เผาหมูเถื่อน ของกลาง 10 ตู้ 2 รมต.เกษตร จัดพิธีนําร่องกันโรคระบาด
2 รมต.เกษตรฯ “ธรรมนัส” และ “ไชยา” ร่วมกับกรมปศุสัตว์ กรมศุลกากร และดีเอสไอ ทำลายซากหมูเถื่อน 161 ตู้ แบ่งเผาทำลาย 10 ตู้ เป็นการนำร่อง ส่วนที่เหลือเตรียม ฝังกลบที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์ จ.สระแก้ว “ธรรมนัส” เผยสะท้อนให้เห็นเจ้าหน้าที่ร่วมมือกันทำงานปราบหมูเถื่อน ส่งผลดีต่อผู้เลี้ยงสุกรทำให้มั่นใจ ในอาชีพ และลดความเสี่ยงด้านโรคระบาดสัตว์
กรมปศุสัตว์ร่วมหลายภาคส่วนทำลายซากหมูเถื่อน เปิดเผยเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 29 ก.ย. ที่ท่าเรือแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์ พร้อมผู้แทนศูนย์ปฏิบัติที่ 4 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ ร.อ.กานต์ เมนะรุจิ ผอ.ท่าเรือแหลมฉบัง นายอำนาจ เจริญศรี รอง ผวจ.ชลบุรี พ.ต.ต. ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมพิธีส่ง-รับ พร้อมนำตู้สินค้าซากหมูตกค้างและของกลาง 161 ตู้ ในคดีพิเศษ ที่ 59/2566 ไปเผาทำลายที่สำนักชลประทานที่ 9 จำนวน 10 ตู้ เป็นการนำร่อง ส่วนที่เหลือเตรียมนำไป ฝังกลบที่ จ.สระแก้ว
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า พิธีนี้ถือเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จ จากการร่วมมือกันระหว่างดีเอสไอ กรมศุลกากร และกรมปศุสัตว์ ที่มุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่ร่วมกันบังคับใช้กฎหมาย สืบสวน ตรวจสอบ จับกุมและสามารถดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดได้อย่างถึงที่สุด ส่งผลให้เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรได้รับความเป็นธรรม ไม่ถูกทำลายกลไกราคาสุกรในประเทศ ทั้งยังเป็นการลดความเสี่ยงด้านโรคระบาดสัตว์ ทำให้เกษตรกรมีความมั่นใจในอาชีพ ตลอดจนช่วยป้องกันอันตรายให้ประชาชน ผู้บริโภคปลอดภัยจากสารปนเปื้อนตกค้างต่างๆที่อาจติดมากับหมูเถื่อน
ด้านนายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า กรมศุลกากรตรวจยึดซากสัตว์แช่แข็งตกค้าง ตรวจพบเป็นสินค้าประเภทซากสุกรแช่แข็ง จำนวน 161 ตู้ มาจากประเทศที่ไม่ผ่านการตรวจรับรองแหล่งผลิตซากสัตว์จากกรมปศุสัตว์ หรือมาจากประเทศที่กรมปศุสัตว์มีประกาศชะลอการนำเข้าซากสุกร เนื่องจากประเทศต้นทางมีการระบาดของโรคระบาดสัตว์และบางส่วนไม่ทราบแหล่งที่มาที่ชัดเจน ประกอบกับไม่พบ เอกสารใดๆที่รับรองสุขศาสตร์ซากสัตว์ (Health Certificate) จากหน่วยงานที่รับผิดชอบ ไม่ผ่าน การตรวจจากสัตวแพทย์ประจำท้องที่ต้นทาง หรือพนักงานตรวจโรคสัตว์ ถือว่าซากสัตว์มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคระบาดหรือเป็นพาหะของโรคระบาดสัตว์อาจเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค และเกษตรกรผู้เลี้ยง สัตว์ภายในประเทศ อันจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ
อธิบดีกรมปศุสัตว์เปิดเผยอีกว่า กรมปศุสัตว์กำหนดจัดพิธีดังกล่าวเพื่อเป็นการ Kick off ตัดซีล และเผาทำลายซากสุกรของกลาง จำนวน 10 ตู้เป็นการนำร่อง โดยเครื่องกำจัดซากสัตว์ติดเชื้อมี 2 เตา สามารถเผาซากสัตว์ในปริมาณชั่วโมงละกว่า 1,000 กิโลกรัม ขึ้นอยู่กับชนิดและคุณภาพของซากสัตว์ที่ทำการเผา เตาสามารถทำความร้อนได้ในขณะ เผา 700-1,000 องศาเซลเซียส ใช้น้ำมันดีเซลเป็น แหล่งพลังงานและระบบเผาทำลายซากเป็นระบบปิด ดำเนินการที่สำนักชลประทานที่ 9 ต.บางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ส่วนที่เหลือจะนำไปทำลายในลักษณะฝังกลบ ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์ จ.สระแก้ว
ด้าน ร.อ.กานต์ เมนะรุจิ ผอ.ท่าเรือแหลมฉบัง กล่าวว่า สินค้าที่ท่าเรือแหลมฉบังมีจำนวนหลายพันตู้ เจ้าหน้าที่ตรวจพบว่ามีสินค้าซากสุกรในครั้งนี้ มีบางส่วน ละเมิด พ.ร.บ.ต่างๆถือเป็นนิมิตใหม่ เพราะมีผลต่อ ธุรกิจการเลี้ยงสัตว์ในประเทศ เพราะส่งผลต่อเรื่องของ ราคาสินค้าเป็นผลกระทบต่อเกษตรกรโดยตรง
ขอบคุณแหล่งที่มา : https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/2729186
ความคิดเห็น