ผงะตั้งองค์กรอาชญากรรม ฆ่าทมิฬ อุเทน-ครูเจี๊ยบ แฉซ่องสุมสมาชิก 84 คน (คลิป)

สืบนครบาลปิดเมืองบุกรวบ 8 วัยรุ่นทมิฬอดีตเด็กช่างคู่อริอุเทนถวาย บุกค้น 4 จุดจับ 8 วัยรุ่นทมิฬ เปิดหัวเช้ามืดลากคอ “ไอ้เอย” คนขี่ จยย.ยิงอุเทนฯตายหน้าเภสัช จุฬาฯ เมื่อต้นปี อีกคนคือ “ไอ้นนท์” ร่วมแก๊งยิง “น้องหยอด” จนครูเจี๊ยบถูกลูกหลงดับ ก่อนตามไปจับยกโขยงอีก 6 คน ที่เซฟเฮาส์ซอยวงศ์สว่าง 19 แฉพฤติกรรม “ไอ้เอย” ร่วมวางแผนยิง “น้องหยอด” และมีตำแหน่งเป็นเหรัญญิกกลุ่มรับเงินสีเทาสนับสนุนคอยจ้างทนาย ประกันตัวสู้คดี ตกบ่าย “ผู้การจ๋อ” ยึดรถแวนที่ใช้พามือปืนรวมทั้งยกรถ จยย.ที่ก่อเหตุหนีไปเปลี่ยนสี หลังได้เบาะแสซุกสวนร้างที่ไทรน้อย ชี้พฤติกรรมเป็นองค์กรอาชญากรรมยิ่งกว่าในหนัง น.1 เผยหลังสอบปากคำเองมีแกนนำตั้งกลุ่มตามความเชื่อ สร้างโลกเสมือนจริง เช่าที่พักซ่องสุม ติดรูปคนตายสร้างความฮึกเหิมปลุกใจ

จากเหตุศึกสถาบันเด็กช่างไล่ยิงกันอย่างอุกอาจจนมีผู้ไม่เกี่ยวข้องรับเคราะห์โดนลูกหลง โดยรายล่าสุดสังคมรับไม่ได้เพราะ น.ส.ศิรดา หรือครูเจี๊ยบ สินประเสริฐ อายุ 45 ปี ครูสอนวิชาคอมพิวเตอร์ ระดับชั้น ม.ต้น โรงเรียนพระหฤทัย คอนแวนต์ ตกเป็นเหยื่อเสียชีวิตถูกยิงในเหตุการณ์ที่ นศ.มหาวิทยาลัยราชมงคลตะวันออก วิทยา เขตอุเทนถวาย ถูกสถาบันคู่อริไล่ยิงบริเวณธนาคาร ทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) สาขาคลองเตย ถนนสุนทรโกษา แขวงและเขตคลองเตย กทม. เมื่อเช้าวันที่ 11 พ.ย.ขณะที่นายธนสรณ์ หรือหยอด ห้องสวัสดิ์ อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้นปี 1 สถาบันดังกล่าว ถูกยิงบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทำให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ถึงกับสั่งคาดโทษผู้การท้องที่หากเกิดเหตุการณ์ทำนองนี้ขึ้นอีกและให้เร่งจัดการขั้นเด็ดขาดกับทรชนในคราบนักศึกษา

สืบนครบาลจู่โจมจับ 8 ทรชน

ล่าสุดเมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 22 พ.ย. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูนสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต วิทวัส ชินคำ ผบก.น.5 ร่วมกันนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบนครบาล สืบ บก.น. 5 สน.ทุ่งมหาเมฆ นำหมายศาลเข้าตรวจค้นสถานที่ต้องสงสัยจับกุมกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุยิง น.ส.ศิรดา หรือครูเจี๊ยบ สินประเสริฐ และนายธนสรณ์ หรือหยอด ห้องสวัสดิ์ อายุ 19 ปี เสียชีวิต ได้ทั้งหมด 8 คน

