“แถวนี้หมูเถื่อน บอกตรงๆ นะ… ไม่แน่จริงอยู่ไม่ได้”

Summary

• พันตำรวจตรีสุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่กำลังทำคดีหมูเถื่อน ถูกย้ายไปเป็นรองปลัดกระทรวงยุติธรรมแทน หลังนำหมายค้นเข้าตรวจค้นพยานหลักฐาน เพื่อขอเอกสารการซื้อเนื้อหมูและเครื่องในหมูของแม็คโคร และพบว่ามีการนำเข้าตับหมู แต่ยังบอกไม่ได้ว่ามีความผิดหรือไม่
• สิ่งที่ดีเอสไอพบในเบื้องต้นคือ มีข้าราชการประจำ นักการเมืองระดับสูง และเอกชนหลายราย เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเข้าหมูเถื่อน จึงส่งสำนวนไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แล้ว
• ในการสืบสวนขบวนการนำเข้าหมูเถื่อน กรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งเป็นหน่วยงานปลายน้ำของการตรวจสอบ ถูกไล่บี้อยู่หน่วยงานเดียว ขณะที่กรมศุลกากร กรมประมง และกรมปศุสัตว์ ยังไม่ถูกตรวจสอบเท่าที่ควร ทั้งที่กรณีหมูเถื่อนเกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2564
• เหตุผลในการโยกย้ายยังไม่มีความชัดเจน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ต้นสังกัดของดีเอสไอ และโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้เหตุผลไว้ไม่ตรงกัน

เรือล่มเมื่อจอด ตาบอดเมื่อแก่ คือคำเปรียบเปรยที่สะท้อนกรณีเด้งฟ้าผ่าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ตรงที่สุด การโยกย้ายดังกล่าวเกิดขึ้นหลังการสืบสวนคดีหมูเถื่อนใกล้สาวถึงตัวนายทุนใหญ่ หลายคนจึงกังขาว่า ทำไมต้องเปลี่ยนม้ากลางศึกแบบนี้

เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำสั่งโยกย้ายข้าราชการตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ โดยให้ พันตำรวจโทประวุธ วงศ์สีนิล รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ไปเป็นอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน และให้ พันตำรวจตรีสุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่กำลังทำคดีหมูเถื่อน ไปเป็นรองปลัดกระทรวงยุติธรรมแทน

ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวว่า ยังไม่มีคำสั่งแต่งตั้งบุคคลมาดำรงตำแหน่งอธิบดีดีเอสไอ และยังไม่ได้แต่งตั้งใครรักษาการแทน 

วันต่อมา 29 พฤศจิกายน โฆษกรัฐบาล กล่าวในรายการ ‘กรรมกรข่าว คุยนอกจอ’ ว่า ผู้กระทำผิดเกี่ยวกับการค้าหมูเถื่อนแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม 

• กลุ่มแรกคือ นอมินีที่นำเข้า 
• กลุ่มที่สองคือ นายทุนการนำเข้า ซึ่งถือเป็นผู้บงการใหญ่ 
• กลุ่มที่สามคือ ห้องเย็นที่รับซื้อหมู 

ในทางสืบสวนต้องนำคนกลุ่มสองมาดำเนินคดีให้ได้ ขณะนี้เริ่มได้ตัวคนในกลุ่มสองแล้ว แต่ยังไม่ได้ตัวการใหญ่ ซึ่งในทางนโยบายต้องการได้ตัวการใหญ่ 

“เหตุที่โยกย้ายคือต้องการเห็นผลลัพธ์เป็นรูปธรรมรวดเร็วกว่าเดิม” ชัยกล่าว

เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ผู้ที่เคยตำหนิพันตำรวจตรีสุริยากลางสนามบินสุวรรณภูมิ ให้ผู้สื่อข่าวได้เห็นและบันทึกภาพเอาไว้ เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2566 เนื่องจากไม่พอใจที่คดีหมูเถื่อนล่าช้า ทั้งที่สั่งการไปนานแล้ว กล่าวถึงการย้ายพันตำรวจตรีสุริยาเพียงสั้นๆ ว่า รัฐมนตรีเป็นผู้เสนอมา โดยไม่ตอบว่าเกี่ยวข้องกับคดีหมูเถื่อนหรือไม่

พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เผยว่า เหตุที่ต้องเสนอโยกย้ายครั้งนี้ เนื่องจากตำแหน่งรองปลัดกระทรวงยุติธรรมมีความสำคัญ พันตำรวจตรีสุริยามีประสบการณ์ มีความรู้ ความสามารถเหมาะสมกับตำแหน่งรองปลัดกระทรวงที่ว่างอยู่

“ไม่เกี่ยวข้องกับคดีที่เป็นที่สนใจของสังคม ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษกำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ คือคดีหมูเถื่อน คดีดังกล่าวจะดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมาจนถึงที่สุด” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมกล่าว

