นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง มีรายจ่ายต่อเดือนลดน้อยลง แต่ยังคงมีปัญหาการขาดสภาพคล่อง ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) จึงได้พิจารณาให้มีการเสริมสภาพคล่องของกองทุนน้ำมันในช่วงเวลานี้ เพื่อให้การบริหารจัดการกองทุนน้ำมันสามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพในอนาคตทั้งด้านการเงินและสถานการณ์ด้านราคาน้ำมันยังมีความผันผวนต่อเนื่องจากสถานการณ์ด้านสงครามและเศรษฐกิจ
“กบน.มีมติลดอัตราเงินชดเชยน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี 20 จาก 1.94 บาทต่อลิตร เป็น 1.40 บาทต่อลิตรเพื่อให้กองทุนน้ำมันมีรายจ่ายน้ำมันดีเซลลดลงวันละ 38.32 ล้านบาท จากวันละ 136.70 ล้านบาทเป็น 98.38 ล้านบาท ซึ่งการลดอัตราเงินกองทุนน้ำมันครั้งนี้ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลปรับขึ้น 0.50 บาทต่อลิตร เป็น 32.44 บาทต่อลิตร มีผลตั้งแต่วันที่ 25 พ.ค.เป็นต้นไป”
ทั้งนี้ การพิจารณาดังกล่าวเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา จากมาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานแก่ประชาชน โดยวางกรอบการตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 33 บาทต่อลิตร ตั้งแต่วันที่ 20 เม.ย.-31 ก.ค.ซึ่งเป็นมาตรการต่อเนื่องจากมาตรการเดิมที่สิ้นสุดเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมาและการดำเนินการนี้เป็นไปตามมติ กบน. เมื่อวันที่ 27 มี.ค.67 เห็นชอบในหลักการให้ปรับอัตราเงินกองทุนน้ำมันประเภทน้ำมันดีเซลเพื่อให้ราคาขายปลีกเกินกว่า 30 บาทได้ตั้งแต่เดือน เม.ย.ที่ผ่านมา
“กบน.จะพิจารณาลดการชดเชยราคาน้ำมันดีเซลแบบค่อยเป็นค่อยไปให้เป็นไปตามช่วงเวลาและจังหวะที่เหมาะสม เพื่อรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันภายในประเทศไม่ให้ผันผวนมากจนเกินไป และกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนให้น้อยที่สุด โดยฐานะกองทุนน้ำมัน ณ วันที่ 19 พ.ค. ติดลบ 110,854 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 63,230 ล้านบาท บัญชีก๊าซหุงต้มติดลบ 47,624 ล้านบาท”.
ขอบคุณแหล่งที่มา : thairath
ความคิดเห็น