สรุปสงครามอิสราเอลวันที่ 4 ตายทะลุ 1,700 ศพ ฮามาสขู่สังหารตัวประกัน
สถานการณ์สงครามอิสราเอล-ปาเลสไตส์วันที่ 4 จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นจนมากกว่า 1,700 ศพแล้ว โดยอิสราเอลยึดชายแดนฉนวนกาซาได้ทั้งหมด ขณะที่กลุ่มฮามาสขู่สังหารตัวประกัน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สถานการณ์สงครามอิสราเอล-ปาเลสไตส์วันที่ 4 ในวันอังคารที่ 10 ต.ค. 2566 การต่อสู้ยังไม่มีท่าทีจะยุติลง อิสราเอลยังคงปิดกั้นชายแดนและโจมตีทางอากาศถล่มฉนวนกาซาอย่างรุนแรง อันเป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการล้างแค้น หลังกลุ่มติดอาวุธฮามาสเปิดฉากโจมตีครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 50 ปี ใส่หลายเมืองทางใต้ของอิสราเอลเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา และส่งนักรบติดอาวุธเข้ามาสังหารและลักพาตัวผู้คน
การโจมตีของอิสราเอลในวันอังคารทำลายหลายเขตในกาซาจนพังราบ โรงเรียน, อาคารที่อยู่อาศัย หรือแม้แต่อาคารขององค์การสหประชาชาติก็ถูกทำลายหรือได้รับความเสียหาย ขณะที่ฝ่ายฮามาสก็ยิงจรวด ‘คาสซาม’ (Qassam) เข้าใส่อิสราเอลมากกว่า 5,000 ลูกแล้ว นับตั้งแต่การต่อสู้เริ่มขึ้น
อิสราเอลยังเรียกระดมพลทหารกองกำลังสำรองถึง 300,000 นาย ทำให้เกิดความกังวลว่า พวกเขาอาจกำลังเตรียมการโจมตีภาคพื้นดิน ซึ่งเสี่ยงทำให้เกิดการปะทะระยะประชิดในเขตชุมชน รวมถึงในอุโมงค์ใต้ดิน และจุดที่ตัวประกันถูกจับตัวเอาไว้ โดยเจ้าหน้าที่ท่าอากาศยานอิสราเอลเผยว่า สายการบิน เอล อัล (El Al) กับ อิสราเอล แอร์ไลน์ส เพิ่มเที่ยวบินเพื่อรับตัวทหารกองกำลังสำรองกลับสู้ประเทศให้มากขึ้นแล้ว
ความเสียหายในเมืองอัสเคลอน ของอิสราเอล หลังถูกจรวดจากฉนวนกาซาโจมตี
นาย โวลเกอร์ เติร์ก ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติออกมาเตือนว่า การปิดกั้นชายแดนฉนวนกาซาอย่างสิ้นเชิงของอิสราเอล ซึ่งทำให้พลเรือนไม่สามารถเข้าถึงสิ่งของจำเป็นเพื่อการมีชีวิตรอดนั้น ถูกห้ามภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งมีขอผูกมัดว่า จะต้องสงวนไว้ซึ่งประชาชนและสิ่งของพลเรือนที่ยังใช้การใต้ตลอดเวลาที่เกิดการโจมตี
ส่วนองค์การอนามันโลกเรียกร้องให้เปิดเส้นทางสิทธิมนุษยชน เพื่อเข้า-ออกฉนวนกาซา เพื่อนำเสบียงและอุปกรณ์ทางการแพทย์เข้าไปช่วยเหลือโรงพยาบาลที่กำลังขาดแคลนเชื้อเพลิง รวมถึงไฟฟ้า
ด้านกลุ่มฮามาสออกมาขู่จะสังหารตัวประกันชาวอิสราเอล 1 คนทุกครั้งที่มีบ้าน 1 หลังที่ถูกอิสราเอลโจมตีทำลาย และว่าจะไม่เจรจาเรื่องตัวประกาศในขณะที่พวกเขายังคงถูกโจมตี ทำให้สหรัฐฯ ออกมาเตือนทันทีว่า ต้องจริงจังกับคำขู่จองกลุ่มติดอาวุธป่าเถื่อนกลุ่มนี้
โฆษกของกลุ่มฮามาสระบุด้วยว่า ได้บอกให้ประชาชนในเมืองท่าอัชเคลอน ของอิสราเอล ซึ่งถูกโจมตีอย่างหนักตั้งแต่วันแรกของการต่อสู้ ให้ออกจากพื้นที่ภายใน 14.00 น. วันอังคารที่ 10 ต.ค. โดยไม่เปิดเผยรายละเอียดใดๆ เพิ่มเติม
