“ฮุนเซน” รุดเยี่ยม “ทักษิณ” เป็นการส่วนตัวเจอกันวันนี้ คิว 3 ชั่วโมงครึ่ง (คลิป)
“ฮุนเซน” จัดคิวบินเยี่ยมเพื่อนซี้ “ทักษิณ” เป็นการส่วนตัว ใช้เวลาขลุกอยู่ในบ้านจันทร์ส่องหล้า 3 ชั่วโมงครึ่ง คนใกล้ชิดขนเสบียงอาหารเหนือส่งถึงที่ “พิชิต” ท้าใครข้องใจพักโทษให้ยื่นซักฟอก ออกตัวไม่มีหมอคนไหนเปิดข้อมูลคนไข้ โวยอัยการจ้องถ่ายภาพ “นายใหญ่” ฉะทำผิดกฎหมายไม่รู้มีจุดประสงค์ใด “ทวี” แจกแจงเงื่อนไขการพักโทษมี 11-12 ข้อ “เศรษฐา” ยังไม่มีแพลนเข้าเยี่ยม “บรู๊ค” เผย “อิ๊งค์” บอกพ่อเป็นโรคกระดูกคอเสื่อม-เส้นเอ็นเปื่อยยุ่ย เลยต้องเข้าเฝือกคอและแขน ก.ก.ปรามอัยการจุ้นแทนหมอ จับตาอดีตนายกฯล้ำเส้นรัฐบาล “วัชระ” ร้อง อสส.สอบวินัย-จริยธรรมอธิบดีอัยการฯ ฐานรับรองอาการป่วยขั้นวิกฤติ นายกฯแย้ม ครม.รับทราบข้อเสนอแนะดิจิทัลวอลเล็ตจาก ป.ป.ช.แล้ว “อนุทิน” ชง ครม.ย้ายบิ๊ก มท.นอกฤดู 10 ตำแหน่ง โยกสลับอธิบดีฯ-ผู้ว่าฯตามโผ
จากกระแสวิพากษ์วิจารณ์หนักถึงกระบวนการยุติธรรม 2 มาตรฐาน หลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้รับการพักโทษตามเกณฑ์กรมราชทัณฑ์ ออกมาอยู่ที่บ้านพักจันทร์ส่องหล้า ล่าสุดสมเด็จอัครมหาเสนาบดี เดโช ฮุน เซน อดีตนายกฯกัมพูชา เตรียมบินมาเยี่ยมเป็นการส่วนตัว
“ทักษิณ” เก็บตัวในบ้านจันทร์ฯ
เมื่อวันที่ 20 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานจากบ้านจันทร์ส่องหล้า ซอยจรัญสนิทวงศ์ 69 บ้านพักของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ได้รับการพักโทษ ตลอดทั้งวันนายทักษิณยังคงพักอยู่แต่ภายในบ้าน ไม่ได้ออกไปไหน มีเพียงรถบุคคลใกล้ชิด คนในครอบครัวเข้าออกตลอดเวลา อาทิ รถตู้เมอร์เซเดสเบนซ์ เลขทะเบียน 4 ขท 2566 ของคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภริยานายทักษิณ โดยมีรถฟอร์จูนเนอร์สีดำขับตามหลังมาอีก 1 คัน แต่ยังไม่ปรากฏว่ามีบุคคลสำคัญทางการเมืองหรือคนในพรรคเพื่อไทยเดินทางมาขอเยี่ยมแต่อย่างใด และมีรถขนส่งสเบียงอาหาร ส่วนใหญ่เป็นอาหารเหนือ เช่น แคปหมู ไส้อั่ว น้ำพริกหนุ่ม ฯลฯ ขณะที่การรักษาความปลอดภัยบริเวณรอบบ้านจันทร์ส่องหล้ามีรถสายตรวจ สน.บางพลัด คอยตรวจตราเป็นระยะ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนมาประจำอยู่โดยรอบบริเวณบ้าน
“ฮุนเซน” บินเยี่ยมเพื่อนซี้ส่วนตัว
ผู้สื่อข่าวรายงานจากบ้านจันทร์ส่องหล้าว่า ในวันที่ 21 ก.พ. สมเด็จอัครมหาเสนาบดี เดโชฮุนเซน หรือสมเด็จฮุน เซน ประธานคณะองคมนตรีกัมพูชา อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่มีความสนิทสนมกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะเดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณเป็นการส่วนตัวที่บ้านจันทร์ส่องหล้า โดยสมเด็จอัครมหาเสนาบดี เดโช ฮุน เซน จะเดินทางถึงเวลาประมาณ 10.30 น. และจะอยู่จนถึงเวลาประมาณ14.00น.