อีกฟาก เพจเฟซบุ๊กกรมสอบสวนคดีพิเศษเผยแพร่ภาพ พันตำรวจตรีสุริยา สิงหกมล พร้อมข้อความ “วิถีราชการ ทำใจอยู่ตลอดเวลา นับแต่มานั่งเป็นผู้บริหารสูงสุดที่นี่แล้วว่า ต้องถึงวันนี้ แต่ตนเลือกทางเดินและวิถีตนเองตั้งแต่ต้น ไม่เสียใจ เพราะทำเต็มที่แล้ว เป็นเกียรติที่ได้ร่วมงานกับทุกท่าน”

ภาพ: เพจเฟซบุ๊ก DSI กรมสอบสวนคดีพิเศษ

ดีเอสไอถูกบี้หนัก แต่ศุลกากรต้นเหตุยังไม่ถูกสอบสวน

เป็นที่น่าสังเกตว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงยุติธรรม ซึ่งเป็นหน่วยงานปลายน้ำของการตรวจสอบกรณีหมูเถื่อน ถูก เศรษฐา ทวีสิน ไล่บี้อยู่หน่วยงานเดียว ขณะที่กรมศุลกากร กระทรวงการคลัง ที่เศรษฐาเป็นเจ้ากระทรวง กรมประมง ที่ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ บังคับบัญชา และกรมปศุสัตว์ ที่ ไชยา พรมมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รับผิดชอบ ยังไม่ถูกตรวจสอบเท่าที่ควร และยังไม่ปรากฏข่าวว่ามีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้าราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อสืบหาข้อเท็จจริงกรณีหมูเถื่อนที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2564 แต่ทุกเรื่องในเวลานี้โยนให้ดีเอสไอรับไปหน่วยงานเดียว

ขั้นตอนการนำเข้าหมูเถื่อนต้องนำเข้าด้วยตู้คอนเทนเนอร์ห้องเย็นเท่านั้น ไม่สามารถใช้ตู้ธรรมดาได้ ที่ผ่านมาชิปปิ้งผู้นำเข้าสำแดงว่าสินค้าในตู้คือหัวปลาแซลมอน ซึ่งช่วงปีสองปีที่ผ่านมาตั้งแต่เนื้อหมูขาดตลาดและมีราคาแพงเพราะเกิดโรคระบาด มีการนำเข้าหัวปลาแซลมอนเพิ่มขึ้นผิดปกติหลายเท่าตัว จำนวนถึง 60,000 ตัน แต่เจ้าหน้าที่ศุลกากรต้นทางนำเข้าหมูเถื่อนก็ปล่อยให้สินค้าผ่านเข้ามาในประเทศจำนวนมหาศาล ตามข่าวคือ 10,000 ตู้คอนเทนเนอร์ หรือน้ำหนัก 280,000 ตัน

เจ้าหน้าที่กรมประมงได้เข้าไปรับรองว่าเป็นหัวปลาแซลมอนของจริง และเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ก็ไม่ได้เฉลียวใจและตรวจเช็กว่าหัวปลาแซลมอนที่สำแดงถูกต้องหรือไม่ เพราะอาจจะเป็นเนื้อหมูและเครื่องในหมูก็ได้ และได้ปล่อยตู้คอนเทนเนอร์ผ่านด่านไปเฉยๆ

ความเชื่อมโยงระหว่าง กรมศุลกากร กรมประมง และกรมปศุสัตว์ พบพิรุธเป็นอย่างยิ่ง แต่ดูเหมือนว่าหน่วยงานเหล่านี้ไม่ได้รับผลกระทบอะไร มีเพียงแต่ดีเอสไอที่ถูกลงแซ่จากรัฐบาล การบริหารงานเช่นนี้มีความเหมาะสมแล้วหรือไม่

รัฐบาลชี้แจงสาเหตุเด้งอธิบดีดีเอสไอคนละทิศละทาง

มีข้อสังเกตว่า การให้ข่าวสาเหตุของการโยกย้ายอธิบดีดีเอสไอระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมกับโฆษกรัฐบาล ไม่สอดคล้องกัน

พันตำรวจเอกทวีระบุว่า เป็นเพราะตำแหน่งรองปลัดกระทรวงยุติธรรมมีความสำคัญ จึงต้องย้ายพันตำรวจตรีสุริยาไปดำรงตำแหน่ง ไม่เกี่ยวกับคดีหมูเถื่อน ขณะที่ชัยเปิดเผยว่า ดีเอสไอทำงานล่าช้า เพราะยังจับตัวการใหญ่คดีหมูเถื่อนไม่ได้

การที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมชี้แจงว่า เก้าอี้รองปลัดกระทรวงมีความสำคัญ ไม่มีใครปฏิเสธ แต่มีคำถามว่า แล้วตำแหน่งผู้นำองค์กรปราบปรามทุจริตไม่มีความสำคัญหรอกหรือ ทำไมถึงปล่อยให้ดีเอสไอเป็นหน่วยงานไร้หัว ขณะที่สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรมยังมีปลัดและรองปลัดอีกสามคนช่วยกันทำงานอยู่แล้ว อีกข้อคือเพราะเหตุใดเมื่อย้ายอธิบดีดีเอสไอออกไปแล้ว จึงไม่แต่งตั้งบุคคลอื่นเข้ามาทำงานแทนเพื่อให้การทำงานราบรื่น ไร้รอยต่อ โดยเฉพาะคดีสำคัญ อาทิ คดีหมูเถื่อน และคดีโกงหุ้น

