงานที่ยากมากๆ อยู่ในมือ
ผบ. MI5 เปิดเผยด้วยว่า ในช่วงที่ผ่านมา มีคนหนุ่มสาวถูกดูดเข้าสู่แนวคินสุดโต่งบนโลกออนไลน์มากขึ้น โดย 13% ของผู้ที่ถูกสอบสวนฐานเกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
เจ้าหน้าที่สามารถสกัดแผนการสังหารหมู่ในสหราชอาณาจักร ที่อยู่ในช่วงท้ายของการวางแผนแล้ว ได้ทั้งหมด 43 แผน นับตั้งแต่ปี 2560 ขณะที่จำนวนการสืบสวนภัยคุกคามรัฐบาลต่างชาติ ที่ดำเนินการโดย MI5 ก็เพิ่มขึ้น 48%
และระดับภัยคุกคามจากการก่อการร้ายใน UK ตอนนี้อยู่ที่ระดับ “มากมาย” (substantial) หมายความว่า มีโอกาสเกิดการโจมตีขึ้นได้
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ที่มา : bbc
ขอบคุณแหล่งที่มา : thairath
ความคิดเห็น