ล็อก “ไอ้เอย” ที่เคหะบางบัวทอง

มีรายงานว่า ผู้ต้องหาทั้ง 8 คน ประกอบไปด้วย นายพฤฒิพล หรือเอย ราชญาณ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14/2019 ม.13 ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ผู้ต้องหาที่ 1 ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.121/2566 ลง 13 ก.พ.66 ข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควร, ร่วมกันยิงปืน (ซึ่งใช้ดินระเบิด) โดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมชน” จับได้ที่ หน้าตึก 5 เคหะเอื้ออาทรบางบัวทอง ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี สอบสวนให้การปฏิเสธ นอกจากนี้ ยังจับกุมนายวรงชัย หรือนนท์ กัณฑ์ศรี อายุ 20 ปี อยู่ที่ 120 ต.คลองพระอุดม อ.ปากเกร็ด นนทบุรี ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ จับได้ที่บ้านเลขที่ 46/1 หมู่ 5 ต.ทวีวัฒนา อ.ไทรน้อย

สุดแสบวางแผน-เหรัญญิกกลุ่ม

สำหรับพฤติการณ์นายพฤฒิพล หรือเอย ผู้ต้องหาที่ 1 ทำหน้าที่ขี่ จยย.ให้คนร้ายอีกคน (จับได้แล้ว) ยิงใส่นักศึกษาช่างกลอุเทนถวายที่หน้าคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 14 ม.ค.66 และเป็นคนเดียวที่ยังหลบหนีอยู่ จากการสืบสวนพบเป็นผู้ช่วยวางแผน ช่วยเหลือกลุ่มคนร้ายยิงน.ส.ศิรดาหรือครูเจี๊ยบ และนายธนสรณ์ หน้าธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด สาขาคลองเตย รวมทั้งมีหน้าที่เป็นเหรัญญิกรวบรวมเงินด้วย

รวบคาเซฟเฮาส์ 6 เพื่อนร่วมแก๊ง

นอกจากนี้ยังจับกุมนายวุฒิพงษ์ ผลคำ อายุ 25 ปี ที่อยู่ 136 ม.4 ต.บึงแก อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร นายสัญปกรณ์ พรรณานนทศักดิ์ อายุ 24 ปี ที่อยู่ 148 ม.16 ต.พรสำราญ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ นายสหัสวรรษ ภักดีนอก อายุ 23 ปี ที่อยู่ 23 ม.2ต.บางขนุน อ.บางกรวย จ.นนทบุรี นายจิรายุส สุวรรณศุภ อายุ 23 ปี ที่อยู่ 149 ถนนพระราม 5 แขวงถนนนครชัยศรี เขตดุสิต กทม. นายธนากร พันทองคำ อายุ 22 ปี ที่อยู่ 3/19 ม.3 ต.บางขะแยง อ.เมืองปทุมธานี และนายอภิเดช นาคประกอบ อายุ 21 ปี ที่อยู่ 180/198 ม.1 ต.บางขะแยง อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี จับทั้ง 6 คนได้ที่บ้านเลขที่ 22/1 ซ.วงศ์สว่าง 19 แยก 2 แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กทม.

พร้อมใจปากแข็งให้การปฏิเสธ

สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 6 คนถูกกล่าวหา ว่าร่วมกันสบคบกันตั้งแต่ 5 คน กระทำความผิดอย่างหนึ่งอย่างใด ตามที่บัญญัติไว้ในภาค 2 หรือซ่องโจร ทั้งหมดให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ยึดของกลางเสื้อยืดสีดำ 1 ตัว เสื้อฮู้ดแขนยาวสีน้ำตาล 1 ตัว กางเกง dickies สีครีม 1 ตัว หัวเข็มขัด 1 อัน รองเท้า adda 1 คู่ รองเท้าคาดขาว 1 คู่ โทรศัพท์ Iphone 11 1 เครื่อง Path ปทุมวัน 1 อัน เมมโมรีการ์ด 1 อัน รถยนต์ toyota vios ทะเบียน กฉ 2673 พระนครศรีอยุธยา ระเบิดปิงปอง 2 ลูก

“ผู้การจ๋อ” นำทีมขุดรากถอนโคน

ขณะที่ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น.หัวหน้าชุดจับกุม กล่าวว่า หลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. สั่งการให้ บช.น. เร่งรัดสืบสวนจับกุมคนร้ายโดยเร็วเนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์เป็นที่สนใจของประชาชน คนร้ายมีจิตใจโหดเหี้ยมลักษณะเป็นองค์กรอาชญากรรม พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.ลงมาควบคุมระดมกำลัง บก.สส.บช.น. กก.สส.บก.น.5 กก.สส.บก.น.6 และ สน.ทุ่งมหาเมฆ เร่งสืบสวนติดตามคนร้ายแบบ “ขุดรากถอนโคน” โดยตนคุมชุดสืบสวนนำตำรวจมือดีจากทั่วนครบาลลงพื้นที่สืบสวนอย่างละเอียดกว่า 1 สัปดาห์ ร่วมกับ พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผบก.น.5 เจ้าของพื้นที่ “เปิดปฏิบัติการปิดเมืองล่า”