เป็นที่ทราบกันว่า โดยทั่วไปบุคคลที่ขึ้นมาทำหน้าที่รักษาราชการแทนหัวหน้าหน่วยงาน ย่อมไม่สามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับการมีผู้นำองค์กรตัวจริง เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ทำไมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมจึงฝืนเสนอให้คณะรัฐมนตรีย้ายพันตำรวจตรีสุริยาอีก ทั้งที่การสาวถึงต้นตอคดีหมูเถื่อนงวดเข้ามาเรื่อยๆ

มีรายงานว่า นอกจากคดีหมูเถื่อนแล้ว กรมสอบสวนคดีพิเศษถูกวิจารณ์ว่าทำคดีโกงหุ้น บริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) และบริษัท สตาร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ล่าช้า ไม่คืบหน้าเท่าที่ควรอีก การไม่มีอธิบดีเช่นนี้จะทำให้คดีคืบหน้าได้อย่างไร

เศรษฐาขีดเส้นตายหนึ่งสัปดาห์เอาผิดตัวใหญ่ พร้อมกดดันรัฐมนตรียุติธรรม

เพื่อสืบค้นสาเหตุการย้ายอธิบดีดีเอสไอโดยไม่แต่งตั้งคนใหม่เข้ามาแทน จึงควรไล่เรียงลำดับเหตุการณ์ในรอบสัปดาห์ก่อนมีมติคณะรัฐมนตรี เพื่อให้เห็นเค้าลางที่ปรากฏ

วันที่ 12 พฤศจิกายน ก่อนไปประชุม APEC 2023 เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เรียกพันตำรวจตรีสุริยาไปตำหนิอย่างรุนแรงที่สนามบินสุวรรณภูมิ

วันที่ 20 พฤศจิกายน เศรษฐากล่าวถึงคดีหมูเถื่อนว่า ก่อนที่จะเดินทางเข้าร่วมประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจ APEC ครั้งที่ 30 ที่ซานฟรานซิสโก สหรัฐฯ ก็มีความเป็นห่วง ไม่อยากให้เกิดความล่าช้า อาทิ เรื่องการอายัดทรัพย์ เพราะหากมีการโยกย้ายถ่ายเทเงิน ก็จะไปทำผิดได้อีก เพราะฉะนั้นต้องมีความรวดเร็วในการบริหารจัดการปัญหาที่มีอยู่ไม่ให้คาราคาซัง

ส่วนจะให้ระยะเวลาเจ้าหน้าที่เท่าไร นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ก็ต้องเร็วที่สุด อาทิตย์นี้ก็ต้องมีอะไรขึ้นมาบ้าง เพราะถ้าหากนับอาทิตย์นี้ก็ 10 วันแล้ว และเหนือสิ่งอื่นใด คิดว่าจะต้องสาวถึงต้นตอให้ได้ ตัวเล็กๆ เอาไว้ทีหลัง ตัวใหญ่เอามาก่อนดีกว่า จะได้จบสักที 

วันต่อมา อังคารที่ 21 พฤศจิกายน หลังประชุมคณะรัฐมนตรี เศรษฐากล่าวว่า ได้สั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ให้ พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม จากพรรคประชาชาติ กำกับดูแลกรมสอบสวนคดีพิเศษ ไปเร่งดำเนินคดีหมูเถื่อน รวมไปถึงคดีหุ้น บริษัท มอร์ รีเทิร์น และบริษัทสตาร์ค โดยต้องสาวไปให้ถึงรายใหญ่ให้ได้

อย่างไรก็ตาม การขีดเส้นตายของเศรษฐาน่าจะเป็นสาเหตุให้กระทรวงยุติธรรมเสนอโยกย้ายอธิบดีดีเอสไอในการประชุมคณะรัฐมนตรี ในวันอังคารถัดมา

ดีเอสไอตรวจสอบห้องเย็น พบเบาะแสผู้ต้องหาทำเอกสารเท็จ

ความคืบหน้าการสืบสวนคดีหมูเถื่อนช่วงเช้าวันที่ 21 พฤศจิกายน พันตำรวจตรีสุริยา สิงหกมล อธิบดีดีเอสไอ ได้นำกำลังเข้าตรวจสอบ บริษัท รักชัยห้องเย็น จำกัด จังหวัดสมุทรสาคร ภายหลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้เข้าจับกุมเจ้าของบริษัทผู้ค้าเนื้อสัตว์แช่แข็งรายใหญ่ แล้วผู้ต้องหาให้การว่า ได้นำเนื้อสัตว์มาฝากไว้ที่ห้องเย็นแห่งนี้ 