ฝ่ายอิสราเอลกับเลบานอนยิงปืนใหญ่กับจรวดข้ามชายแดนโจมตีเข้าใส่กันต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 แล้ว
อาคารในนครกาซา ซิตี้ ถูกทำลาย
ความเสียหายต่อชีวิต
สื่ออิสราเอลยืนยันว่า การต่อสู้ตลอด 4 วันที่ผ่านมา กลุ่มฮามาสสังหารพลเมืองของพวกเขาไปมากกว่า 900 ศพ โดย 260 ศพในจำนวนนี้ คือผู้ที่ไปร่วมงานเทศกาลดนตรีที่เมืองเรอิม ซึ่งเป็นอีกจุดที่ถูกฮามาสโจมตีอย่างหนัก ขณะที่มีพลเรือนได้รับบาดเจ็บมากกว่า 2,000 ราย
ส่วนกระทรวงกลาโหมปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาระบุว่า มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตอย่างน้อย 830 ศพ และบาดเจ็บมากกว่า 4,250 ราย โดยไม่ระบุว่าเป็นนักรบติดอาวุธหรือพลเรือนจำนวนเท่าใด ขณะที่โฆษกกองทัพอิสราเอลอ้างว่า พบศพนักรบฮามาสราว 1,500 คนภายในอิสราเอล บริเวณพื้นที่รอบฉนวนกาซา
ชาวต่างชาติจำนวนมากเสียชีวิตในเหตุความรุนแรงครั้งนี้ รวมถึงแรงงานชาวไทย 18 คน, นักศึกษาชาวกัมพูชา 1 คน, พลเมืองสหรัฐฯ 11 คน และชาวฝรั่งเศสอีก 2 คน
นอกจากนั้น ยังมีชาวต่างชาติสูญหายอีกหลายราย เอกอัครราชทูตฟิลิปปินส์ประจำอิสราเอล เปิดเผยว่า ยังหาพลเรือนของพวกเขา 5 คนไม่พบ โดย 1 ในนี้อาจถูกลักพาตัวไป ขณะที่ฝรั่งเศสระบุว่า พลเรือนของพวกเขาหายตัวไป 14 คนรวมเด็กอายุ 12 ขวบ ส่วนประเทศไทยกำลังดำเนินการพาพลเรือนหลายพันคนกลับประเทศ
ขณะเดียวกันในฉนวนกาซา มีประชาชนกลายเป็นผู้พลัดถิ่นแล้วมากกว่า 187,500 ราย นับตั้งแต่ฮามาสเริ่มการโจมตีเมื่อวันเสาร์ ตามรายงานของสหประชาชาติ ไม่รวมชาวปาเลสไตน์ 3,000 คนที่กลายเป็นผู้พลัดถิ่นในการปะทะครั้งก่อนๆ
ชาวปาเลสไตน์ในฝรั่งเศส เดินขบวนแสดงความสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ เมื่อ 10 ต.ค. 2566
ปฏิกิริยาจากนานาชาติ
สหรัฐฯ ซึ่งมอบเงินช่วยเหลือทางทหารแก่อิสราเอลปีละ 3.8 พันล้านดอลลาร์อยู้แล้ว ประกาศจะให้ความช่วยเหลือด้านความมั่นคงเพิ่มพิเศษ แต่ยืนยันว่าไม่มีความตั้งใจที่จะส่งทหารเข้าสู่อิสราเอล
ขณะที่สหภาพยุโรป ถอนคำพูดที่ประกาศก่อนหน้านี้ว่า จะระงับการความช่วยเหลือให้แก่ชาวปาเลสไตน์ที่เคยให้มาตลอด หลังมีหลายประเทศรวมถึงฝรั่งเศสกับสเปนคัดค้าน
ด้านอิหร่านออกมาปฏิเสธความเกี่ยวข้องใดๆ กับการโจมตีของกลุ่มฮามาส แม้พวกเขาจะออกโรงสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธกลุ่มนี้อย่างเต็มที่ โดยนายอายาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดอิหร่าน กล่าวว่าการโจมตีคือความพ่ายแพ้ทั้งทางข่าวกรองและทางทหารอย่างไม่อาจแก้ไขได้ของอิสราเอล
ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย กล่าวว่า เหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นความล้มเหลวของนโยบายของสหรัฐฯ ในตะวันออกกลาง และเสริมว่า สหรัฐฯ พยายามหาทางผูกขาดความพยายามระหว่างประเทศในการสร้างสันติภาพ และกล่าวหาวอชิงตันว่าเพิกเฉยต่อการหาทางประนีประนอมที่อิสราเอลกับปาเลสไตน์สามารถยอมรับได้
ขอบคุณแหล่งที่มาและติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ความคิดเห็น