คนขายต้องคนไทยเท่านั้น กฎใหม่กทม.-แผงลอยต้องจนแต่ต้องเสียภาษี

เมื่อวันที่ 18 ก.ย. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานจากศาลาว่าการ กทม. ว่า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ได้ลงนามประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่องหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดพื้นที่ทำการค้าและการขายหรือจำหน่ายสินค้าบนถนนหรือสถานสาธารณะ โดยได้กำหนดหลักเกณฑ์การพิจารณากำหนดพื้นที่ทำการค้า หากเป็นถนนที่มีช่องจราจรตั้งแต่ 3 ช่องขึ้นไป ไม่ว่าจะเป็นการเดินรถทางเดียวหรือสวนทาง เมื่อจัดวางแผงค้าแล้วต้องมีที่ว่างให้ประชาชนสัญจรได้ไม่น้อยกว่า 2 เมตร และให้สำนักเขตทบทวนความเหมาะสมการเป็นพื้นที่ทำการค้าทุก 2 ปี แต่หากน้อยกว่า 3 ช่อง เมื่อจัดวางแผงค้าแล้วต้องมีที่ว่างให้ประชาชนสัญจรได้ไม่น้อยกว่า 1.5 เมตร ให้สำนักเขตทบทวนความเหมาะสมการเป็นพื้นที่ทำการค้าทุก 1 ปี โดยพื้นที่ทำการค้าต้องได้รับความเห็นชอบโดยส่วนใหญ่ของประชาชนในพื้นที่และผู้มีส่วนได้เสียในบริเวณใกล้เคียง

ส่วนการจัดแผงค้าต้องมีขนาดไม่เกิน 3 ตารางเมตร ความลึกของแผงค้าต้องไม่เกิน 1.5 เมตร และจัดแผงค้าได้เพียงฝั่งเดียวโดยให้ชิดกับด้านถนน แต่ต้องห่างจากผิวจราจรอย่างน้อย 50 เซนติเมตร และให้เว้นระยะห่าง 3 เมตร ทุก 10 แผงค้า เพื่อเป็นทางเข้าออกและทางฉุกเฉิน ขณะที่คุณสมบัติของผู้ค้าและผู้ช่วยจำหน่าย (1 คน) ต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทยเท่านั้น และมีลักษณะตามข้อใดข้อหนึ่ง ดังนี้

1. เป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

2.เป็นคู่สัญญาในการซื้อบ้านที่อยู่อาศัยกับการเคหะแห่งชาติ ในโครงการบ้านมั่นคง ฯ

3.เป็นบุคคลที่ได้รับเงินสวัสดิการจากกระทรวง พม.

และ 4.เป็นผู้มีรายได้ไม่เกิน 300,000 บาทต่อปี โดยให้อ้างอิงหลักฐานจากรายได้พึงประเมินการยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา นอกจากนี้ยังกำหนดให้ผู้ค้าต้องยื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาต่อกรมสรรพากรทุกปี และให้นําเอกสารหลักฐานมายื่นต่อสํานักงานเขต หากรายได้เกินกว่าที่กําหนดไว้ให้ถือว่าสิทธิในการทําการสิ้นสุดลง หากไม่ยื่นหรือจงใจหลีกเลี่ยงให้ถือว่ามีรายได้เกินกว่าที่กําหนดไว้ฯ อย่างไรก็ตาม ประกาศฉบับดังกล่าวจะมีผลนับตั้งแต่วันประกาศราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป.

ขอบคุณแหล่งที่มา :  thairath