จากการตรวจสอบ ยืนยันได้ว่า ห้องเย็นรักชัยไม่ได้รับฝากสินค้าแช่แข็งตามที่ผู้ต้องหากล่าวอ้าง 

พันตำรวจตรีสุริยาเปิดเผยว่า เอกสารที่บริษัทชิปปิ้งของผู้ต้องหาได้แสดงต่อกรมประมงว่านำสินค้าจำนวน 282 ตู้ มาฝากไว้ที่ห้องเย็นรักชัยนั้น เป็นเอกสารเท็จ และมีการแอบอ้างชื่อบริษัทแห่งนี้ เพื่อนำเอกสารเท็จไปสำแดงต่อกรมประมง จากการตรวจค้นในวันนั้น ทำให้ได้ข้อมูลเพิ่มมากขึ้นว่า ห้างหุ้นส่วนจำกัด กันตาไทย โฟรเซ่นฟิช และบริษัท มายเฮ้าส์ เทรดดิ้ง จำกัด ที่ถูกจับกุมไปแล้ว มีแผนประทุษกรรมในการนำเข้าและหลีกเลี่ยงภาษีอย่างไร

อธิบดีดีเอสไอกล่าวอีกว่า พนักงานสอบสวนของดีเอสไอจะเร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวนต่อไปว่าสินค้าของกลางจำนวน 282 ตู้ ที่นำเข้าหมูเถื่อนโดยสำแดงเป็นหัวปลาแซลมอนถูกนำส่งไปที่ไหน แต่รายละเอียดจะยังไม่ขอเปิดเผยในที่นี้

เป็นที่สังเกตว่า ดีเอสไอกำลังทำงานอยู่ และแม้การตรวจสอบห้องเย็นรักชัยตามเอกสารจะไม่พบของกลาง แต่ก็พบข้อมูลว่าเอกสารเป็นเท็จ และมีร่องรอยให้สืบหาต่อไปว่าสินค้าของกลางถูกนำไปไว้ที่ไหน

คดีหมูเถื่อนเชื่อมโยงข้าราชการ และนักการเมือง ดีเอสไอส่งสำนวน ป.ป.ช. แล้ว 

อีก 3 วันถัดมา เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แถลงความคืบหน้าการปราบปรามสินค้าเกษตรเถื่อน โดยระบุว่า มีการออกหมายจับและหมายค้นกลุ่มผู้กระทำความผิดไปแล้ว รวมถึงมีผู้ต้องหาเข้ามอบตัวได้ซัดทอดไปถึงกลุ่มนักการเมืองใหญ่ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ และปฏิเสธที่จะเปิดเผยชื่อย่อรัฐมนตรี

“ขณะนี้ได้มีคำสั่งตั้งคณะทำงานชุดพิเศษเข้ามาดูแลโดยตรง ได้ทำการยึดทรัพย์แล้ว 53 ล้านบาท 8 คน 6 บริษัท” ร้อยเอกธรรมนัสกล่าว

พันตำรวจตรีสุริยา สิงหกมล กล่าวว่า ตามที่กรมศุลกากรส่งของกลางหมูเถื่อน 161 ตู้ ให้เป็นคดีพิเศษ โดยพบมีพยานหลักฐานที่น่าเชื่อว่ามีกลุ่มขบวนการ ส่งผลกระทบด้านความมั่นคงทางอาหารและกระทบต่ออาชีพเกษตรกร มีกลุ่มนายทุน กลุ่มข้าราชการประจำ และกลุ่มข้าราชการฝ่ายการเมือง เจ้าหน้าที่รัฐ เข้ามาเกี่ยวข้อง จึงส่งสำนวนไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แล้ว

อธิบดีดีเอสไอกล่าวว่า พบการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรหมูและเนื้อเถื่อนตั้งแต่ปี 2564-2566 มีจำนวน 2,385 ตู้ พบเป็นขบวนการ โดยกลุ่มที่ 2 มีผู้ต้องหา 1 ราย เข้ามอบตัวแล้วเมื่อเช้าวันนี้ ยืนยันเร่งดำเนินการสืบสวนเพื่อเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด สัปดาห์หน้าจะเห็นความคืบหน้าของตัวละครต่างๆ

อธิบดีดีเอสไอกล่าวด้วยว่า เบื้องต้นพบข้าราชการและนักการเมืองมีจำนวนพอสมควร แบ่งเป็นข้าราชการประจำหลัก 10 คน ส่วนนักการเมืองระดับสูงไม่ถึง 10 คน รวมถึงเอกชนรายอื่นๆ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

นับว่าการทำคดีหมูเถื่อนของดีเอสไอมีความคืบหน้า แม้ว่าจะจับกุมต้นตอยังไม่ได้เร็วทันใจตามคำบัญชาของนายกรัฐมนตรี

