อย่าเห็นแก่ของถูก!!!
“ของถูกและดีมีอยู่จริง แต่ไม่ใช่กับทุกอย่างบนโลกนี้! เพราะหากเป็นร้านค้าพวกมิจฉาชีพจะตั้งราคาขายแสนถูก ถ้าเทียบกับร้านอื่นๆ จะถูกกว่ามาก “ราคาเป็นมิจ…ฉาชีพ” ให้ตั้งสติ แล้วตรวจสอบข้อมูลผู้ขาย รีวิวจากลูกค้า ก่อน รวมถึงการบรรยายสรรพคุณสินค้ามากเกินไป ก็ให้ระวังเอาไว้เลยว่าอาจโดนมิจฉาชีพหลอก เช่นเดียวกัน”
1. บันทึกภาพหน้าจอทั้งหมดแล้วทำการพิมพ์ออกมา เก็บหลักฐานต่อไปนี้
หน้าเว็บไซต์ที่ขายของ หรือ Social Media ที่เราเห็นสินค้าและทำรายการสั่งซื้อไป
ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ เลขที่บัญชีของร้านค้า ช่องทางติดต่อต่างๆ
ข้อความในแชตที่พูดคุยกับผู้ขาย
หลักฐานการโอนเงินเข้าบัญชี สลิปโอนเงิน
สมุดบัญชีธนาคาร
สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
2. แจ้งตำรวจเพื่อดำเนินคดีและออกคำสั่ง “อายัดบัญชี” นำหลักฐานทั้งหมดเข้าแจ้งความได้ 2 ทางเลือก ดังนี้
สถานีตำรวจในท้องที่เกิดเหตุ เช่น สน.ใกล้บ้าน ให้เร็วที่สุดหรือภายใน 3 เดือนตั้งแต่วันที่รู้ว่าถูกโกง
เข้าแจ้งความที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ที่ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ถนนแจ้งวัฒนะ ซึ่งจะมีเทคโนโลยีในการติดตามหาตัวคนร้ายได้รวดเร็ว
อย่าลืมระบุว่าต้องการ “แจ้งความเพื่อดำเนินคดีจนถึงที่สุด” เท่านั้น ไม่ใช่แค่ลงบันทึกประจำวัน พร้อมทั้งให้ตำรวจออกคำสั่งอายัดบัญชีด้วย
3. ติดต่อธนาคารเพื่อทำการอายัดบัญชี โดยเอกสารที่ต้องใช้ ประกอบด้วย
ใบแจ้งความ
คำสั่งอายัดบัญชี
สมุดบัญชีต้นทาง
สำเนาบัตรประชาชน
หลักฐานที่รวบรวมไว้
การจะได้เงินคืนหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งกระบวนการและขั้นตอนของเจ้าหน้าที่ สำหรับใครที่ซื้อของออนไลน์แล้วโดนโกง การโพสต์รีวิวบนช่องทางออนไลน์ก็จะช่วยแจ้งเตือนให้แก่ผู้อื่นที่กำลังคิดจะซื้อของจากร้านไม่ให้ตกเป็นเหยื่อรายต่อไปได้
วิธีป้องกันตนเองเบื้องต้นก่อนซื้อของออนไลน์แล้วโดนโกง
นำชื่อร้านค้า ชื่อผู้ขาย หรือเลขที่บัญชีไปเช็กประวัติใน Google ก่อนตัดสินใจซื้อ เผื่อมีใครมาโพสต์แจ้งเตือน
ควรเลือกซื้อกับร้านค้าบนแพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ที่น่าเชื่อถือ เพราะมีระบบรีวิวร้านค้าและสินค้า ทำให้เราสามารถเช็กประวัติความน่าเชื่อถือของร้านค้าบนแพลตฟอร์มเหล่านี้ได้
ความคิดเห็น