“อิ๊งค์” คอนเฟิร์ม “ฮุนเซน” มาแน่
ต่อมาเวลา 17.35 น. ที่สนามฟุตบอลอัลไพน์ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย บุตรสาวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ให้สัมภาษณ์ยอมรับว่าสมเด็จอัครมหาเสนาบดี เดโช ฮุน เซน มีกำหนดเข้าเยี่ยมนายทักษิณวันที่ 21 ก.พ.จริง น่าจะมาทานข้าว ไม่แน่ใจว่ายังไง เมื่อถามย้ำว่าจะมาทานข้าวเที่ยงใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธารตอบว่า “ค่ะ เห็นว่าอย่างนั้น” ผู้สื่อข่าวถามว่าจะเดินทางไปรับด้วยหรือไม่ น.ส.แพทองธารตอบว่า “ไปค่ะไป” จริงๆเป็นหมายส่วนตัว น่าจะเป็นห่วง เห็นว่าได้คุยตอนออกมา คิดว่าเป็นห่วง โดยสมเด็จฮุนเซนนัดหมายกับนายทักษิณโดยตรง เมื่อถามว่าหลังออกจากโรงพยาบาลอาการนายทักษิณดีขึ้นแล้วใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธารตอบว่า ยังไม่ต้องกลับไปที่โรงพยาบาล กลับมาถึงบ้านก็มีความดันสูงนิดหน่อย ส่วนสภาพจิตใจค่อยๆดีขึ้น ไปถามหลายๆคนที่อยู่ที่ที่เดียวมานานๆก็ใช้เวลาปรับตัวนิดนึง
“พิชิต” ท้าใครข้องใจให้ยื่นซักฟอก
นายพิชิต ชื่นบาน ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ได้รับการพักโทษว่า เราต้องตั้งสติกัน อำนาจอธิปไตยแบ่งเป็นนิติบัญญัติ บริหาร ตุลาการ การพักโทษอยู่ในขอบเขตอำนาจฝ่ายบริหาร เคยชี้แจงแล้วว่าคดีเก่าๆของนายทักษิณที่กลับมารับโทษในกระบวนการยุติธรรม จบลงแล้วตั้งแต่ศาลออกใบแดงแจ้งโทษ ขณะนี้อยู่ในกระบวนบังคับโทษ บริหารโทษ ซึ่งอยู่ในอำนาจของฝ่ายบริหารคือ กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม หากใครเห็นว่ากระบวนบังคับโทษไม่ถูกอย่างไร ควรใช้เวทีสภาเพื่อไม่ให้เกิดความแตกแยกในสังคม จะตั้งกระทู้ถาม หรือหากถึงเวลาที่เหมาะสมพรรคฝ่ายค้านอาจยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตรวจสอบกันในระบบรัฐสภาดีกว่าให้ประชาชนตัดสิน ยืนยันเรื่องนี้สามารถตรวจสอบได้ เราต้องมีหลักการ ยืนยันว่าการพักโทษนายทักษิณไม่ได้ทำลายกระบวนการยุติธรรม
โวเข้าสู่กระบวนการไม่มีอิดเอื้อน
นายพิชิตกล่าวว่า ส่วนคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่นายทักษิณถูกแจ้งข้อกล่าวหานั้น คดีนี้จะทำให้เห็นว่านายทักษิณเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้วในเวลาที่เหมาะสม แม้จะไม่สะดวกนั่งรถเข็นไป นายทักษิณก็เข้าไปสู่กระบวนการยุติธรรม เริ่มนับหนึ่งตั้งแต่ไปพบอัยการ เพราะเป็นคดีที่เกิดขึ้นนอกราชอาณาจักร และได้นัดหมายฟังคำสั่งกัน แต่ขอว่าอย่าเอา 2 เรื่องมาปนกัน อยากให้ทุกคนตั้งหลักว่าระหว่างการพักโทษท่านก็เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอย่างไม่อิดเอื้อน ไม่ได้ถูกอายัดตัว ไปพบอัยการเองด้วยและได้รับการประกันตัวออกมา ในฐานะนักกฎหมายมองว่าเรื่องการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมยาก มันน่ากลัวกว่าสิ่งที่เรียกร้องว่าทำลายกระบวนการยุติธรรม ยังมีอีกหลายเรื่องที่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมยากมาก
ไม่มีหมอคนไหนเปิดข้อมูลคนไข้
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตเรื่องอาการนายทักษิณที่ระบุว่าวิกฤติ แต่สามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้ นายพิชิตตอบว่า อยากให้ไปดูหลักเกณฑ์ของการพักโทษว่าท่านป่วยระดับไหน ไม่ใช่ว่าจะต้องถึงขั้นโคม่า มีหลักเกณฑ์ ลำดับการให้คะแนนสุขภาพ และป่วยจริงหรือไม่ อย่าเอาความรู้สึกส่วนตัวมาวัด เราต้องแยกกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรมออกจากตัวนายทักษิณ นายทักษิณเป็นฝ่ายถูกตรวจสอบว่าจะได้รับการพักโทษหรือไม่ ส่วนป่วยจริงหรือไม่ป่วยจริงให้ตรวจสอบกันในระบบรัฐสภา และคนที่เข้ามาเกี่ยวข้องในกระบวนการพักโทษมีรวมแล้ว 19 หน่วยงาน อยากให้ดูหลักเกณฑ์ ถ้าเอาความรู้สึกมาวัดจะเถียงกันไม่จบ ส่วนที่มีการร้องเรียนให้แพทย์เปิดเผยอาการนายทักษิณนั้น ไม่ใช่แค่นายทักษิณ แต่คนไข้ทั่วโลกไม่มีหมอคนใดจะเอาข้อมูลของคนไข้มาบอกกับสังคม มันเป็นกฎ กติกา จริยธรรม จรรยาบรรณแพทย์