สุริยาตรวจค้นห้างแม็คโครคือภารกิจสุดท้ายในตำแหน่งอธิบดีดีเอสไอ

เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน ที่สำนักงานใหญ่แม็คโคร ถนนพัฒนาการ พันตำรวจตรีสุริยา สิงหกมล อธิบดีดีเอสไอ นำหมายค้นเข้าตรวจค้นพยานหลักฐาน เพื่อขอเอกสารการซื้อเนื้อหมูและเครื่องในหมูของแม็คโคร หลังตรวจพบมีเอกสารเกี่ยวข้องกับกลุ่มนายทุน บริษัท เว้ลท์ซี่ แอนด์ เฮ็ลธ์ซี ฟูดส์ จำกัด และบริษัท เดอะ กู๊ด ช็อป จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทถูกตั้งข้อหานำเข้าเนื้อหมูเถื่อน โดยมี ศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามแม็คโคร ต้อนรับ 

ผู้บริหารแม็คโครชี้แจงว่า มีการซื้อตับหมูนำเข้าจากบริษัท เว้ลท์ซี่ฯ จริง เพราะบางช่วงความต้องการของผู้บริโภคสูง จึงต้องนำเข้าจากผู้ขายที่มีเอกสารถูกต้องจากกรมปศุสัตว์

“เรื่องการสั่งซื้อเครื่องในหมู รับซื้อจากผู้ค้าที่ปรากฏเป็นข่าวจริง ผู้ค้าเหล่านี้ ตอนนำเข้ามาเป็นการรับซื้อถูกต้องตามกฎหมาย เพราะตรวจสอบทุกลอต มีเอกสารครบถ้วน เป็นเอกสารจากกรมปศุสัตว์ ทั้งเอกสารใบเคลื่อนย้ายและเอกสารใบนำเข้าทั้งหมด” 

ศิริพร กล่าว และบอกว่า จะเตรียมเอกสารนำเข้าทั้งหมดส่งให้ดีเอสไอ โดยยอมรับว่า บริษัทดังกล่าวที่ปรากฏเป็นข่าวเป็นคู่ค้ากับแม็คโครมาหลายปี 

ศิริพรกล่าวอีกว่า ได้ยกเลิกการสั่งซื้อจากบริษัท เว้ลท์ซี่ แอนด์ เฮ็ลธ์ซี ฟูดส์ จำกัด ช่วงกลางปีที่แล้ว เพราะพบว่าเครื่องในหมูบางส่วนไม่ได้มาตรฐาน จึงปฏิเสธการรับซื้อ และใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด คือหยุดการรับซื้อทันที

“เราหยุดซื้อเนื้อหมูแช่แข็งจากบริษัทดังกล่าวเมื่อกลางปี 2565 ส่วนเครื่องในหมูแช่แข็งหยุดซื้อช่วงต้นปี 2566 เพราะระบบคุณภาพ” 

มีข้อสังเกตว่า การที่แม็คโครระบุว่า ได้หยุดซื้อเนื้อหมูแช่แข็งจากบริษัท เวลท์ซี่ฯ เมื่อกลางปี 2565 และหยุดซื้อเครื่องในหมูแช่แข็งช่วงต้นปี 2566 แม็คโครต้องตอบคำถามให้ได้ว่า ทำไมต้องสั่งซื้อเนื้อหมูและตับหมูจากบริษัท เวลท์ซี่ฯ ทั้งที่เครือซีพีเป็นผู้เลี้ยงหมูรายใหญ่ และมีเกษตรกรเลี้ยงหมูให้ซีพีในระบบเกษตรพันธสัญญาอยู่จำนวนไม่น้อย ทำไมแม็คโครถึงไม่สั่งหมูในเครือของตัวเองมาจำหน่าย

เป็นที่ทราบว่าประเทศไทยมีเงื่อนไขมากมายกีดกันการนำเข้าหมูตามกฎหมาย แล้วทำไมแม็คโครจึงเชื่อว่าบริษัท เวลท์ซี่ฯ นำเข้าหมูอย่างถูกต้อง 

• สะกดรอยหมูเถื่อน ยังจับได้แค่ตัวการรายย่อย แต่พบปลายทางบนแผงในห้างใหญ่
• ปัญหาปราบหมูเถื่อน ถ้าอยากให้หมูเลิกเถื่อนแบบยาวๆ ต้องสาวให้ถึงต้นตอรายใหญ่
•  

ดีเอสไอยังไม่ฟันธง การซื้อหมูของแม็คโครผิดพลาดหรือถูกต้อง

อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า จากที่ดำเนินคดีบริษัท เว้ลท์ซี่ฯ จับกุมผู้ต้องหา 2 คน พบหลักฐานการจำหน่ายสินค้าให้บริษัทที่เกี่ยวข้อง มีความจำเป็นต้องพิสูจน์ให้ได้ว่า รายการสินค้าต่างๆ ของผู้ต้องหานำส่งไปที่ไหนบ้าง หลักฐานตรงที่พบระบุว่า มีการส่งสินค้าตับหมูมายังแม็คโคร เป็นที่มาให้ขอหมายศาลมาขอเอกสารจากแม็คโคร 