ไล่กล้อง 1,000 ตัวล่าอดีต นศ.ทมิฬ

ผบก.สส.บช.น.กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดกว่า 1,000 ตัว ทั้ง กทม.และปริมณฑล พบรถ จยย.คันก่อเหตุ คนร้ายพยายามลบร่องรอยการติดตามเกือบทุกขั้นตอน อีกทั้งลักแผ่นป้ายทะเบียนรถ จยย. 2 แห่งในพื้นที่ สน.ดินแดง และ สน.ประชาชื่น ใช้ตบตาชุดสืบสวนทิ้งจุดหลอกล่อให้ชุดสืบสวนเข้าใจผิดหรือหลงประเด็น เปลี่ยนสีรถจักรยานยนต์คันเกิดเหตุจากสีแดงเป็นสีน้ำเงินเปลี่ยนเครื่องแต่งกายคนร้ายทั้งหมด และมีคนร้ายอีกหลายคนช่วยเหลือก่อเหตุ

พบเซฟเฮาส์ในซอยวงศ์สว่าง 19

พล.ต.ต.ธีรเดชกล่าวต่อว่า ได้จัดทีมวิเคราะห์เส้นทางหลบหนี นำแฟ้มข้อมูลแผนประทุษกรรมกลุ่มบุคคลในเครือข่ายก่อนหน้าเชื่อมโยงพบลักษณะก่อเหตุของคนร้ายคล้ายคลึงกัน คนร้ายแบ่งขั้นตอนวางแผนดูเส้นทางเข้าที่เกิดเหตุ เส้นทางหลบหนี ที่พักคอย จุดเปลี่ยน ตระเตรียมจุดที่ลงมือ พบพยานหลักฐานยืนยันกลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มครู่อริมีผู้ร่วมขบวนการไม่ต่ำกว่า 5 คน สืบทราบแหล่งเซฟเฮาส์อีก 4 แห่ง ในซอยวงศ์สว่าง 19

เป็นองค์กรวายร้ายยิ่งกว่าในหนัง

ผบก.สส.บช.น.กล่าวอีกว่า จากข้อมูลการสืบสวนสอบสวนของตำรวจ พบว่ากลุ่มคนร้ายมีการพัฒนาจนเกินกว่า “องค์กรอาชญากรรม” ไม่ใช่แค่ขี่รถมาก่อเหตุ มีการวางแผนกันเป็น 10 คน “ยิ่งกว่าในภาพยนตร์” มีรุ่นพี่ผู้ผ่านประสบการณ์เป็นพี่เลี้ยง มีกองทุนหาอุปกรณ์ก่อเหตุ กองทุนประกันตัว จ้างทนายต่อสู้คดี ที่เห็นจะเลวร้ายที่สุดคือเมื่อมีคนถูกจับได้ พอถึงชั้นเบิกความจะตามพรรคพวกมานั่งฟังการไต่สวนของชุดสืบสวนเอาไปพัฒนารูปแบบการก่อเหตุไม่ให้โดนจับได้อีก ไม่ใช่เรื่องที่จะมองข้ามกันได้แล้ว เพราะมันลุกลามบานปลายมาจนมีผู้บริสุทธิ์ต้องมาเผชิญชะตากรรมเลวร้ายจากกลุ่มบุคคลนี้

ผบช.น.รุดสอบปากคำเอง

ต่อมาเวลา 10.30 น. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบก.สส.บช.น. เดินทางมาที่ บก.สส.บช.น.ร่วมสอบสวนกลุ่มผู้ต้องหาด้วยตัวเองร่วมกับ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผบก.น.5 ภายหลังสอบสวนนานเกือบ 1 ชม. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. เผยว่า จากการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานทำให้รู้กลุ่มบุคคลร่วมลงมือในเหตุดังกล่าวจนมีผู้เสียชีวิต 2 ราย โดย 1 ในนั้นถูกจับกุมได้แล้ว อยู่ระหว่างขั้นตอนการตรวจดีเอ็นเอ นำไปเปรียบเทียบกับวัตถุพยานโดยเฉพาะปืนที่ยึดมาได้ว่าใช่คนเดียวกันหรือไม่ หากใช่จะระบุได้ทันทีว่าผู้ต้องหาเป็นผู้ลงมือลั่นไก เนื่องจากเป็น 1 ใน 2 คนที่นั่งอยู่รถจักรยานยนต์ที่ก่อเหตุ

