ตร.PCT 5 แกะรอยรวบ "อาฟู่" ล่ามบอสใหญ่แก๊งคอลฯ หลอกคนสูญเงิน 16 ล้าน

"ผบ.ตร." ส่งตำรวจชุด PCT 5 แกะรอยรวบ "อาฟู่" ล่ามบอสใหญ่คอลเซ็นเตอร์ จุดเกาะกง ประเทศกัมพูชา พบหลอกผู้เสียหายรวมสูญเงิน 16 ล้านบาท โดยสร้างโปรไฟล์ขึ้นมาออกอุบาย

กรณีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ (สแกมเมอร์) ออกอาละวาดหนักในช่วงปี 2565 จนถึงปัจจุบัน สร้างโปรไฟล์หนุ่มหล่อ/สาวสวยปลอมขึ้นมาออกอุบายทำทีเข้ามาติดต่อพูดคุยตีสนิทจนกลุ่มเหยื่อผู้เสียหายหลงเชื่อจนเหยื่อตายใจ บางรายถึงขั้นหลงรัก หลอกให้ร่วมลงทุนจนหมดตัว สูญเงินหลายล้านบาท สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน 

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น./หน.PCT ชุดที่ 5 นำชุด PCT5 เร่งติดตามสืบสวนขยายผลจนสามารถออกหมายจับสมาชิกแก๊งและเครือข่ายสมาชิกจำนวน 6 ราย โดยได้ให้ข้อมูลว่าตัวการสำคัญคือ นายสุรชัย แซ่จาง ล่ามภาษาไทย-จีน คนสนิทบอสใหญ่มังกรจีน ตัวการสำคัญในขบวนการนี้ ซึ่งทำหน้าที่แปลเทคนิค ขั้นตอนการเรียนรู้ การพูดจูงใจ สร้างแรงบันดาลใจ ในการนำมาใช้หลอกลวงเหยื่อโดยเฉพาะ จากบอสใหญ่ให้แก่พนักงานลูกจ้างที่ทำหน้าที่ แถว 1 แถว 2 และแถว 3 อย่างเป็นระบบ ไม่ต่างจากบริษัททั่วๆ ไป  สร้างมูลค่าความเสียหายกว่า 16 ล้านบาท โดยเจ้าหน้าที่สืบสวนติดตามมากว่า 1 ปีอย่างต่อเนื่อง

จากการสอบสวน นายสุรชัย ให้การว่า ประมาณปี 64 ตนกับ นายสุรจิต น้องชาย สมัครงานผ่านเฟซบุ๊กเพื่อไปเป็นล่ามแปลภาษาจีน-ไทย ที่สีหนุวิลล์ ประเทศกัมพูชา โดยจะได้ค่าตอบแทนประมาณ 30,000-40,000 บาท เมื่อตนกับ นายสุรจิต เดินทางไปถึงกัมพูชาปรากฏว่า ตนถูกพาไปทำงานที่ "เกาะกง" แทน โดยทำหน้าที่เป็นล่ามแปลภาษาจีนจากหัวหน้าชาวจีน ซึ่งไม่ทราบชื่อจริง แต่พนักงานที่นั่นจะเรียกกันว่า “หยู่เกอ” ตนจะทำหน้าที่ล่ามแปลคำพูดของ นายหยู่เกอ เป็นภาษาไทยให้กับพนักงานที่ทำงานที่นั่น โดยทราบว่าที่คนไทยไปทำงานนั้นเป็นงานในลักษณะคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงให้ลงทุนซื้อขายเงินสกุลดิจิทัล คริปโตเคอร์เรนซี นายหยู่เกอ เป็นคนสร้างแอปพลิเคชันปลอมนี้ขึ้น หลังจากตนทำงาน 6 เดือน ตนหลบหนีกลับประเทศไทย และสร้างครอบครัว เปิดกิจการร้านเหล้าที่ภูมิลำเนาของตนใน ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนและทราบว่าตนมาทำธุระในพื้นที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี และถูกจับกุม

พล.ต.ต.ธีรเดช หัวหน้าชุด PCT 5 กล่าวว่า จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมทราบว่าแผนประทุษกรรมของแก๊งสแกมเมอร์กลุ่มนี้จะเริ่มเปิดปฏิบัติการใช้โปรแกรมสร้างแฟลตฟอร์มปลอมที่ชื่อว่า "surlars-pro.com" และ "biteeb.com" เพื่อหลอกให้ลงทุนซื้อขายเหรียญคริปโตฯ จากนั้น นายหยู่เกอ บอสใหญ่ชาวจีนจะให้ นายสุรชัย ผู้ถูกจับ และนายสุรจิต ทำหน้าที่ล่ามในการแปลถอดคำพูดและวิธีการสอนให้พนักงานที่มาทำงานในการสร้างโปรไฟล์หนุ่มหล่อ สาวสวย หน้าตาดี ทางแอปพลิเคชัน ผ่านทางกูเกิลหรือโปรแกรมมาริโอ้ที่สร้างไว้โดยเฉพาะ เช่น twitter จำนวน 10-40 บัญชี และ  Instragram จำนวน 1 บัญชี และ Facebook จำนวน 1 บัญชี