โวยอัยการจ้องถ่ายภาพ “นายใหญ่”
นายพิชิตกล่าวต่อว่า เมื่อวานไม่สบายใจระหว่างที่ไปมอบตัว ได้ข่าวว่ามีอัยการท่านหนึ่งพยายามขอถ่ายรูปท่าน อยากให้ไปตรวจสอบกันว่าเป็นท่านใด ไม่สบายใจจริงๆ ไม่รู้จุดประสงค์ว่าจะถ่ายรูปเพื่ออะไร ทีมงานรายงานมาทำให้รู้สึกไม่สบายใจ ไม่อยากเอ่ยนามว่าท่านใด เมื่อถามว่าขั้นตอนการรับทราบข้อกล่าวหาไม่จำเป็นต้องถ่ายภาพใช่หรือไม่ นายพิชิตตอบว่า ไม่ควรถ่ายภาพอย่างยิ่ง ส่วนจะเป็นการละเมิดสิทธิหรือไม่ มองว่าท่านควรรู้ว่าผิดกฎหมาย ไม่ใช่แค่เรื่องละเมิดสิทธิ เมื่อถามว่านายทักษิณได้พูดอะไรบ้างหรือไม่เกี่ยวกับเสียงวิจารณ์ นายพิชิตตอบว่า ไม่ได้ติดต่อกับท่าน แต่พูดไปตามหลักเกณฑ์และข้อเท็จจริงที่ทราบ ส่วนการเคลื่อนไหวชุมนุมข้างทำเนียบฯมองว่าเป็นสิทธิ แต่การให้ข้อมูลในที่ชุมนุมควรให้ข้อมูลที่ถูกต้อง
“ทวี” แจงเงื่อนไขในการพักโทษ
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงเงื่อนไขของกรมคุมประพฤติที่กำหนดให้ผู้ได้รับการพักโทษว่า ปกติแล้วผู้ได้รับการพักโทษต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของกรมคุมประพฤติ 11-12 ข้อ เป็นเงื่อนไขที่ใช้กับบุคคลทั่วไป เช่น การรายงานตัวตามระเบียบ โดยเจ้าหน้าที่กรมคุมประพฤติจะควบคุมให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขอย่างเคร่งครัด เนื่องจากถือว่ายังอยู่ในกระบวนการของศาล ที่ผ่านมามีผู้ที่ได้รับการพักโทษบางรายไม่ปฏิบัติตาม ถูกเพิกถอนการพักโทษเฉลี่ยแล้วรอบละประมาณ 100 คน กรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของหน่วยงานคุมประพฤติในเขตที่รับผิดชอบ และจะรายงานไปยังอธิบดีกรมคุมประพฤติเท่านั้น ผู้ถูกคุม ประพฤติต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์เดียวกัน ไม่มีใครได้รับสิทธิประโยชน์เป็นพิเศษ ระหว่างพักโทษนายทักษิณไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศ หรือนอกพื้นที่ได้หากไม่ได้รับอนุญาต และดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือมีตำแหน่งในบริษัทอื่นๆ ไม่ได้ แต่ยังสามารถให้คนเข้าไปพบปะได้ตามปกติ หากครบกำหนดพ้นโทษหลังเดือน ส.ค.จะมีสิทธิเหมือนกับประชาชนทั่วไป
“เศรษฐา” ยังไม่มีแพลนเข้าเยี่ยม
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีหาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องการเดินทางกลับประเทศไทยได้พูดคุยเรื่องนี้อย่างไรว่า ยังไม่มีเรื่องนี้เข้ามา ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย เมื่อถามว่าจะเกิดวาทกรรมใหม่ขึ้นหรือไม่ หากมีการนำ น.ส.ยิ่งลักษณ์กลับประเทศ เช่นเดียวกับกรณีของนายทักษิณ นายเศรษฐาตอบว่า ยังไม่มีการพูดคุยกันเรื่องนี้ แต่ยืนยันว่านับตั้งแต่ที่นายทักษิณเดินทางกลับมา เมื่อวันที่ 22 ส.ค.2566 ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย ขณะที่แพลนเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ตอนนี้ยังไม่มีแพลน
“ประเสริฐ” รอโอกาสเข้าไปกราบ
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า ตั้งแต่นายทักษิณกลับมาประเทศไทย เข้ากระบวนการยุติธรรมจนได้รับการพักโทษ ยืนยันว่าทุกขั้นตอนเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ไม่มีข้อสงสัย ส่วนเสียงวิจารณ์ว่าไทยมีนายก 2 คนนั้น คนคิดไปเอง วันนี้นายกฯ มีคนเดียวคือนายเศรษฐา ทวีสิน วันนี้บริหารประเทศอยู่ เป็นนายกฯคนเดียวของประเทศไทย ไม่มี 2-3 นายกฯแน่นอน และที่บอกว่านายทักษิณป่วยไม่จริง ดูจากข่าวก็เห็นว่าป่วยมีการใส่เฝือกบริเวณคอและแขน คนอายุมากกว่า 70 ปี มีโรคความดันบ้าง หัวใจบ้าง เป็นเรื่องที่รับฟังได้ เมื่อถามว่าจะไปเยี่ยมหรือไม่ นายประเสริฐตอบว่า ท่านเพิ่งได้รับการพักโทษต้องให้เวลาอยู่กับครอบครัว หากไม่มีปัญหาและมีโอกาสดีต้องถือโอกาสไปกราบอยู่แล้ว คิดว่าด้วยประสบการณ์ ความรู้ความสามารถในอดีตที่ผ่านมา นายทักษิณสามารถทำคุณประโยชน์ให้ประเทศชาติได้ ส่วนจะออกมาในบทบาทใดไม่ทราบ