ผู้ต้องหามีทั้งอั้งยี่–ร่วมกันฆ่า

พล.ต.ท.ธิติกล่าวอีกว่า ส่วนบุคคลอื่นๆที่ควบคุมได้ 7 คน ถ้ามีส่วนพัวพันและเชื่อมโยง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ต้องหาที่ก่อเหตุยิงนักศึกษาอุเทนถวายเมื่อเดือนต้นปี ถูกจับกุมได้ในวันนี้ด้วยมีส่วนเชื่อมโยงกับคดีดังกล่าว สำหรับหมายจับที่ศาลออกหมายให้ทั้งหมด 5 หมายนั้น แบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ 1.กลุ่มผู้ลงมือก่อเหตุฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และ 2 คืออั้งยี่ ซ่องโจร ส่วนการออกหมายค้นพื้นที่เป้าหมายช่วงเช้า เดิมทีศาลออกหมายค้นให้ 6 หมาย 6 จุด แต่ตรวจค้นจริง 4 หมาย 4 จุดในพื้นที่ กทม. จ.นนทบุรี และ จ.ปทุมธานี

แฉติดรูปคนตายเร้าให้ล้างแค้น

พล.ต.ท.ธิติกล่าวอีกว่า สำหรับผู้ต้องหากลุ่มนี้ เป็นกลุ่มที่สร้างตัวเองขึ้นมาในโลกเสมือนจริง ไม่มีสถานะการเป็นนักศึกษาเทคโนโลยีปทุมวัน แต่พยายามสร้างตัวตนให้เกิดการยอมรับ เชิญชวนกลุ่มที่พ้นสถานะการเป็นนักศึกษาและกลุ่มนักศึกษาปัจจุบันเข้าร่วมกลุ่มสร้างค่านิยมขึ้น มีการติดภาพเหยื่อและคนตายในสถาบันตนเองที่ถูกกระทำจากเหตุลักษณะนี้โดยนำรูปมาติดไว้ในที่พักเพื่อสร้างบทบาท และแรงปลุกเร้าให้เกิดเหตุลักษณะนี้ขึ้น อย่างไรก็ตาม คดีนี้ยังมีผู้ที่เข้าข่ายเกี่ยวข้องตรวจสอบและขยายผลต่อไปอีกหลายคน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์
สุขวิมล ผบ.ตร. สั่งให้เร่งจัดการบุคคลเหล่านี้ที่สร้างตัวตนในโลกเสมือนจริงทั่วประเทศ

สร้างสตอรีเบี่ยงความสนใจ ตร.

ผบช.น.กล่าวอีกว่า สำหรับกลุ่มคนที่ถูกจับกุมมาในวันนี้ยังวางแผนก่อเหตุถอดแบบแผนประทุษกรรมคดีเก่า เหตุการณ์เก่าตั้งแต่ ปี 65 จนถึงต้นปี 66 เพื่อหาแนวทางว่าทำอย่างไร ลงมือก่อเหตุอย่างไรจะรอดพ้นจากการจับกุม ก่อนก่อเหตุมีการสร้างสถานการณ์ในพื้นที่ร่มเกล้า พื้นที่กองบังคับการตำรวจ นครบาล 3 เบี่ยงเบนความสนใจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ใช้นิติวิทยาศาสตร์มัดแก๊งทมิฬ

เมื่อถามว่าเหตุการณ์นี้มีครูบาอาจารย์หรือผู้บริหารสถานศึกษาเกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือหรือสนับสนุน ผบช.น.ระบุว่า มองว่าเหตุการณ์ในลักษณะนี้ เป็นการกระทำของคนที่ไม่มีตัวตนอยู่ในโลกปัจจุบันแต่พยายามสร้างบทบาทให้ตัวเองมีตัวตนขึ้นเท่านั้น เพื่อให้คดีนี้มีพยานหลักฐานแน่นหนาและไม่ถูกศาลยกฟ้องในอนาคต การใช้นิติวิทยาศาสตร์จึงมีส่วนสำคัญ ในช่วงบ่ายวันนี้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติเดินทางไปรวบรวมพยานหลักฐานพร้อมตรวจดีเอ็นเอในรถยนต์และบ้านพักผู้ต้องหากลุ่มนี้ย่านไทรน้อย จ.นนทบุรีเพิ่มเติม

