
ผลการเลือกตั้งที่ผ่านมาซึ่ง “ก้าวไกล” ผงาดขึ้นมายืนที่ 1 ได้สร้างปรากฏการณ์ทางการเมืองส่งผลให้พรรคการเมืองอื่นๆ
ไม่ว่าเก่า-ใหม่หงายท้องกันไปตามๆ
แม้กระทั่ง “บ้านใหญ่” ที่เคยมีบทบาทและเป็นพลังสำคัญของระบบการเมืองไทย พลอยเฉากันไปตาม
เพราะทุกอย่างไม่เป็นไปตามความคาดหมาย
ที่ต้องพูดถึงอย่าง “พลังประชารัฐ” ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นทั้งหัวหน้าพรรคและทุกอย่างของพรรคนี้
คนเคยมีบารมีล้นพ้นอย่าง “บิ๊กป้อม” กลับกลายเป็นผู้เฒ่าที่หงอยเหงาและว้าเหว่อย่างไม่น่าเชื่อ แม้จะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลก็ตาม
มีการพูดกันว่า ด้วยความผิดพลาดอย่างหนึ่งก็คือการแตกคอระหว่าง “2 ป.” คือ พล.อ.ประวิตร และ “น้องรัก” อย่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำให้ต่างคนต่างแยกไปเดินคนละทาง พล.อ.ประวิตรยังเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ
พล.อ.ประยุทธ์ไปเป็นหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นอาณาจักรใหม่ภายใต้สีเสื้อใหม่ เบื้องต้นมองกันว่า
แยกกันเดินรวมกันตีน่าจะเอาชนะ “เพื่อไทย” ได้
แต่ปรากฏหลักคิดผิด ดีที่แต่ละพรรคยังพอเอาตัวรอดได้มี สส.พรรคละ 30-40 คน และเป็นแบบพรรคหนึ่งได้ สส.จากแบ่งเขต อีกพรรคได้จากปาร์ตี้ลิสต์แต่รวมกันแล้วยังไม่ถึง 100 คน
ไม่มีทางสู้ “เพื่อไทย” และ “ก้าวไกล” ได้เลย
ดีที่ว่า “เพื่อไทย”-“ก้าวไกล” ไม่สามารถรวมกันตั้งรัฐบาลได้ ทำให้สมการการเมืองเปลี่ยนไปแบบหน้ามือเป็นหลังมือ
ด้วยสูตรรัฐบาลพิเศษ (สลายขั้วการเมือง) ทำให้พลังประชารัฐและรวมไทยสร้างชาติได้เข้าร่วมรัฐบาล
ที่ว่าอย่างนี้เพราะมีการประกาศไว้ไม่เอา “3 ป.” ร่วมรัฐบาลตั้งแต่ตอนหาเสียงแต่ด้วยสมการใหม่ที่มี “ทักษิณ” เป็นตัวแปรสำคัญจึงกลายเป็นรัฐบาลชุดปัจจุบัน 314 เสียง
“บิ๊กตู่” ประกาศลาออกจากรวมไทยสร้างชาติ ยุติบทบาททางการเมือง และได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้เป็น “องคมนตรี”
แต่ “บิ๊กป้อม” ยังอยู่ในวังวนการเมืองที่ผูกติดจนแยกไม่ออกในตำแหน่งหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่มีชีวิตค่อนข้างจะเงียบเหงาไม่อู้ฟู้เหมือนก่อนที่มีลูกพรรคล้อมหน้าล้อมหลัง
พ่วงตำแหน่ง สส.ปาร์ตี้ลิสต์เพียงหนึ่งเดียว
บทบาททางการเมืองภาพใหญ่กลับตกไปอยู่ในมือของ “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” เลขาธิการพรรคและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ
และ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ “น้องชาย” ในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ที่เป็นไปก็คือบรรดาลูกพรรคตัวตึงที่ผ่านมา ปรากฏไม่โผล่หน้าหรือเยี่ยมกรายไปใกล้ชิด “นาย” เหมือนเก่าก่อนหรือพอจะพูดว่า ต่างคนต่างอยู่มากกว่า
จนกระทั่งล่าสุด “บิ๊กป้อม” ได้สั่งให้ฟื้นนโยบายเดินสายเพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ภายในพรรคเริ่มที่เพชรบูรณ์เป็นจังหวัดแรกหลังจากที่ห่างเหินกันไปนาน
ประเด็นก็คือ มี สส.ระดับ “บ้านใหญ่” หลายคนจะแยกตัวคืนกลับพรรคใหญ่ที่เคยสังกัดจำนวนไม่น้อย
ยิ่งไปกว่านั้น “น้องชาย” ที่หวังให้มาดูแลพรรคก็ไม่มีบารมีพอ
นี่ก็เป็นทุกข์ของ “คนแก่” ที่ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะต้องตกมาอยู่ในสภาพนี้มาก่อน!
ขอบคุณแหล่งที่มา : thairath
ข่าวใหม่















ความคิดเห็น