โดยเฉพาะการสมัครแอปพลิเคชันทวิตเตอร์ (twitter) จะมีระบบโปรแกรมมาริโอ้ที่สร้างไว้สุ่มเข้ามาพูดคุยและทักทายทำความรู้จัก ตีสนิทติดตามเหยื่อก่อน เมื่อเหยื่อรับเป็นเพื่อนและติดตามคนร้ายกลับมา จะมีข้อความที่ตั้งไว้ตอบกลับอัตโนมัติในลักษณะคำทักทายเป็นประจำทุกวันอย่างต่อเนื่อง จนเหยื่อเริ่มพูดคุย มีการสนทนาโต้ตอบ กลุ่มมิจฉาชีพจะเริ่มใช้จิตวิทยาและประสบการณ์ที่ได้รับการถ่ายทอดจากบอสใหญ่ ในการสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล อาทิ ชื่อ อายุ งาน ประเทศ เบอร์โทร วอตส์แอปป์ (WhatsApp) หากเหยื่อรายใดเริ่มมีความคุ้นเคย จะถามถึงสภาพคล่องทางการเงิน รายรับ-รายจ่ายของเหยื่อ จนกลุ่มแก๊งสแกมเมอร์กลุ่มนี้สามารถวิเคราะห์และประเมินได้ว่า เหยื่อมีรายได้และมีความสามารถในการลงทุน คนร้ายจะชักชวนเหยื่อร่วมลงทุน 

พล.ต.ต.ธีรเดช เผยอีกว่า โดยให้เหยื่อดาวน์โหลดแพลตฟอร์ม bitkub, M.omxmax, Binace และ Letraders พร้อมทั้งสอนวิธีการซื้อขายเงินสกุลดิจิทัลคริปโตเป็น USDT, LTC, GLOE, BTC, ETH, WPE แนะนำเชิญชวนให้ลงทุนโอนเงินดอลลาร์และจะให้เห็นว่าลงทุนแล้วได้กำไรและถอนเงินได้จริง เปลี่ยนให้เป็นเงิน USDT

พอเหยื่อลงทุนแล้วก็จะให้โอนเงิน USDT เข้าไปในแพลตฟอร์มชื่อว่า "surlars-pro.com" และ "biteeb.com" ที่สร้างขึ้นปลอม เพื่อเป็นการเลี้ยงเหยื่อให้ลงทุนเพิ่ม นายหยู่เกอ จะหลอกลวงโดยสร้างกราฟปลอมแสดงกราฟขาขึ้นให้เหยื่อดูเพื่อแสดงยอดเงินกำไรโชว์ให้เหยื่อ เพื่อให้เหยื่อลงทุนเพิ่ม หากเหยื่อจะถอนเงินที่ได้จากผลกำไร ทางแก๊งมิจฉาชีพนี้จะมีการเรียกเก็บเงินเพิ่มเติมเพื่อจ่ายเป็นค่าภาษี หากไม่ชำระภายในกำหนด ก็ไม่สามารถจะถอนเงินดังกล่าวได้ จึงเป็นการหลอกผู้เสียหายซ้ำไปซ้ำมา จนเกิดความเสียหายเป็นจำนวนมาก

"ผบ.ตร.สั่งตรงให้ติดตามจับกุม อาฟู่ มือขวาบอสใหญ่ชาวจีน แก๊งคอลเซ็นเตอร์ จุดเกาะกง กัมพูชา เป็นบุคคลที่ทางการไทยต้องการตัวมาก เพราะเป็นคนสอนเทคนิคการหลอก คอลเซ็นเตอร์ แถว 1-แถว 3 โทรมาหลอกคนไทย แม้มีปัจจัยด้านต่างๆ แต่เราเกาะติดเฝ้าติดตามคนร้ายมาโดยตลอด เพื่อเป็นการตัดรากถอนโคนองค์กรอาชญากรรมแก๊งนี้ให้สิ้นซาก พร้อมขอเตือนประชาชนที่คิดจะไปทำงานในประเทศเพื่อนบ้านนั้นควรจะตรวจสอบให้แน่ใจเสียก่อนว่า อาชีพ หรือลักษณะงานที่จะไปทำนั้นเป็นในลักษณะแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือไม่" พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าว. 

ขอขอบคุณ แหล่งที่มา :  https://www.thairath.co.th/news/crime/2701726