ล่า “ไอ้วิน” มือยิงครูเจี๊ยบ–หยอด

มีรายงานว่าคดียิงน้องหยอด ครูเจี๊ยบ หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับผู้ต้องหา 5 คน วันนี้ตำรวจควบคุมผู้ต้องสงสัยมาสอบสวน 8 คน 2 ใน 8 มีหมายจับ คือ นายพฤฒิพล หรือเอย ราชญาณ เป็นหมายจับคดียิงนายกฤษณะ หรือเจมส์ แหลมแก้ว นักศึกษาสาขาวิศวกรรมศาสตร์โยธา ปี 3 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย เสียชีวิตบริเวณป้ายรถเมล์หน้าคณะเภสัช ม.จุฬาฯ เหตุเกิด 18 ม.ค.66 และนายวรงชัย หรือนนท์ กัณฑ์ศรี อายุ 20 ปี หมายจับร่วมคดียิงน้องหยอด ครูเจี๊ยบ ส่วนมือปืนคดีนี้ทราบชื่อแค่ “วิน” ยังไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง ยังจับกุมไม่ได้

“ผู้การจ๋อ” ยึดรถแวนรับมือปืน

ต่อมาเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ร่วมกับ พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผบก. น.5 พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบรถยนต์โตโยต้าแวนสี่ประตู สีเขียว ทะเบียน ขจ 9707 ชลบุรี ที่ใช้รับมือปืนยิงครูเจี๊ยบและน้องหยอดเสียชีวิต ถูกนำไปจอดซ่อนในสวนร้างริมคลองหนึ่ง ม.6 ต.ทวีวัฒนา อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี หลังมีชาวบ้านแจ้งเบาะแส มีการนำกิ่งไผ่วางปิดบังไว้รอบคัน นอกจากนี้ ยังใช้ผ้าใบสีน้ำเงินคลุมปิดท้ายไว้อีกที ภายในรถพบซองใส่ปืนลูกโม่ 1 อัน ทะเบียนรถ จยย. 9 กม-6055 กรุงเทพมหานคร หมวกไอ้โม่งสีดำ 1 ใบ ถุงมือ ถุงเท้า เสื้อยืด ตำรวจตรวจยึด โดยพบว่ารถคันดังกล่าวนำมาจอดทิ้งไว้ตั้งแต่วันที่ 10 พ.ย.

ยก จยย.ยิงครูเจี๊ยบขึ้นรถ

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น.เผยว่า รถกระบะคันนี้เป็น 1 ในรถที่ร่วมก่อเหตุ ก่อนเกิดเหตุกลุ่มคนร้ายแบ่งหน้าที่วางแผนทำงานอย่างเป็นขบวนการใช้ก่อนเกิดเหตุ ทำหน้าที่เป็นรถที่ใช้ไปรับรถ จยย.คันหนึ่งที่ไปลักแผ่นป้ายทะเบียนรถ จยย.ของชาวบ้านในเขตพื้นที่ สน.ประชาชื่น เพื่อนำมาใช้สับเปลี่ยนแผ่นป้ายทะเบียนรถกับรถ จยย.ที่ใช้ก่อเหตุยิงกลุ่มนักศึกษาคู่อริ นำขึ้นรถเพื่อหลบหนีบริเวณสถานีรถไฟบางซ่อน กทม. ตรวจสอบวงจรปิดพบว่า รถกระบะคันดังกล่าวขับเข้าที่เซฟเฮาส์ของกลุ่มคนก่อเหตุภายในซอยวงศ์สว่าง 19 ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปจับกุมตัวกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุได้ทั้งหมด 6 คน พร้อมของกลางอีกหลายรายการเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา

ให้สื่อเห็นขั้นตอนอำพราง

ผบก.สส.บช.น.กล่าวอีกว่า อยากให้สื่อมวลชนเห็นขั้นตอนการทำงานขององค์กรอาชญากรรมของเขา เดี๋ยวจะเอากองพิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบว่าในรถมีหลักฐานอะไรหลงเหลือ เขาวางแผนเป็นขั้นตอน รถมอเตอร์ไซค์ที่เขาใช้มีหลายคัน ได้ข้อมูลว่ารถที่ก่อเหตุเป็นรถมอเตอร์ไซค์สีแดง แต่เมื่อวิ่งออกนอกกรุงเทพฯแล้วเปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีน้ำเงิน กำลังหาจุดเปลี่ยนสีรถตรงไหน เพราะทำให้ตำรวจสับสนในการดูกล้อง

ลั่นมีไพ่เด็ดให้ศาลลงโทษ

พล.ต.ต.ธีรเดชกล่าวอีกว่า ชัดเจนว่าคนร้ายต่อต้านการสืบสวน ขนาดก่อนเกิดเหตุยังเอารถมาซ่อน และในช่วงเกิดเหตุถ้าจะเอาพยานหลักฐานเชื่อมโยงเขามาดำเนินคดี ให้ศาลเชื่อและลงโทษมันต้องใช้เวลา ก็อย่างที่บอกรูปแบบและวิธีการที่เขากระทำความผิด โดยปกติคนร้ายทั่วไปจะทำกันแค่คนสองคน แต่วิธีการของเขาเป็นองค์กรอาชญากรรม เดี๋ยวจะเปิดคลิปให้ดูบางส่วนว่ามีคนช่วยเหลือเขาเยอะมาก อย่างคนขี่กับคนซ้อน วันนี้ตำรวจนครบาลปฏิบัติการอย่างเป็นรูปธรรมซึ่งไม่ได้จบแค่วันนี้ ถ้าถามว่าจะเอาอะไรไปดำเนินคดีเขา เรามีไพ่เด็ดที่ไม่เปิดเผย เขาคิดว่าไม่สามารถเชื่อมโยงถึงเขาให้ศาลลงโทษได้ แต่วันนี้กล้าเปิดเพราะเรามีไพ่เด็ดแล้ว

พบไลน์กลุ่มลับสมาชิก 84 คน

เมื่อถามว่าเขาแค้นอะไรจึงได้วางแผนเป็นขั้นตอนมายิงคนนี้ พล.ต.ต.ธีรเดชกล่าวว่า ตอนนี้ยังให้การภาคเสธ เชื่อว่าเขายังพูดกับเราไม่หมดขอเวลาตรวจสอบ อย่างที่ท่าน ผบช.น.พูด มันเป็นเหมือนโลกสมมติของคนกลุ่มนี้ว่าสิ่งที่เขาทำจะทำให้ได้รับการยอมรับ และทำให้รู้สึกเป็นโลกขององค์กรของเขา ตั้งแต่ผมทำงานมาผมเชื่อว่ากลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่เข้มแข็ง วันนี้เข้าไปตรวจค้นที่เซฟเฮาส์เขาเชื่อว่าเขายังมีความเป็นเยาวชนอยู่ เพราะเราพูดด้วยเหตุด้วยผลได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กลับมา ส่วนชื่อกลุ่มอะไรขอยังไม่เปิดเผยชื่อถ้าเปิดเดี๋ยวเขาจะรู้หมด เพราะมีถึง 84 คน เขาติดต่อกันทางกลุ่มลับลักษณะเป็นกลุ่มที่มีอุดมการณ์เดียวกัน ขอเวลาตรวจสอบแต่คงไม่ถึงขนาดตั้งขึ้นมาเพื่อฆ่าคน

ถ้าตัดวงจรไม่ได้จะพัฒนาขึ้น

พล.ต.ต.ธีรเดชกล่าวอีกว่า วันนี้เราตัดวงจร ถ้าวันนี้จับไม่ได้กวาดล้างไม่หมด ก็คงพัฒนาการขึ้น ส่วนเป็นการล่าหัวเก็บแต้มหรือไม่นั้นยังตอบไม่ได้ คิดว่ายังไม่ถึงขนาดนั้น แต่จากแผนพฤติกรรมที่เราดูกัน ครูเจี๊ยบเป็นการถูกลูกหลง แต่ในส่วนของน้องผู้ชายอีกคนหนึ่งเข้าใจอย่างที่รู้กันว่าเป็นคู่อริ

