พ่อแม่ทุกข์ใจสาหัส ยังไร้วี่แวว ลูกชายถูกฮามาสจับเป็นตัวประกัน เข้าวันที่ 4
พ่อแม่ทุกข์ใจสาหัส ยังไร้วี่แวว ลูกชายถูกฮามาสจับเป็นตัวประกัน เข้าวันที่ 4 กินไม่ได้นอนไม่หลับมาหลายวัน วอนรัฐบาลช่วยด้วย
วันที่ 10 ต.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าของครอบครัวเหยื่อสงครามระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ ซึ่งเป็นชาว อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ จำนวน 3 ราย ประกอบด้วย 1.นายสนธยา กองสุข ไปทำงานรับจ้างเก็บมะเขือเทศได้ 3 ปี ถูกสะเก็ดระเบิด 2.นายจิรายุ สุกใส ไปทำงานในฟาร์มไก่ได้ 4 เดือน ถูกกระสุนปืนที่ทะลุตู้คอนเทนเนอร์เข้าทางด้านหลัง ขณะนี้ได้รับการรักษาที่โรงพยาบาลในอิสราเอล จนอาการปลอดภัยแล้ว ทั้ง 2 ราย โดยทั้ง 2 ราย ได้ติดต่อกับครอบครัวให้ทราบว่า ประสงค์จะเดินทางกลับประเทศไทยและแจ้งให้นายจ้างทราบแล้ว
เมื่อวานนี้ (9 ต.ค.) นายรองรัตน์ จงอุตส่าห์ นายอำเภอท่าตูม พร้อมปลัดอำเภอ สาธารณสุขอำเภอ กำนันผู้ใหญ่บ้านฯ นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อสม.ได้ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจครอบครัวแรงงานที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 รายแล้ว จากการตรวจสอบข้อมูลแรงงานชาว อ.ท่าตูม ที่เดินทางไปทำงานที่ประเทศอิสราเอลเบื้องต้น มีจำนวน 98 ราย จากจำนวนชาว จ.สุรินทร์ ที่เดินทางไปทำงานที่อิสราเอลทั้งหมดจำนวน 418 คน
นายคมกริช ถูกฮามาสจับเป็นตัวประกัน ยังไม่รู้ชะตากรรม
ขณะที่แรงงานชาว อ.ท่าตูม รายที่ 3 ซึ่งยังไม่ทราบชะตากรรมเข้าวันที่ 4 คือ นายคมกริช ชมบัว อายุ 29 ปี ไปทำงานก่อสร้างและรับจ้างทั่วไป ก่อนถูกกลุ่มฮามาสจับเป็นตัวประกัน
โดยนายสุนันท์ ชมบัว อายุ 54 ปี และนางพรทิพย์ ชมบัว อายุ 54 ปี พ่อและแม่ พร้อมด้วย น.ส.อภัสสร จันทร์ทองแท้ อายุ 33 ปี พี่สาวของนายคมกริช ยังคงเฝ้ารอคอยข่าว ซึ่งยังไร้รี่แวว ท่ามกลางญาติพี่น้องและเพื่อนบ้าน รวมทั้งผู้นำชุมชนที่ต่างแวะเวียนมาคอยดูแลและให้กำลังใจ
นอกจากนี้ยังมี อสม. เจ้าหน้าที่จาก รพ.สต.โชกเหนือ และ รพ.ลำดวน ที่ผลัดเวรกันแวะเวียนมาวัดความดันและตรวจสุขภาพร่างกายพ่อและแม่ของนายคมกริชทุกวัน ซึ่งพบว่าความดันขึ้น เนื่องจากพักผ่อนไม่เพียงพอ และมีความเครียด อีกทั้งกินไม่ได้นอนไม่หลับมาหลายวัน
นายคมกริช ถูกฮามาสจับเป็นตัวประกัน
นายสุนันท์ กล่าวว่า เข้าวันที่ 4 แล้วที่พ่อแม่เฝ้าคอยรอฟังข่าวคราวของลูกชายอย่างไร้วี่แววและไม่ทราบชะตากรรม ได้แต่ภาวนาให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองและให้ดลใจให้กลุ่มฮามาสปล่อยตัวลูกชายและคนไทย ตนพาภรรยาเดินสายกราบไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามสถานที่ต่างๆ ที่ทราบว่ามีความศักดิ์สิทธิ์มาหมดแล้ว
พ่อแม่เศร้า ยังไม่รู้ชะตากรรมลูกชาย
นายสุนันท์ กล่าวต่อว่า อดเป็นห่วงลูกชายไม่ได้ แค่ได้ทราบข่าวว่าเขายังมีชีวิตและถูกปล่อยตัวก็เป็นรางวัลใหญ่ที่สูงสุดของพ่อแม่แล้ว ตอนนี้ทั้งพ่อแม่กินไม่ได้นอนไม่หลับมาหลายวัน งีบหลับได้นิดเดียวก็ตื่น เพราะเป็นห่วงลูกชาย
“ลูกชายติดต่อมาครั้งสุดท้ายก่อนวันที่จะถูกจับตัว 1 วัน เขาบอกพ่อแม่ว่า วันที่ 8 ต.ค.นี้ตังค์จะออกแล้ว หนูจะส่งตังค์ให้พ่อแม่ใช้ ปกติเขาจะโทรศัพท์กลับมาพูดคุยกับพ่อแม่ทุกวัน ขอวิงวอนถึงกลุ่มฮามาส กรุณาปล่อยตัวลูกชายและคนไทยรวมทั้งผู้บริสุทธิ์ด้วย และวอนรัฐบาลไทยให้ช่วยหาทางประสานงานเจรจากับกลุ่มฮามาสในปาเลสไตล์ด้วย” พ่อนายคมกริช กล่าวด้วยความเศร้า
ด้าน น.ส.อภัสสร พี่สาวของนายคมกริช กล่าวว่า ตนเป็นห่วงน้องชายมาก เพราะน้องชายเป็นเสาหลักของครอบครัว หวังว่าน้องจะปลอดภัยกลับมา ฝากถึงกลุ่มฮามาสให้ใจอ่อนปล่อยตัวน้องชายและคนไทยกลับมาบ้าน คนไทยไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ฝากรัฐบาลเจรจาให้สำเร็จ คนไทยจะได้กลับมาอย่างปลอดภัยทุกคน และเป็นห่วงพ่อแม่ด้วย ตนมาจากศรีสะเกษเพื่อมาให้กำลังใจพ่อแม่
พี่สาววอนปล่อยน้องชาย
ขณะที่นายอาณัติ มั่นสลาย ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านอำปึล กล่าวว่า หลายภาคส่วนก็เป็นห่วงนายคมกริช ต่างเฝ้ารอคอยข่าวสารกันอย่างใจจดใจจ่อ ทั้งหมอ และ อสม.ก็มาช่วยดูแล ความดันพ่อแม่ยังสูงอยู่ พักผ่อนไม่เพียงพอ มีอาการเครียด ได้แต่ปลอบใจให้กำลังใจ ฝากถึงรัฐบาลประสานกับปาเลสไตล์โดยเร็วด้วย จะได้รู้ข่าวสารว่าลูกหลานเป็นอย่างไรบ้าง ให้เขาปล่อยตัวมาเร็วๆ คนไทยไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง
ขอบคุณแหล่งที่มา : https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_7909990
ความคิดเห็น