แนะ จนท.ราชทัณฑ์ทำการบ้าน
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คนที่วิพากษ์วิจารณ์นายทักษิณว่าป่วยจริงหรือไม่ อาจไม่รู้ข้อกำหนดหรือระเบียบ พูดไปโดยไม่มีข้อเท็จจริงหรือหลักเกณฑ์ทางราชการ พูดไปตามความรู้สึก แต่หากไปดูหลักเกณฑ์การพักโทษแล้วจะไม่สงสัยอะไร เรื่องอาการป่วยขึ้นอยู่กับการประเมินของคณะแพทย์ ไม่ใช่คนใดคนหนึ่งเป็นผู้ประเมิน และดำเนินการกับนักโทษทุกคนไม่ใช่คนใดคนหนึ่ง เมื่อถามว่าเป็นห่วงข้าราชการกรมราชทัณฑ์ อดีตผู้ใต้บังคับบัญชาหรือไม่ นายสมศักดิ์ตอบว่า เรื่องที่มีการร้องเรียนหากตอบไปตามข้อเท็จจริง ทำการบ้าน ขยัน ถูกต้องตามกฎหมาย จะไม่มีปัญหาเลย แต่หากไม่ทำการบ้านให้ละเอียดแล้วตอบตามความรู้สึกมันจะยุ่ง ขอให้ดูให้ครบถ้วนกระบวนความ ถ้ารู้รายละเอียดทั้งหมดไม่มีปัญหาแน่นอน ส่วนเรื่องไปเยี่ยมนายทักษิณมองว่าท่านยังไม่แข็งแรงเท่าไหร่ รอให้แข็งแรงสักระยะ ถ้าได้พักฟื้นสภาพร่างกาย ความรู้สึก ไม่เครียดก็จะดีขึ้น เมื่อดีขึ้นแล้วมีโอกาสก็อยากไปกราบท่านเหมือนกัน
“อิ๊งค์” เผยพ่อโรคกระดูกคอเสื่อม
ที่พรรคเพื่อไทย นายดนุพร ปุณณกันต์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จากการสอบถามกับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ถึงอาการป่วยของนายทักษิณ ทราบว่าก่อนที่นายทักษิณจะกลับประเทศไทยป่วยด้วยโรคโควิด-19 ถึง 3 รอบ อาการหนักถึงขั้นเข้าไอซียูเป็นเดือน ปอดไม่สามารถใช้งานได้ 100% เหมือนคนทั่วไป มีอาการลองโควิดเยอะมาก ส่วนกรณีการดามคอเพราะเป็นโรคกระดูกคอเสื่อม ผลจากการตรวจละเอียดเอ็มอาร์ไอที่โรงพยาบาลตำรวจ ทางโรงพยาบาลแนะนำให้เข้ารับการผ่าตัดซึ่งเป็นไปตามวัย แต่นายทักษิณขอออกมาก่อนแล้วค่อยกลับเข้าไปรักษาตัวอีกครั้ง ส่วนการใส่เฝือกอ่อนแขนเพราะเป็นโรคเส้นเอ็นเปื่อยยุ่ย ต้องได้รับการกายภาพไม่ต่ำกว่า 1 ปี จึงจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ โรคนี้เกิดกับผู้สูงอายุ การที่ท่านหายช้า เพราะตลอด 6 เดือนที่อยู่โรงพยาบาลตำรวจ แทบไม่สามารถออกกำลังกายได้เลย ทำให้ร่างกายร่วงโรยเร็วกว่าคนออกกำลังกายได้ปกติ
ฉะ สว.พวกเหาะเหินเดินอากาศ
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า มีคนพยายามจับผิดนายทักษิณมากมาย หากมีเวลาว่างน่าจะทำอะไรที่เป็นประโยชน์กว่านี้ เช่น จับผิดเรื่องผมนายทักษิณสีดำ เลยอยากรู้โรงพยาบาลตำรวจมีร้านย้อมผมด้วยหรือ หรือการใส่เฝือก ถ้าจำเป็นต้องใส่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก บ้านเมืองช้ำมาเยอะแล้วควรเดินไปถึงอนาคตบ้าง อยากให้นายทักษิณมาเป็นที่ปรึกษาแก้เศรษฐกิจให้บ้านเมือง ประเทศไทยจะได้กลับมายิ่งใหญ่ ส่วนจะให้มาเป็นที่ปรึกษาด้านใดเป็นเรื่องอนาคตรอดูอีกระยะ คนเพื่อไทยก็อยากไปพบท่าน แต่ช่วงเวลานี้ยังไม่เหมาะสมอยากให้พักผ่อน อนาคตอาจเห็นท่านไปเดินห้างก็ได้ ข้อกล่าวหาของฝ่ายค้านและ สว. ระบุกรณีนายทักษิณมี 2 มาตรฐานนั้น พวกตนถูกกระทำ 2 มาตรฐานมาตลอด สว.บางคนก็ 3 มาตรฐาน เหาะเหินเดินอากาศมาเป็น สว. บางคนยังไม่รู้จักชื่อ พูดในสภาสักแอะก็ไม่เคย
ก.ก.ปรามอัยการจุ้นแทนหมอ
ช่วงบ่ายที่รัฐสภา นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญาระบุถึงอาการป่วยนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ค่อนข้างวิกฤติ จนเกิดเสียงวิจารณ์ว่าอาการป่วยไม่ใช่เหตุผลสำคัญทำให้ได้รับการประกันตัว โดยพื้นฐานพรรคก้าวไกลสนับสนุนการได้รับสิทธิขั้นพื้นฐาน ต้องสันนิษฐานว่าทุกคนบริสุทธิ์ หากใครไม่ได้รับประกันตัวต้องเป็นกรณียกเว้นจริงๆ เรื่องนี้ต้องปฏิบัติอย่างเท่าเทียมทางกฎหมาย การได้รับการประกันตัวควรเป็นเรื่องทั่วไปสำหรับทุกคน แม้แต่ผู้ถูกกล่าวหาคดีมาตรา 112 ส่วนอัยการคงไม่มีอำนาจวินิจฉัยอาการป่วย