อธิบดีดีเอสไอกล่าวต่อว่า เบื้องต้นยังไม่ชี้ชัดว่าการรับซื้อของแม็คโครกับบริษัทผู้ต้องหานั้นมีความผิดพลาดหรือถูกต้องอย่างไร แต่จากการสอบเอกสารที่ได้จากทางแม็คโครล่าสุด เป็นเอกสารการซื้อขายที่กระทำอย่างเปิดเผย มีการซื้อขายกันมาต่อเนื่อง 

“วันนี้แม็คโครให้ความร่วมมือดี เก็บเอกสารอย่างดี การยื่นเอกสารเพิ่มเติมของแม็คโครในโอกาสต่อไปไม่ได้ขีดเส้น แต่จะอยู่ภายใน 1 เดือน หรือบางส่วนอาจเกิน 1 เดือนได้”

พันตำรวจตรีสุริยาเปิดเผยอีกว่า หลังตรวจสอบเอกสารการซื้อขายที่ผ่านมาก่อนหยุดการสั่งซื้อ พบมูลค่าที่แม็คโครเป็นคู่ค้ากับบริษัทสองพ่อลูก วิรัช ภูริฉัตร กรรมการผู้มีอำนาจลงนามบริษัท เว้ลท์ซี่ แอนด์ เฮ็ลธ์ซี ฟูดส์ จำกัด และบริษัท เดอะ กู๊ด ช็อป จำกัด และ ธนกฤต ภูริฉัตร บุตรชาย เพื่อสั่งเนื้อหมูแช่แข็งและตับหมูแช่แข็งรวม 390 ล้านบาท 

หลังเข้าตรวจค้นห้างแม็คโคร เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน วันต่อมาคือ 28 พฤศจิกายน คณะรัฐมนตรีได้ตอบแทน พันตำรวจตรีสุริยา สิงหกลม อธิบดีดีเอสไอ ด้วยการเห็นชอบคำสั่งย้ายไปเป็นรองปลัดกระทรวงยุติธรรม

ก่อนหน้านี้ พันตำรวจตรีสุริยาเคยระบุว่า ผู้รับซื้อหมูเถื่อนมีโทษเท่ากับผู้นำเข้า ไม่มีคำยืนยันว่าเป็นเพราะประเด็นนี้หรือไม่ ทำให้พันตำรวจตรีสุริยาถูกสั่งย้าย

ราคาหุ้นแม็คโคร และซีพีออลล์ ลดลงรวมมูลค่า 50,000 ล้านบาท

บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) เจ้าของแม็คโคร มีผู้ถือหุ้นใหญ่รายใหญ่ คือ เครือซีพี ถึงร้อยละ 60 ข้อมูลผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 22 สิงหาคม 2566 มีดังนี้ 

• บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) 3,693,728,100 หุ้น สัดส่วน ร้อยละ 34.91
• บริษัท สยามแม็คโคร โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด 2,646,302,800 หุ้น สัดส่วน ร้อยละ 25.01
• บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด 1,688,132,145 หุ้น สัดส่วน ร้อยละ 15.96
• บริษัท ซี.พี.เมอร์แชนไดซิ่ง จำกัด 936,066,072 หุ้น สัดส่วน ร้อยละ 8.85

การเข้าตรวจค้นห้องแม็คโครของดีเอสไอ ทำให้ราคาหุ้นของบริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) (CPAXT) เจ้าของแม็คโคร เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน ปรับลดลงร้อยละ 6.42 ลดลงต่อเนื่องจากวันที่ 28 พฤศจิกายน รวม 2 วัน คิดเป็นมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด ลดลง 26,451 ล้านบาท

ราคาหุ้นบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) (CPALL) ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ CPAXT ร่วงตามไปด้วย มูลค่าหายไป 26,949 ล้านบาท

รวมแล้วหุ้น CPAXT และ CPALL มูลค่าหายไป 53,400 ล้านบาท ในช่วง 2 วันที่ร่วง คือ 28-29 พฤศจิกายน

ผลงานดีเอสไอสอบสวนจนพบแม็คโครซื้อหมูจากบริษัทนำเข้าหมูเถื่อน

เมื่อพิจารณาการทำงานของดีเอสไอในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา พบว่ามีความคืบหน้าตามลำดับ เนื่องจากสามารถสืบสวนขยายผลจากการจับกุมหมูเถื่อน 161 ตู้คอนเทนเนอร์ ที่นำเข้าโดยบริษัท เวลท์ซี่ฯ และบริษัทอื่นได้ โดยได้พบความเชื่อมโยงกับห้องเย็นที่จังหวัดสมุทรสาคร ที่ตรวจสอบแล้วไม่พบการทำผิด และห้างแม็คโครที่อยู่ระหว่างให้แม็คโครรวบรวมเอกสารการสั่งซื้อเนื้อหมูและตับหมูส่งให้ดีเอสไอตรวจสอบ 