มีหัวหน้าแก๊งปกปิดตัวตน

เมื่อถามว่าเป็นไปได้ไหมเมื่อเขาก่อเหตุแล้วไปบอกในกลุ่มว่าเขาเป็นฮีโร่ พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า แนวทางที่เห็นเป็นแบบนั้น วันนี้พาสื่อมวลชนมาจุดนี้ที่ใกล้ๆก่อนแต่จริงๆแล้วเขาไปไกลมาก จากที่ได้ข้อมูลมาเพื่อทำให้เห็นว่าทำไมเราพูดว่าเป็นองค์กรอาชญากรรม เพราะแค่ทะเลาะกันตีกันจะไม่มีรูปแบบขนาดนี้ ในแนวทางเขามีหัวหน้าแก๊งแต่จะปกปิดเป็นความลับ ตำรวจก็พูดอะไรไม่ได้มาก เพราะเดี๋ยวเขาจะหลีกเลี่ยงในการสืบสวนจับกุม

ใช้เงินสีเทาสนับสนุนองค์กร

คนที่เราจับในวันนี้มีตำแหน่งเหรัญญิกอยู่ในกลุ่มเกี่ยวกับเรื่องเงิน เขาก็ไม่รับ แต่เป็นข้อมูลที่ตำรวจได้มา ตอนนี้ยังไม่อยากพูดอะไรมาก ถ้าพูดมากจะทลายขบวนการนี้ไม่ได้ พฤติกรรมเหรัญญิกคนนี้ มีทั้งร่วมกันลงขัน ทั้งจากคนที่ทำงานแล้วมีเงินที่เรียกว่าเงินสีเทาเข้ามา

ยิงเด็กดุสิตรวบเพิ่มอีกหนึ่ง

ส่วนกรณีนายพงศ์ภีระ หรือภู่ สุขโคตร อายุ 16 ปี นศ.ปวช.ปี 2 แผนกก่อสร้าง วิทยาลัยเทคนิคดุสิต ถูก 3 คนร้ายขี่รถ จยย. 2 คนลงมารุมทำร้ายและใช้ปืนยิงเสียชีวิต ระหว่างเดินทางมาเรียน เหตุเกิดบนถนนระนอง 2 เมื่อช่วงเช้าวันที่ 20 พ.ย.เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนนครบาลจับกุมนายอัครพล ศิริเมฆานนท์ อายุ 22 ปี หรือยีน ไทรน้อย มือปืนได้แล้ว ล่าสุดเมื่อเวลา 09.30 น. พ.ต.อ.ไตรภพ แพทย์รัตน์ ผกก.สน.ดุสิต เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 21 พ.ย. จับกุมนายธนากร หรือ อ๊อฟ จันทร์ดาแดง อายุ 18 ปี อดีตนักศึกษาเทคนิคแห่งหนึ่งย่านจรัญสนิทวงศ์ สถาบันคู่อริ โดยนายธนากรเป็นคนที่นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์หลบหนีหลังก่อเหตุ ตามภาพวงจรปิดมีบาดแผลถูกแทงเฉี่ยวที่ลำคอและท้อง ขณะนี้ยังสอบเรื่องพฤติการณ์การก่อเหตุ ส่วนตัวผู้ต้องหายังไม่พูดถึงมูลเหตุจูงใจ ต้องสอบปากคำเพิ่มอีก ทั้งนี้จะนำตัวนายอัครพลและนายธนากรส่งตรวจร่างกายที่ รพ.ตำรวจ เพื่อประกอบคำให้การและพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ

ร่วมทำร้ายแล้วถูกแทงบาดเจ็บ

สำหรับนายธนากร หรืออ๊อฟ ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมรายที่ 2 ในวันเกิดเหตุได้นั่งซ้อนท้าย จยย.ของนายโอม ที่ยังหลบหนีมาด้วยกัน ส่วนนายยีน ไทรน้อย มือปืน ผู้ต้องหารายแรกที่ถูกจับกุม ขี่รถจักรยานยนต์มาคนเดียว เมื่อถึงจุดเกิดเหตุเกิดชุลมุน นายธนากรถูกฝ่ายผู้ตายแทงบาดเจ็บ และหลังจากที่นายยีนยิงผู้ตาย นายธนากรได้ขึ้นซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ของนายยีนหนีออกจากที่เกิดเหตุกระทั่งถูกจับกุมได้ในที่สุด

