ผู้เชี่ยวชาญอธิบายชัด 'ธี่หยด' ไม่ใช่ภาษามอญ ตามที่แชร์กัน

ผู้เชี่ยวชาญอธิบายชัด ‘ธี่หยด’ ไม่ใช่ภาษามอญ ตามที่แชร์กัน และไม่ทราบว่ามีความหมายว่าอะไร คาดเป็นการลากเข้าความ ให้คำนี้เป็น ภาษามอญ

25 ต.ค. 2566 – ถือเป็นตำนานกระทู้พันทิปสุดหลอน ที่ได้รับความนิยมสู่ นวนิยาย รายการผี และภาพยนตร์ สำหรับอีกหนึ่งที่สุดเรื่องเล่าผีไทย ที่ใครได้ฟังต่างขนพองสยองเกล้าอย่าง “ธี่หยด” โดยมี กิต-กิตติศักดิ์ กิตติวิรยานนท์ เป็นผู้เล่าเรื่อง

ธี่หยดดำเนินเรื่องราวเมื่อ พ.ศ. 2515 เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นใม จ.กาญจนบุรี ครอบครัวชาวไร่ชาวนาครอบครัวหนึ่งต้องประสบกับเรื่องเหนือธรรมชาติ เมื่อลูกสาวในบ้านนามว่า “แย้ม” ป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุ พร้อมกับเกิดเหตุการณ์แปลกประหลาดปนสยองขวัญ หนึ่งในนั้นคือ เสียงปริศนา ฟังคล้ายบทสวดมนต์ หรือคำพูดไม่เป็นภาษา ดังว่า “ธี่หยด…”

จนเมื่อวันที่ 22 ก.ค. ที่ผ่านมา THE GHOST RADIO รายการผีชื่อดัง ได้นำเรื่องธี่หยดมาเสนออีกครั้ง และผู้ที่มาบอกเล่าก็คือ คุณกิต เจ้าของเรื่องเล่าเอง

ทำให้ ธี่หยด กลับมาเป็นที่พูดถึงในวงกว้างอีกครั้ง และปล่อยตัวอย่างภาพยนตร์ ที่มีกำหนดเข้าฉายวันที่ 26 ต.ค. นี้

อย่างไรก็ดีมีการถกเถียงกันในวงกว้าง ว่า “ธี่หยด” แท้จริงแล้วมีความหมายว่าอะไร คำนี้จะใช่ภาษามอญ ตามที่มีการแชร์ข้อมูลกันในโลกออนไลน์จริงหรือไม่

กองบรรณาธิการศิลปวัฒนธรรม สอบถามไปยัง ดร.องค์ บรรจุน อาจารย์ประจำคณะวัฒนธรรมสิ่งแวดล้อมและการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมมอญ ว่า “ธี่หยดมาจากภาษามอญว่า เตี๊ยะหยด ที่แปลว่า โอม ใช่หรือไม่ ?

ดร.องค์ กล่าวว่า “ไม่เคยได้ยิน ที่มาของคำไม่ชัด เพราะคนแวดล้อมในเหตุการณ์ไม่รู้ แค่เล่าจากความทรงจำเมื่อ 50 ปีที่แล้ว จากนั้นคนที่ฟังรายการผีนี้แล้วช่วยตีความลากเข้าความให้ภายหลัง ซึ่งเสียงโอมแบบฮินดู มอญออกเสียงว่า อูม ถ้าจะให้ผมช่วยหาคำศัพท์มอญอะไรสักคำที่ใกล้ ‘ธี่หยด’ เท่าที่ผมมีคลังศัพท์ก็คือ ‘แตะ โหยด’ แปลว่า ยัก (เอว)”

เมื่อสอบถามอีกครั้งว่า ธี่หยดใช่ภาษามอญหรือไม่? ผู้เชี่ยวชาญประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมมอญ ตอบย้ำว่า “เท่าที่เกิดมา จากความรู้เท่าที่มี ตอบได้ว่าไม่ใช่ภาษามอญครับ”

ธี่หยด จึงไม่ใช่ภาษามอญตามที่มีการแชร์ข้อมูลในโลกออนไลน์ คงจะเป็นการลากเข้าความ ให้คำนี้เป็น “ภาษามอญ” เพราะจังหวัดกาญจนบุรีอยู่ติดกับประเทศเมียนมา

Source : เว็บไซต์ศิลปวัฒนธรรม

ขอบคุณแหล่งที่มา : khaosod