กล่าวโดยสรุปคดีหมูเถื่อน 161 ตู้คอนเทนเนอร์ เจ้าหน้าที่ดีเอสไอใช้เวลาปฏิบัติการ 5 เดือน จับกุมผู้ต้องหาในกลุ่มชิปปิ้งแล้ว 10 คน และกลุ่มนายทุน 2 คน ซึ่งได้นำสำนวนส่งฟ้องคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติแล้ว ซึ่งการขยายผลสอบเพิ่มเติม พบผู้เกี่ยวข้องอีก 10 คน ในจำนวนนี้มีเจ้าหน้าที่รัฐด้วย

หลัง พันตำรวจตรีสุริยา สิงหกมล ถูกย้ายได้เพียงวันเดียว เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน พันตำรวจตรียุทธนา แพรดำ รองดีเอสไอ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ร่วมประชุมกับคณะพนักงานสอบสวนคดีหมูเถื่อน นำโดย พันตำรวจตรีณฐพล ดิษยธรรม หัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีหมูเถื่อน

พันตำรวจตรีณฐพลเผยว่า จะเข้าตรวจค้นบริษัท เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด หรือโลตัส ในวันที่ 1 ธันวาคม 2566 จะดำเนินการต่อไปสัปดาห์หน้า ไม่ได้ถูกเบรกหรือเป็นสุญญากาศ จะทำตามแผนที่วางไว้ ส่วนการส่งเอกสารของแม็คโครเราให้เวลา 1 เดือน เพราะต้องเตรียมเอกสารที่กระจายอยู่หลายที่

ศักดินัย นุ่มหนู สส.ตราด พรรคก้าวไกล ประธานคณะกรรมาธิการ การเกษตรและสหกรณ์ สภาผู้แทนราษฎร ระบุว่า อยากเชิญกรมสอบสวนคดีพิเศษมาให้ข้อมูลเพื่อทำความจริงให้ปรากฏ 

ส่วนการย้าย พันตำรวจตรีสุริยา สิงหกมล ศักดินัยสงสัยถึงเหตุผลของเรื่องนี้ เพราะคราวที่แล้วเศรษฐาแสดงอาการไม่ค่อยพอใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ และหลังจากที่ดีเอสไอได้เข้าไปตรวจสอบที่ห้างค้าปลีกแห่งหนึ่ง วันต่อมาก็ได้มีการโยกย้ายอธิบดี จึงชวนให้สงสัยได้ว่าเป็นเพราะอะไร 

เศรษฐาโยนรัฐมนตรียุติธรรมรับผิดชอบเด้งสุริยา

เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา เศรษฐา ทวีสิน กล่าวถึงกรณีมีการตั้งคำถามถึงการย้ายอธิบดีดีเอสไอว่าผลงานไม่เข้าเป้า หรือทำงานดีเกินไปจนไปเจอตอใหญ่ ว่า เรื่องการย้ายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมคงไปเอาเนื้อคนไม่ถึงเนื้องานมากกว่า ซึ่งได้มีการแถลงไปแล้ว

“เรื่องไปเจอตอแล้วสั่งย้าย อย่าไปคิดอย่างนั้น ไม่มีแน่นอน ผมไม่ยอมให้เรื่องนี้เกิดขึ้นในรัฐบาลนี้แน่นอน” นายกรัฐมนตรีกล่าว

เท่ากับว่านายกรัฐมนตรีไม่รับผิดชอบ และต้องการให้การย้ายอธิบดีดีเอสไออยู่ในความรับผิดชอบของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมแต่เพียงผู้เดียว

มีข้อสงสัยว่า เศรษฐารู้หรือไม่ว่าผู้บงการคดีหมูเถื่อนคือใคร จึงแสดงความไม่พอใจ และสุดท้ายกลายเป็นคำสั่งย้ายพันตำรวจตรีสุริยา เศรษฐาคิดว่าสามารถสืบสวนคดีหมูเถื่อนได้รวดเร็วกว่านี้หรือ แล้วเคยให้คำแนะนำต่อเจ้าหน้าที่ดีเอสไอหรือไม่ว่าควรทำงานอย่างไร หรือใช้ช่องทางไหน เพราะเท่าที่เห็นเป็นข่าวมีแต่การตามงานและการตำหนิอธิบดีดีเอสไอ

ที่สำคัญคือ เศรษฐาเคยรับฟังการชี้แจงของอธิบดีดีเอสไอที่ถูกเด้งหรือไม่ ว่าขั้นตอนการทำงานเป็นอย่างไร หรือติดขัดตรงไหน และเคยช่วยแก้ไขปัญหาให้หรือเปล่า 

เมื่อคดีหมูเถื่อนเกี่ยวข้องกับเอกชนรายใหญ่ มีข้าราชการและนักการเมือง เข้ามาพัวพันด้วย กลับกลายเป็นว่าอธิบดีดีเอสไอถูกย้ายเสียเอง เศรษฐาจะตอบคำถามสังคมอย่างไร