ต้องว่าตามเอกสารการแพทย์เกี่ยวกับเหตุผลที่นายทักษิณได้รับพักโทษเป็นกรณีพิเศษ คนให้คำตอบไม่ใช่อัยการต้องเป็นแพทย์ กรมราชทัณฑ์ รมต. คนที่เกี่ยวข้องควรเปิดเผยข้อมูลว่านายทักษิณได้รับสิทธิโดยชอบแล้วอย่างไร หากหน่วยงานเกี่ยวข้องมั่นใจทำถูกต้องแล้ว และเปิดเผยเอกสารการแพทย์เรื่องนี้ก็จบ สังคมจะได้เลิกสงสัย สถานการณ์ที่เป็นเรื่องใหญ่คือการตอกย้ำความรู้สึกคนไทยจำนวนมากที่รู้สึกว่าประเทศไทยมีปัญหาเรื่องกระบวนการยุติธรรม ปฏิบัติต่อประชาชนไม่เท่าเทียมกัน วิธีใดที่คิดว่าจะคืนความยุติธรรมให้นายทักษิณที่ไม่ได้รับความยุติธรรมจากอดีต ไม่ควรเกิดขึ้นด้วยวิธีตอกย้ำผลิตซ้ำความอยุติธรรมที่สร้างปัญหา
จับตาอดีตนายกฯล้ำเส้นรัฐบาล
นายชัยธวัชกล่าวว่า ส่วนกรณีถ้ามีการเชิญนายทักษิณมานั่งที่ปรึกษารัฐบาลจะเหมาะสมหรือไม่นั้น นายทักษิณมีสิทธิให้ความเห็นเหมือนประชาชนทั่วไป และคงปฏิเสธไม่ได้ว่า บทบาทนายทักษิณมีความสำคัญต่อแกนนำรัฐบาล ฝ่ายค้านจะติดตามข้อเท็จจริงถึงการใช้ดุลพินิจเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ ควรคืนกระบวนการยุติธรรมให้ทุกคน ไม่ใช่คนใดคนหนึ่ง เมื่อถามว่ามีการตั้งคำถามถึงการทำงานของพรรคก้าวไกลยังตรวจสอบไม่เข้มข้นพอเมื่อเทียบกับเรื่องอื่นๆ นายชัยธวัชตอบว่า เดี๋ยวรอดู จะตรวจสอบไปพร้อมๆกับการผลักดันนิรโทษกรรมคดีการเมือง คลี่คลายความขัดแย้ง เมื่อถามว่าสังคมเปรียบเทียบคดีนายทักษิณกับนายอานนท์ นำพา นักโทษคดีมาตรา 112 นายชัยธวัชตอบว่า เรื่องนี้เป็นการตอกย้ำการเลือกปฏิบัติทางกฎหมาย ตอกย้ำระบบนิติรัฐที่รัฐบาลบอกจะทำให้เข้มแข็ง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นทำลายความเชื่อถือของสังคม รัฐบาลไม่มีนิติรัฐสำหรับประชาชน แต่เป็นนิติรัฐแบบอภิสิทธิ์ชนที่เป็นต้นเหตุความขัดแย้งทางการเมืองที่ไม่ควรเกิดขึ้น
“วัชระ” ร้อง อสส.สอบอธิบดีอัยการ
ขณะที่นายวัชระ เพชรทอง อดีต สส. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ได้ยื่นเรื่องต่ออัยการสูงสุด (อสส.) ผ่านรองโฆษกสำนักงาน อสส. ขอให้สอบวินัยและจริยธรรมนายปรีชา สุดสงวน อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา ที่พูดปกป้องเรื่องอาการป่วยของนายทักษิณ ขอให้พ้นหน้าที่จากการดูแลคดีมาตรา 112 ถือเป็นการกระทำที่ไม่เป็นกลาง ส่อพฤติกรรมด้วยวาจาว่าคุ้มครองปกป้องผู้ต้องหาทั้งที่ไม่ได้จบแพทย์ เป็นการให้ข่าวต่อสาธารณชนอย่างไม่เหมาะสม ถามว่าได้ตรวจร่างกายผู้ต้องหาว่ามีสภาพวิกฤติอย่างไร คำว่าวิกฤติในทางการแพทย์หมายถึงกำลังจะเสียชีวิต รู้ได้อย่างไรว่าผู้ต้องหากำลังจะเสียชีวิต ควรพูดในนามความเห็นส่วนตัว ไม่ควรพูดหรือแถลงข่าวต่อสาธารณชนในนามสำนักงานอัยการสูงสุด โดยอาศัยตำแหน่งตามอำนาจหน้าที่ เพราะอัยการเป็นทนายของแผ่นดิน “การพูดเช่นนี้สร้างความเสื่อมเสียให้กับองค์กร ท่านเป็นอัยการชั้นผู้ใหญ่ไม่ควรกระทำเช่นนี้ เป็นการผิดประมวลจริยธรรมข้าราชการฝ่ายอัยการและบุคลากรของสำนักงาน อสส. และแบบแผนธรรมเนียมการปฏิบัติ”
นายกฯถก PM2.5 รองเลขาฯยูเอ็น
เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ได้พบหารือกับนางอามีนา เจ. โมฮัมเหม็ด รองเลขาธิการสหประชาชาติ ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทย เพื่อเข้าร่วมพิธีเปิดการประชุม Asia-Pacific Forum on Sustainable Development (APFSD) ครั้งที่ 11 ก่อนเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นที่น่าสังเกตว่าวันนี้นายกฯมีสีหน้าเรียบเฉย นายเศรษฐาแถลงการประชุม ครม.ว่า หารือกับนางอามีนา เจ. โมฮัมเหม็ด ถึงการพัฒนาที่ยั่งยืน ยูเอ็นชื่นชมไทยในการแก้ไขปัญหาและรับมือฝุ่น PM 2.5 มีประสิทธิภาพ แม้ปัญหายังมีอยู่แต่เราจะเดินหน้าแก้ปัญหาต่อไป ได้เสนอนางอามีนาว่าให้จัดตั้งกองทุนเพื่อการแก้ไขปัญหา PM 2.5 ให้กับประเทศที่มีรายได้น้อยทั่วโลก จะได้พัฒนาไปพร้อมกัน ลดปัญหาสภาพแวดล้อมให้ดีขึ้น
ครม.รับทราบข้อเสนอแนะ ป.ป.ช.
