อดีตเจ้าบ่าว แต่งงาน 5 วันเลิก ขอโทษ ยัน เจ้าสาว ไม่ได้เชิดเงินสินสอด

อดีตเจ้าบ่าว แต่งงาน 5 วันเลิก โพสต์ขอโทษแล้ว ยืนยัน เจ้าสาว ไม่ได้เชิดเงินสินสอด เผย ขาดสติ รู้เท่าไม่ถึงการณ์ เตรียมนำพานขอขมาฝ่ายหญิง

จากกรณีมีการเผยแพร่เรื่องราวว่า เป็นใครก็คงเสียใจแต่งงาน 4-5 วัน ผู้หญิงขอเลิก สินสอดก็ไม่คืน เอาจริง ถ้าอยู่กันไม่ได้ จะจัดงานขึ้น มาทำไมก่อน สินสอดก็น่าจะแบ่งกันดีกว่านะ มันเป็นไปได้ด้วยหรือ ที่มาบอกว่ารักกัน แต่งงานกันไม่ถึง 4-5 วัน จะขอเลิก ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันที่ 28 มี.ค.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นัท เจ้าบ่าวราชบุรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า กระผม นายวิเชียร (ขอสงวนนามสกุล) หรือ นัท เนื่องด้วยเมื่อในวันที่ 22 มีนาคม 2567

กระผมได้โพสต์ข้อความ พร้อมภาพงานพิธีมงคลสมรส และปรากฏภาพเจ้าสาว และ ครอบครัว ทวงถามยุติธรรมผ่านหน้าเฟซบุ๊ก ลงไปโดยข้อความดังกล่าว ที่ทำให้ครอบครัวของ “ภรรยา” น้องบีม ได้รับความเสียหายทำให้สังคมเข้าใจผิด มีการเข้ามาต่อว่าให้เกิดความเสียหาย จากความขาดการยั้งคิดของกระผมเอง

วันนี้ กระผมนายวิเชียร รู้สึกผิดที่กระทำลงไปโดยขาดสติ และขาดความยั้งคิด และรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ในวันนี้กระผม ขอกราบขอขมา “ภรรยา” น้องบีม และคุณพ่อคุณแม่ รวมไปถึง พี่ชาย และ พี่สาว ตลอดจนคนในครอบครัว

ผ่านสื่อโซลเชียลทุกช่อง บนหน้าเฟซบุ๊กของกระผม เพื่อเป็นการแสดงความตั้งใจที่จะขอโทษและขอขมาจากการกระทำของผมดังกล่าว

• อ่านข่าว : แต่งงาน 5 วันเลิก บ่าว-สาวทะเลาะปมสินสอด อุทาหรณ์ซองงานแต่ง
• อ่านข่าว : เจ้าสาว เล่าอีกมุม แต่งงาน 5 วันเลิก เผยจุดเริ่มต้นรอยร้าว ยัน ไม่คืนสินสอด

ทั้งนี้ กระผมนายวิเชียร หรือ นัท ขอยืนยันว่า น้องบีม หรือ เจ้าสาว ไม่ได้กระทำตามที่ผมได้โพสต์กล่าวอ้างว่า แต่งงาน 5 วัน แล้วเชิดสินสอดไปแต่อย่างใด เป็นความผิดของกระผมเอง ผมขอรับผิดชอบทุกอย่างจากการกระทำของผม ทั้งทางด้านสังคม และ คนรอบข้าง

สุดท้ายนี้กระผมนายวิเชียร หรือ นัท จะหาโอกาส นำพานเข้าไปกราบขอขมา ต่อคุณพ่อ คุณแม่ และ พี่ชาย พี่สาว พร้อม น้องบีม ภรรยาของกระผม ด้วยตัวผมเองต่อไป

ผมต้องขอบคุณพี่หนุมกรรชัย และ รายการโหนกระแส ทนายไพศาล รวมไปถึงสื่อมวลชนทุกท่าน ๆ ตลอดจนสังคมโซเชียลที่ให้คำแนะนำและเตือนสติของกระผมจากใจจริง

อดีตเจ้าบ่าว แต่งงาน 5 วันเลิก โพสต์ขอโทษแล้ว ยืนยัน เจ้าสาว ไม่ได้เชิดเงินสินสอด เผย ขาดสติ รู้เท่าไม่ถึงการณ์

ขอบคุณแหล่งที่มา :  khaosod