จากนี้คดีหมูเถื่อนวัดกันที่ผลงานการจับกุมรายใหญ่

ถ้าการย้ายอธิบดีดีเอสไอเกิดจากการปราบปรามคดีหมูเถื่อนโดยนำต้นตอมาดำเนินคดีล่าช้า หลังจากนี้การทำงานของดีเอสไอก็ต้องรวดเร็วขึ้น และจับตัวนายทุนผู้รับซื้อหมูเถื่อนได้โดยไว เศรษฐากล้าขีดเส้นตายหรือไม่ว่า สัปดาห์หน้าหรือเมื่อไร ดีเอสไอจะสามารถเอาตัวผู้บงการมาแจ้งข้อกล่าวหาได้ 

ในทางตรงกันข้าม หากไม่ได้ตัวต้นตอในสัปดาห์หน้า หรือคดีไม่มีความคืบหน้าจากที่เป็นอยู่ เศรษฐาพร้อมแสดงความรับผิดชอบอย่างไร หรือจะให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมแสดงความรับผิดชอบแทน

ส่วนกรณีของห้างแม็คโคร ต้องใช้เวลาอีก 1 เดือน ในการให้แม็คโครรวบรวมเอกสารทั้งหมดส่งให้ดีเอสไอตรวจสอบ ซึ่งถึงตรงนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าใครผิดหรือใครถูก แต่ที่แน่ๆ คือดีเอสไอน่าจะยังไม่สามารถจับกุมต้นตอได้ก่อน 1 เดือนนี้ 

แนวทางสืบสวนต่อไป ดีเอสไอก็ต้องตามสืบต่อไปว่าหมูเถื่อนถูกส่งไปที่ไหนบ้าง แต่ไม่น่าจะตามสืบได้ยาก เพราะผู้ที่สามารถสั่งนำเข้าหมูจำนวนมากต้องเป็นนายทุนรายใหญ่ที่มีช่องทางจำหน่ายอย่างไม่ต้องสงสัย

ทำให้เกิดข้อกังขาว่า แล้วทำไมเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเศรษฐาถึงกล้าขีดเส้นตายให้จับผู้บงการให้ได้ในสัปดาห์เดียว ดีเอสไอจะหาหลักฐานจากไหนไปให้ศาลออกหมายจับได้ทัน ถ้าเศรษฐามีความรับผิดชอบ ควรชี้แจงเรื่องนี้ให้ได้ว่า ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีลุแก่อำนาจใช่หรือไม่ หรือหวังผลอื่นใดกันแน่

ล้มแผนตรวจห้างโลตัส

วันที่ 1 ธันวาคม 2566 ที่เป็นกำหนดที่ดีเอสไอจะเข้าตรวจค้นห้างโลตัสเพื่อขอเอกสารการซื้อเนื้อหมู แต่ปรากฏว่าภารกิจดังกล่าวถูกยกเลิก วันเดียวกัน ในรายการ ‘เจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์’ ดนัย เอกมหาสวัสดิ์ ผู้ดำเนินรายการแจ้งว่า มีผู้ใหญ่ติดต่อมาให้เลิกยุ่งกับกรณีดีเอสไอล้มแผนตรวจโลตัส เพราะจะกระทบต่อตลาดหุ้น ทั้งนี้ ผู้ถือหุ้นใหญ่ของโลตัสคือแม็คโคร และผู้ถือหุ้นใหญ่ของแม็คโครคือเครือซีพี การไม่ตรวจค้นโลตัสทำให้ประชาชนยิ่งสงสัยว่าการเด้งอธิบดีดีเอสไอ รัฐบาลกำลังเอื้อประโยชน์ให้ใครกันแน่

กรณีเด้งอธิบดีดีเอสไอโดยไม่ปรากฏความผิดและไม่ตั้งคนใหม่มาแทน จึงไม่ได้สะเทือนแค่หลักธรรมาภิบาลของคณะรัฐมนตรีชุดนี้เท่านั้น แต่ยังกระทบต่อหลักความยุติธรรมที่คนทำผิดควรถูกลงโทษ และกระทบต่อเกษตรกรรายย่อยและรายเล็กที่ต้องการให้กำจัดขบวนการหมูเถื่อน ที่นำเข้าเนื้อหมูเข้ามาทำลายตลาดขายเนื้อหมูและการเลี้ยงหมูในประเทศ และในอนาคตจะกระทบไปถึงผู้บริโภคเนื้อหมูทั่วไปที่ต้องจ่ายแพงขึ้น หากเกษตรกรรายย่อยและรายเล็กต้องเลิกกิจการไป และมีแต่รายใหญ่เป็นผู้ครองตลาดกึ่งผูกขาด ที่สามารถกำหนดราคาได้ตามความต้องการเป็นหลัก 

ทั้งหมดนี้คือเรื่องปากท้องของประชาชนโดยตรงที่พรรคเพื่อไทยยอมกลืนน้ำลายเข้ามาเป็นรัฐบาลเพื่อแก้ปัญหา รัฐบาลต้องสานต่อภารกิจนี้ให้ได้ ถ้ายังเห็นแก่ประชาชนมากกว่านายทุนรายใหญ่

ขอบคุณแหล่งที่มา :  thairath