เศรษฐา แจง ไม่ประกาศเชียงใหม่ พื้นที่ภัยพิบัติฝุ่น หวั่นส่งผลลบ กระทบนักท่องเที่ยว
เศรษฐา แจง ไม่ประกาศเชียงใหม่ พื้นที่ภัยพิบัติฝุ่น หวั่นส่งผลลบ กระทบนักท่องเที่ยว ทั้งที่ประเทศเพิ่งฟื้นตัวหลังจากผลกระทบโควิด-19
เมื่อเวลา 12.05 น.วันที่ 17 มี.ค.67 ที่โรงแรมอนันตรา เชียงใหม่ รีสอร์ต จ.เชียงใหม่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่เคยระบุว่าช่วงปลายเดือนมี.ค.และต้นเดือนเม.ย ค่าฝุ่นละอองจะเพิ่มมากขึ้น ว่า ตนคิดว่าปลายเดือนมี.ค.เป็นช่วงที่สถานการณ์จะพีค แต่เราก็ไม่ย่อท้อ ก็จะพยายามทำงานต่อไป
ขอย้ำว่าเป็นครั้งแรกที่รัฐบาลอนุมัติงบกลางให้กับประชาชน เพื่อมาช่วยกันดูแลทรัพยากรของชาติร่วมกัน และเมื่อให้ไปแล้ว ก็ต้องมาดูว่าจะต้องไม่มีจุดฮอตสปอตที่เราได้บริหารจัดการไป
เมื่อถามว่าช่วงที่ค่าฝุ่นPM 2.5 พีคสูงขึ้น รัฐบาลจะดำเนินการอย่างไร เพื่อที่ข้าราชการและคนในพื้นที่จะเตรียมความพร้อม นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็ต้องมีการทำงานกันอย่างเคร่งครัด เพราะการที่เราให้งบกลางเพื่อไปดูแลประชาชนในพื้นที่ ก็จะต้องเพิ่มจุดเฝ้าระวังตรงนี้ให้เยอะขึ้น และจะต้องไปดูว่าตรงไหนที่งบประมาณลงไปแล้วจะต้องไม่มีจุดฮอตสปอตเกิดขึ้น
เมื่อถามว่านายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ฝากนายกฯถามผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ว่า ทำไมไม่ประกาศภาวะฉุกเฉิน เนื่องจากพื้นที่จ.เชียงใหม่มีค่าฝุ่นละอองสูงเป็นอันดับ 3 ของโลกใน เพื่อแก้ปัญหา นายเศรษฐา กล่าวว่า งบประมาณเราก็มีให้อยู่แล้วทุกวันนี้เราทำอยู่แล้ว
เมื่อถามย้ำว่าไม่จำเป็นต้องประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติใช่หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ยัง รัฐบาลให้งบกลางมากกว่าที่ออกงบฉุกเฉินอีก ซึ่งเป็นครั้งแรกที่รัฐบาลออกให้
เมื่อถามอีกว่า มีมาตรการเร่งด่วนอะไรในการป้องกันปัญหาสุขภาพประชาชน นายกฯ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมาแจกหน้ากากอนามัย แต่อย่างที่บอกเป็นเรื่องของปลายเหตุ แต่เป็นสัญลักษณ์ ก็เข้าใจได้ว่าเป็นเรื่องที่มีประเด็น ต้องช่วยกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีการประสานกรมฝนหลวง และการบินเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้มาทำฝนเทียม เพื่อแก้ไขปัญหาหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ช่วยทำตลอด ตอนนี้ยุทโธปกรณ์ เฮลิคอปเตอร์จากหลายหน่วยงานก็มาอยู่ที่นี่ เพื่อที่จะสูบน้ำไปดับไฟป่า ส่วนฝนหลวงก็บินขึ้นทำภารกิจทุกวัน
เมื่อถามว่าจากการประเมินสถานการณ์ขนาดนี้จะสามารถควบคุมฝุ่น PM 2.5 ได้ใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ควบคุมได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับความคาดหวัง ด้วยเหมือนกัน อย่างที่ตนเรียน ตนไม่ได้บอกว่าอากาศที่จ.เชียงใหม่ดี แต่เลวร้ายน้อยกว่าปีที่แล้ว เยอะในบางพื้นที่ และบางพื้นที่มีจุดฮอตสปอตน้อยกว่าปีที่แล้วในช่วงเวลาเดียวกัน 2 ใน 3 แต่ก็ยังสูงอยู่ดี ก็ต้องทำงานกันต่อไป
เมื่อถามว่านายพิธา ระบุอยากให้เพิ่มกำลังคนในการช่วยดับไฟป่า เนื่องจากพบว่าตัวอุปกรณ์และบุคคลมีไม่เพียงพอ นายกฯ กล่าวว่า มีการวางไว้ 1 หมื่นคน ความจริงแล้วก็ต้องบริหารจัดการบุคลากรให้ดี
นายเศรษฐา ได้ระบุเพิ่มเติมผ่านทวิตเตอร์ (X) ว่า จากกรณีที่มีคำถามมาถึงผมว่า ทำไมจึงไม่ประกาศให้ จ.เชียงใหม่ เป็นพื้นที่ฉุกเฉิน ในขณะที่ค่าฝุ่นสูง
ผมได้รับฟังความคิดเห็น และข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องแล้วครับ เกรงว่าหากประกาศจะส่งผลทางลบมากกว่า เพราะสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนั้นคือ จะกระทบกับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เพิ่งฟื้นตัวหลังจากผลกระทบโควิด-19 เพราะนักท่องเที่ยวที่ซื้อประกันมาจากบ้านเขา หากเข้ามาท่องเที่ยวในเขตภัยพิบัติ หรือพื้นที่ฉุกเฉิน ประกันจะไม่คุ้มครองทันที
แน่นอนครับว่า จ.เชียงใหม่ จะเสียนักท่องเที่ยวที่ตั้งใจมาเที่ยวทั้งระยะสั้น และระยะยาว เราเป็นห่วงกันตรงนี้ครับ ส่วนเรื่องงบกลางที่รัฐบาลจัดสรรไปที่กรมอุทยานฯ กระทรวงทรัพย์ฯ นั้น พร้อมเบิกจ่ายเมื่อวานนี้ (16 มีนาคม) ครับ
ผมขอย้ำว่า การจัดสรรงบกลางนี้ เป็นการจัดสรรงบตรงถึงมือพี่น้องอาสาสมัครที่อาสาเข้ามาดูแลเฝ้าระวังไฟป่า ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการจัดสรรงบฯในลักษณะนี้ เพราะเราต้องการจ้างคนในพื้นที่มาดูแลรักษาพื้นที่ของเขา ตามโจทย์ของพื้นที่ และงบฯที่ให้ไปมีจำนวนมากกว่างบฯ ฉุกเฉินด้วย วิธีบริหารจัดการเรื่องฝุ่นมีหลายวิธี รัฐบาลพร้อมรับฟังทุกข้อเสนอแนะ แต่รัฐบาลต้องตัดสินใจเลือกทางที่ดี และมีประสิทธิภาพที่สุดสำหรับพี่น้องประชาชนที่ต้องทำมาหากินด้วยครับ
ขอบคุณแหล่งที่มา : khaosod
ความคิดเห็น