นายเศรษฐากล่าวว่า ที่ประชุม ครม. ยังมีมติรับทราบข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริตในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบ ปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เสนอ มอบหมายให้คณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 1 หมื่นบาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ตรับไปพิจารณา เพื่อให้ได้ข้อยุติแล้วนำเสนอต่อ ครม.ใน 30 วัน และที่ประชุม ครม.มีมติให้จัดการประชุม ครม.อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ระหว่างวันที่ 18-19 มี.ค.ที่ จ.พะเยา ส่วนกรณีเคยมีคำสั่งห้าม ครม. เสนอวาระจรเข้าที่ประชุม ถ้าไม่มีความจำเป็นนั้น เรามีขั้นตอนการทำงานเยอะอยู่แล้ว การพิจารณาเรื่องต่างๆให้รอบคอบก็มีความสำคัญ ครม.ก็ควรให้ความสำคัญเรื่องนี้ด้วย หากมีวาระจรเข้ามาเยอะ การตรวจสอบจากหน่วยงานต่างๆ เพื่อความถูกต้องโปร่งใส และมีธรรมาภิบาล อาจจะด้อยลงไป แต่หากมีเรื่องด่วนที่สำคัญจริงๆ ก็สามารถเสนอเข้ามาได้
รักษาความสะอาดรับปีมหามงคล
นายเศรษฐากล่าวต่อว่า ได้พูดคุยกับ ครม.ว่าปีนี้เป็นปีมหามงคล อยากขอความร่วมมือไปยังกรมราชทัณฑ์ ผ่านกระทรวงยุติธรรม หน่วยงานความมั่นคง กองทัพ ผู้ว่าราชการจังหวัด ในการรักษาความสะอาด พื้นที่สาธารณะ ทางเท้า ถนน สวนสาธารณะ ท่อระบายน้ำ แหล่งน้ำ เพื่อให้บ้านเมืองสะอาดและสวยงาม ลดปัญหาน้ำท่วม ส่วนกรณีที่มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า ในอนาคตอาจนั่งควบ รมว.กลาโหมนั้น คงเป็นคำถามต่อเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 19 ก.พ. ที่มีกระแสข่าวปรับ ครม. วันนี้ทุกคนทุกท่านพยายามเร่งเข็นผลงานออกมา ยืนยันยังไม่มีการพูดคุยเรื่องนี้ เมื่อถามว่าสนใจที่จะมาคุมทหารเองหรือไม่ เพราะเห็นไปพบและพูดคุยกับ ผบ.เหล่าทัพหลายคน นายเศรษฐายิ้มก่อนตอบว่า “ผมไปเจอเจ้าหน้าที่หลายกระทรวง ทบวง กรม แต่ไม่ได้หมายความว่าจะมีนัยอะไร”
“อนุทิน” ชง ครม.ย้ายบิ๊ก มท.นอกฤดู
ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงการเสนอแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย โดยเฉพาะโยกย้ายนายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม อธิบดีกรมพัฒนาชุมชน ไปเป็น ผวจ.นครราชสีมาว่า ได้ลงนามเสนอเข้าที่ประชุม ครม.ไปแล้ว เป็นไปตามกระบวนการ มีการโยกย้าย 7-8 ตำแหน่ง ย้ายซี 10 กับซี 10 เหมือนกัน ลดชั้นตรงไหน ผู้ว่าฯใหญ่หรือไม่ บางทีก็แล้วแต่คนจะคิด บางทีเป็นกัปตันเรือเล็กดีกว่าเป็นนายท้ายเรือใหญ่ เมื่อถามว่าคนที่ถูกย้ายยอมรับหรือไม่ นายอนุทินหันไปหานายชัยวัฒน์ที่ยืนอยู่ด้านหลัง พร้อมกับกล่าวว่า “นี่ไงโอเค” ก่อนจะโอบหลังนายชัยวัฒน์เดินขึ้นตึกบัญชาการ 1 ไปด้วยกัน
โยกอธิบดีสลับผู้ว่าฯเป็นไปตามโผ
นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ครม.มีมติเห็นชอบการโยกย้ายสับเปลี่ยนตำแหน่งข้าราชการสังกัดกระทรวงมหาดไทย 10 ราย ได้แก่ 1.นายเชษฐา โมสิกรัตน์ ผวจ.แม่ฮ่องสอน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย 2.นายราชันย์ ซุ้นฮั้ว ผวจ.หนองคาย เป็นรองปลัดฯ 3.นายชูศักดิ์ รู้ยิ่ง ที่ปรึกษาด้านความมั่นคง เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย 4.นายวัชรเดช เกียรติชานน ที่ปรึกษาด้านการปกครอง เป็นผู้ตรวจฯ 5.นายสยาม ศิริมงคล ผวจ.นครราชสีมา เป็นอธิบดีกรมพัฒนาชุมชน 6.นายพรพจน์ เพ็ญพาส รองปลัดฯ เป็นอธิบดีกรมที่ดิน 7.นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็น ผวจ.นคร ราชสีมา 8.นายสมคิด จันทมฤก รองปลัดฯ เป็น ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์ 9.นายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ตรวจฯ เป็น ผวจ.แม่ฮ่องสอน 10.นายสมภพ สมิตะสิริ ผู้ตรวจฯ เป็น ผวจ.หนองคาย