โยนปืนลูกโม่เข้ารั้วเทคโนปทุมวัน

มีรายงานว่าเมื่อเวลา 19.20 น. ร.ต.อ.ธัญอมร หนูนารถ รอง สวป. สน.ปทุมวัน รับแจ้งจาก รปภ.สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กทม.มีชายโยนวัตถุต้องสงสัยเข้ามาในรั้วเทคโนโลยีปทุมวัน ไปตรวจสอบพบว่าบนสนามหญ้า พบปืนแบลงก์กัน พร้อมลูกกระสุนปืน .38 จำนวน 4 นัด คาอยู่ในลูกโม่ ถูกยิงไปแล้ว 2 นัด คาดว่าคนที่พกพาปืนดังกล่าวน่าจะกลัวความผิด เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจปฏิบัติหน้าที่อยู่หน้าเทคโนโลยีปทุมวัน จึงโยนปืนทิ้งก่อนขี่รถ จยย.หลบหนี เจ้าหน้าที่ตรวจยึดอาวุธปืนดังกล่าวมาตรวจสอบที่ สน.ปทุมวัน พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ศูนย์สืบสวนและสอบสวน บช.น.และกองพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบรอยนิ้วมือเพื่อตรวจสอบว่ามีความเชื่อมโยงกับการก่อเหตุยิงนักศึกษาอุเทนถวายและครูเจี๊ยบหรือไม่

แม่ครูเจี๊ยบขอบคุณตำรวจ

ส่วนความรู้สึกของผู้สูญเสียหลังทราบข่าวตำรวจจับกุมแก๊งอดีตนักศึกษาไล่ล่าสถาบันคู่อริ โดยเฉพาะที่บ้านเลขที่ 17 หมู่ 4 ต.ต้นตาล อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี นางมณี สินประเสริฐ อายุ 70 ปี แม่ครูเจี๊ยบ กล่าวว่า ฝากสื่อให้ตำรวจช่วยทลายแก๊งกลุ่มนี้เสียให้สิ้นซากเพื่อที่จะไม่ให้ไปก่อเหตุกับครอบครัวคนอื่นอีกที่ได้รับความสูญเสียแบบครอบครัวของตน และจะไม่ให้อภัยคนร้ายที่มาก่อเหตุยิงครูเจี๊ยบและนักศึกษาเสียชีวิต ยังมีความแค้นอยู่จะดำเนินคดีและจะไม่ประนีประนอมโดยเด็ดขาด ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ช่วยเร่งคดีติดตามตัวคนร้าย จากที่ลูกตัวเองเสียชีวิตไป 11 วันแล้วอย่างน้อยยังภูมิใจที่เจ้าที่ตำรวจได้คืนความยุติธรรมมาให้ครอบครัวของตนและครอบครัวน้องหยอด

แม่น้องหยอดไม่อภัยมือฆ่า

เย็นวันเดียวกัน ที่วัดสุวรรณรัตนาราม (วัดแคราย) อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร สถานที่สวดพระอภิธรรมนายธนสรณ์ หรือหยอด ห้องสวัสดิ์ อายุ 19 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย น.ส.พรพิมล ห้องสวัสดิ์ แม่น้องหยอด บอกว่ารู้สึกว่าโล่งอกและดีใจอย่างน้อย ลูกก็ยังได้รับความยุติธรรม และเมื่อลูกไม่อยู่แล้วเขาก็จะได้ไปแบบไม่ต้องห่วงอะไรทั้งสิ้น อย่างน้อยก็ยังรู้ว่าใครทำร้ายเขา แล้วทำเพื่ออะไร จุดประสงค์อะไร อย่างน้อยได้เคลียร์ให้ตัวเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ว่าคนที่ทำเขากับเขาไม่เคยบาดหมางกันมาก่อน ส่วนคนร้ายถ้าจะมาขอขมาศพนั้น ไม่ต้องมา ไม่ให้อภัยด้วย ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกท่านทุกหน่วยงานที่ทำงานกันเต็มที่เพื่อที่จะเรียกร้องความยุติธรรมให้ลูกตนกับครูเจี๊ยบ เพราะว่าทำงานกันไม่ได้หยุดได้ให้กำลังใจอยู่ห่างๆ

ขอบคุณแหล่งที่มา : thairath