ป.ป.ส. รอ สธ. ชงกัญชากลับเป็นยาเสพติดเข้าบอร์ดปลาย ก.ค. มีผลบังคับ 1 ม.ค. 68
ป.ป.ส. รอ สาธารณสุข เสนอร่างประกาศกระทรวง ให้ “กัญชา-กัญชง” กลับไปเป็นยาเสพติด คาดเข้าที่ประชุมปลาย ก.ค.นี้ และจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 ม.ค. 2568 ย้ำ หนุนเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์เท่านั้น
วันที่ 8 กรกฎาคม 2567 นายมานะ ศิริพิทยาวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และโฆษกสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เปิดเผยถึงข้อสงสัยที่กำลังเป็นประเด็นทางสังคม เรื่อง คณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ กระทรวงสาธารณสุข ที่มีการประชุมเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2567 มีมติให้คืนกัญชา กัญชง กลับไปเป็นยาเสพติดอีกครั้งนั้น
สำหรับสำนักงาน ป.ป.ส. มีการเตรียมพร้อมดำเนินการในขั้นตอนต่อไป คือ เมื่อกระทรวงสาธารณสุขเสนอร่างประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 พ.ศ. .... ต่อคณะกรรมการ ป.ป.ส. เพื่อพิจารณา สำนักงาน ป.ป.ส.จะได้นำเรื่องบรรจุในวาระการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ส. ซึ่งมี นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี ที่ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ เบื้องต้นคาดว่าจะมีการประชุมในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมนี้ หากที่ประชุมมีมติเห็นชอบร่างประกาศกระทรวงสาธารณสุขดังกล่าว หรือมีมติเป็นประการใด สำนักงาน ป.ป.ส.จะแจ้งให้กระทรวงสาธารณสุขทราบ เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
เมื่อพิจารณาเบื้องต้น ร่างประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ การกำหนดให้พืชกัญชา และวัตถุหรือสารต่างๆ ที่มีอยู่ในพืชกัญชา เช่น ยาง เป็นยาเสพติดให้โทษ ยกเว้นเปลือก ลำต้น เส้นใย กิ่ง ก้าน ราก ใบ (ที่ไม่มียอดหรือช่อดอกติดมาด้วย) สารสกัดที่มีสาร THC ไม่เกินร้อยละ 0.2 โดยน้ำหนัก และเมล็ดกัญชา ไม่ถือเป็นยาเสพติดให้โทษ ซึ่งจะเห็นว่าในส่วนของเมล็ดกัญชานั้น แม้ไม่จัดเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ก็ตาม แต่กระทรวงสาธารณสุขจะไปควบคุมการปลูกพืชกัญชา ซึ่งจะต้องได้รับอนุญาตตามที่กำหนดในกฎกระทรวงการขออนุญาตเพาะปลูกต่อไป โดยร่างประกาศฉบับนี้จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 เป็นต้นไป เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องมีเวลาในการปรับเปลี่ยนเตรียมพร้อมในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ส่วนแนวทางการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. เมื่อพืชกัญชากลับมาเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 อีกครั้ง ก็มีหน้าที่และอำนาจในการควบคุมและกำกับดูแลตั้งแต่การปลูก การจำหน่าย และการใช้ประโยชน์พืชกัญชาให้เป็นไปตามประมวลกฎหมายยาเสพติด ซึ่งก็เป็นไปตามแนวทางเดิมที่เคยปฏิบัติมาก่อน จึงไม่มีปัญหาในการดำเนินการแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม สำนักงาน ป.ป.ส.ยังคงยืนยันที่สนับสนุนการใช้กัญชาเพื่อประโยชน์ในทางการแพทย์เท่านั้น และมีหน้าที่ป้องกันไม่ให้มีการนำไปใช้ในทางที่ผิดวัตถุประสงค์ และขอเน้นย้ำไม่สนับสนุนการใช้ในเชิงนันทนาการ ซึ่งผิดเจตนารมณ์ของกฎหมายและเป็นสิ่งที่รัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มีนโยบายในการปราบปรามผู้ค้ายาเสพติด สนับสนุนการเข้ารับบำบัด และให้ยาเสพติดเป็นวาระสำคัญเร่งด่วนของประเทศในการสร้างสังคมที่ปลอดภัย ลดความเดือดร้อนของประชาชน.
ขอบคุณแหล่งที่มา : thairath
ความคิดเห็น