ปลัด มท.ยันเคลียร์ทุกอย่างแล้ว
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า การย้าย ผวจ.หนองคาย กับ ผวจ.แม่ฮ่องสอน มาเป็นรองปลัดฯตนตัดสินใจเอง เพื่อจัดทีมบริหารในส่วนกลางทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ส่วนนายพรพจน์ มาแทนอธิบดีกรมที่ดินที่ลาออกไป สำเร็จการศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมที่จะไปพัฒนางานของกรมที่ดิน ทั้งสำรวจออกโฉนดที่ดิน และยกระดับให้บริการประชาชน นายชัยวัฒน์ ย้ายจากอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็น ผวจ.นครราชสีมานั้น นายชัยวัฒน์ตัดสินใจเลือกเอง เพราะเป็นภูมิลำเนาของภรรยา ดังนั้น กระแสข่าวว่าเตะตัดขาไม่ใช่เรื่องจริง เราพูดคุยสอบถามกันก่อนแล้ว ส่วนนายสยามย้ายจาก ผวจ.นครราชสีมา มาเป็นอธิบดีกรมพัฒนาชุมชน เพราะมีความรู้ความสามารถในงานพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน
นายกฯเบรกคนแห่ตามลงพื้นที่
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า นายกฯมีข้อสั่งการในที่ประชุม ครม.ว่า ก่อนหน้านี้เคยสั่งการไปแล้วว่าขอให้ลดจำนวนผู้ติดตามในการลงพื้นที่ตรวจราชการ แต่ปรากฏว่าขบวนยังยาวอยู่ คนติดตามยังเยอะอยู่ นายกฯเลยย้ำจากนี้ให้ลดจำนวนผู้ติดตามลง อย่าทำให้เกิดปัญหาการจราจรกับประชาชน และเรื่องอื่นๆ นายกฯกังวลเรื่องนี้ ฉะนั้น ครม.ทุกคนได้รับการย้ำแล้วว่าไม่ต้องห่วงเรื่องบารมีอะไร เอาคนไปเท่าที่จำเป็น อย่ายกกันไปเยอะเกินไป พี่น้องประชาชนจะไม่แฮปปี้
สั่งสังคายนาคำนำหน้าแบ่งเพศ
นายชัยกล่าวอีกว่า นายกฯยังสั่งการเรื่องถ้อยคำเพื่อส่งเสริมอัตลักษณ์ความเท่าเทียมและความหลากหลายทางเพศให้สอดคล้องกับที่รัฐบาลผลักดันให้มีร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม และ พ.ร.บ.รับรองอัตลักษณ์ทางเพศสภาพฯ ฉะนั้น การคำนึงชื่อในการคุ้มครองสิทธิความเท่าเทียมต้องให้ความสำคัญกับเรื่องการใช้คำโดยเฉพาะคำนำหน้า โดยนายกฯระบุว่าจากการลงพื้นที่ จ.นครพนม พบว่ามีคำเรียกนายด่านศุลกากรจังหวัดนครพนมที่เป็นสุภาพสตรี แต่นายกฯเผลอเรียกว่านายด่านศุลกากรทำให้รู้สึกอึดอัด นายกฯรู้สึกว่าศัพท์ที่ใช้ควรสังคายนาใหม่ให้ดี สั่งการให้ทุกหน่วยงานไปตรวจสอบชื่อตำแหน่ง เพราะปัจจุบันไม่มีผู้ชายอย่างเดียวแล้ว มีสุภาพสตรีด้วย ฉะนั้น ควรเป็นคำที่สอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ
ไฟเขียวผลิตหมอ 6.2 หมื่นคน
นายชัยกล่าวต่อว่า ครม.ยังมีมติเห็นชอบในหลักการโครงการผลิตแพทย์ และทีมนวัตกรรมสุขภาพเพื่อเวชศาสตร์ครอบครัว ตอบสนองต่อระบบสุขภาพปฐมภูมิทั่วไทย และอนุมัติรายการผูกพันข้ามปีงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป สำหรับโครงการผลิตแพทย์ฯทั้งสิ้น 37,234.48 ล้านบาท ตามที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เสนอโดยโครงการผลิตแพทย์ฯเป็นโครงการที่มุ่งเน้นการพัฒนาระบบบริการปฐมภูมิ ซึ่งเป็นระบบบริการสุขภาพด่านแรกของระบบบริการสาธารณสุขเพื่อดูแลสุขภาพของประชาชนในท้องถิ่น ที่จะช่วยให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการสุขภาพได้อย่างทั่วถึง ประกอบด้วย แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว และสหวิชาชีพ รวม 9 สาขาวิชาชีพ โดยโครงการผลิตแพทย์ฯครอบคลุมระยะเวลา 10 ปี ระหว่างปี 2568-2577 จะสามารถผลิตบุคลากรทางการแพทย์ได้ 62,000 คน โดยใช้จ่ายจากงบประจำปี ตั้งแต่งบฯ 2568-2583 รวม 16 ปี
“ท็อป” ยิ้มออมสินช่วยแก้หนี้ ขรก.
นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการแก้หนี้ข้าราชการ พม.ว่า ได้ลงนามทำเอ็มโอยูกับธนาคารออมสิน เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้ส่วนตัวของข้าราชการ พม.ทั้งกระทรวง มีผู้ร่วมโครงการกว่า 3,500 คน ยอดหนี้เกือบ 4 พันล้านบาท มีทั้งหนี้สินจากบัตรเครดิต เงินสด การผ่อนที่พักอาศัย ตั้งแต่เข้ามาทำงานก็เห็นว่า พม.มีภารกิจที่ต้องแก้ไขดูแลประชาชนมากมาย เกิดคำถามว่าแล้วใครจะดูแลข้าราชการ พม. จะแก้ปัญหาคนอื่นต้องแก้ปัญหาตัวเองให้ได้ก่อน ทำให้เกิดโครงการนี้ ต้องขอบคุณธนาคารออมสินที่เจรจาลดอัตราดอกเบี้ย แบ่งเบาการผ่อนชำระหนี้ของข้าราชการไปมาก เชื่อว่าจะสร้างขวัญกำลังใจทำงานให้ประชาชนได้อย่างเต็มที่
“วิสุทธิ์” ไม่เหนียมเสียบ ปธ.วิป รบ.
อีกเรื่อง นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย รองประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงกระแสข่าวการเปลี่ยนตัวประธานวิปรัฐบาล จากนายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เนื่องจากมีปัญหาด้านสุขภาพมาเป็นนายวิสุทธิ์ว่า ยังไม่ได้รับการติดต่อจากนายกฯหรือผู้ใหญ่ในพรรค ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้ใหญ่ในพรรค และรัฐบาล ที่จะกำหนดตัวบุคคลมาทำหน้าที่ประสานงานระหว่างรัฐบาลและสภาผู้แทนราษฎร หากผู้ใหญ่ในพรรคเห็นว่ามีความเหมาะสม ก็พร้อมเดินหน้าทำงาน พร้อมในทุกหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ไม่เฉพาะตำแหน่งในวิปรัฐบาล
ดวลเพลงแข้งพรรคร่วมฯ-นักข่าว
เวลา 17.30 น. ที่สนามฟุตบอลอัลไพน์ (Alpine Football Camp Training Bangkok) มีการจัดฟุตบอลสานสัมพันธ์พรรคร่วมฯ-สื่อมวลชน มีแกนนำพรรค สส. และสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาล เข้าร่วมคึกคัก นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ รมว.คลัง เดินทางมาถึงสนามพร้อม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายเศรษฐากล่าวทักทายสื่อมวลชนว่า “เมื่อวานก็ไปเตะบอลมา เจ็บสะโพกนิดหน่อย” จากนั้นนายกฯรับมอบเสื้อสีแดงหมายเลข 30 ของทีมลิเวอร์พูล ทีมโปรดของนายกฯ และได้เซ็นชื่อลงเสื้อสีแดงของทีมลิเวอร์พูล หมายเลข 30 อีกตัวหนึ่ง สื่อถึงนายกฯคนที่ 30 เป็นที่ระลึกแก่สนามฟุตบอลด้วย สำหรับทีมพรรคร่วมรัฐบาล อาทิ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม หัวหน้าพรรคประชาชาติ นายเทวัญ ลิปตพัลลภหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า สวมชุดสีขาว ส่วนทีมสื่อมวลชนใส่ชุดสีเขียว หลังแข่งเสร็จมีงานเลี้ยงของพรรคร่วมต่อ
ทั้งนี้ นายเศรษฐาเดินมานั่งข้างสนามเพื่อชมเกมร่วมกับ น.ส.แพทองธารและนายอนุทิน โดย น.ส.แพทองธารเอ่ยกับนายอนุทินว่า “อาหนูเปลี่ยนชุดลงสนาม” แต่นายอนุทินหัวเราะพร้อมโบกมือกล่าวว่า “คงไม่ไหว” น.ส.แพทองธารจึงหันไปแซวสื่อมวลชนว่า “หลายคนคงไม่ได้มาวันนี้ เพราะมัวแต่ไปเฝ้าหน้าบ้านพ่ออยู่” ขณะที่นายกฯระบุว่าวันนี้ไม่ได้ลงเล่น เพราะเจ็บสะโพก
ขอบคุณแหล่งที่มา : .thairath
ความคิดเห็น