แต๊งค์ พงศกร โต้หมดตัวจนขายบ้านทิ้ง รับมีกังวลใจพัฒนาการลูกชาย
แต๊งค์ พงศกร คุณพ่อลูกหนึ่งที่วันนี้ขอจูงมือลูกชายตัวน้อย น้องตินติน วัย 3 ขวบ อัปเดตพัฒนาการความน่ารัก เผยความกังวลใจของพ่อที่ไม่เคยพูดที่ไหนมาก่อน พร้อมเคลียร์ข่าวเมาท์หมดตัวจนต้องประกาศขายบ้าน และล่าสุดตั้งใจกลับมาฟิตหุ่นปั้นร่างทองอีกครั้ง เตรียมหวนกลับมารับงานในวงการ ติดตามทุกประเด็นในรายการ "คุยแซ่บ Show" ทางช่อง One31 ที่มี ธัญญ่า ธัญญาเรศ และ หนิง ปณิตา เป็นพิธีกร
เห็นว่าน้องตินตินติดคุณพ่อคุณแม่หนักมาก?
แต๊งค์ : ใช่ครับ เพราะเลี้ยงเองไม่จ้างพี่เลี้ยงเลยพ่อกับแม่เลี้ยงกันสองคน 24 ชั่วโมง ตอนนี้เขาเริ่มมีความเป็นตัวของตัวเองแล้ว เริ่มมีเอาแต่ใจ หิวบ้าง อิ่มบ้าง ง่วงบ้าง เขาเริ่มแสดงความต้องการของตัวเองออกมา
ติดปู่ย่าตายายมั้ย?
แต๊งค์ : ด้วยความที่เราเลี้ยงลูกเอง โดยปกติหลานทั่วไปจะติดคุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยาย คนสูงอายุจะใจดีให้เงินหลานไปซื้อของเล่นให้ขนมหลาน แต่คนนี้ทะเลาะกับย่าตลอด เพราะว่าคุณย่าชอบแหย่ เพราะว่าเขาจะติดคุณพ่อคุณแม่มาก ย่าจะขออุ้มหน่อย ไปกินขนมกับย่ามั้ย ไม่ไป ย่าเขาก็เลยไปอีกทาง เลยกลายเป็นชอบแหย่ ชอบแกล้งหลาน แต่จริงๆ รักแหละ เวลาเขาอยู่ด้วยกันสองคนก็โอเค แต่พอมีตัวเลือกพอพ่อเดินเข้ามาเขาจะหาปะป๊า หาหม่าม้า
ตอนนี้เข้าโรงเรียนแล้ว อยู่ชั้นอะไร?
แต๊งค์ : เข้าโรงเรียนแล้วอยู่เนิร์สเซอรี่ 2 เทอมนี้ยังเป็นเทอมที่ 2 ที่เข้าเรียน แต่ยังเป็นเตรียมอนุบาล ส่งไปเล่นไปเจอเพื่อน ไปปรับอารมณ์ตัวเองนิดนึง ปรับพัฒนาการตัวเองให้เข้ากับสังคม ไปส่งไปรับเอง
โมเมนต์แรกที่ไปโรงเรียน?
แต๊งค์ : ไม่เหมือนคนอื่น คนอื่นเขาจะมีโมเมนต์เสียน้ำตา คนนี้คือวิ่งปรู๊ดเข้าไปแล้ว เด็กคนอื่นจะมีอารมณ์บางวันไม่อยากไปเรียน นี่ไม่มีเลย เห็นโรงเรียนวิ่งเข้าตลอด ยกเว้นแต่เวลาเขาไม่สบายมีซึมๆ งอแง บรรยากาศที่โรงเรียนเขาทำดีมาก เด็กสนุก เด็กเอ็นจอย ตินตินจะเป็นคนที่พอถึงโรงเรียนแล้วเขาอยากเข้าไปเล่น ไม่เคยร้องไห้ที่ต้องจากพ่อแม่ไปโรงเรียนเลย
มีความกังวลมั้ยกลัวลูกจะพูดไม่ชัด?
แต๊งค์ : ตอนนี้น้องตินตินยังไม่ 3 ขวบ เราถือว่ายังอยู่ในระดับยังรอได้ ยังไม่วิกฤต เขาสื่อสารได้นับ 1 2 3 4 วัน ทู ทรี โฟร์ ไฟว์ เขาพูดหิวข้าว อิ่มแล้ว ได้ แต่บางคำที่เรากังวลคือเขาจะพูดไม่ชัด เขาพูดไทยสำเนียงอังกฤษ แต่เรายังไม่กังวลมากขนาดนั้น ยังให้เวลาเขาได้อยู่ แต่ที่กังวลนิดนึงเพราะว่าเราไปได้ข้อมูลมาว่า เด็กบางคนอาจจะมีปัญหาเรื่องการพัฒนากล้ามเนื้อในการพูด ในการใช้ลิ้นของเขา ถ้าหากมีผู้เชี่ยวชาญหรือครูมาฝึกให้ตั้งแต่ยังเด็กเลย พัฒนาการเขาจะได้ไปในทางที่ดีที่ถูกต้อง
มีอีกเรื่องที่กังวลเรื่องไซส์?
แต๊งค์ : น้องเป็นคนตัวเล็กอยู่ในระดับที่ยังไม่ได้กังวลเยอะ น้องยังไม่ถึงต่ำกว่าเกณฑ์ แต่ว่าอยู่ล่างสุด เกณฑ์เขาจะมีสูงสุดต่ำสุด น้องจะอยู่ล่างๆ แต่ว่าด้วยความที่แม่เขาเป็นคนตัวเล็ก พ่อเด็กๆ ก็จะตัวเล็กเข้าแถวเคารพธงชาติก็จะยืนที่ 1 ที่ 2 ตลอด เราเลยไม่ได้กังวลมาก แต่สิ่งหนึ่งที่ประทับใจลูกมากก็คือตินตินตั้งแต่เกิดมาจนเริ่มเดินได้ รองเท้ายังไม่ได้เปลี่ยนไซส์เลย ใช้รองเท้าคู่เดิม
เริ่มแพลนจะมีคนที่ 2 หรือยัง?
แต๊งค์ : น่าจะเหนื่อยมากตอนนี้ ยังไม่ตัดสินใจ แต่ ณ ตอนนี้ก็คือคิดว่ายังไม่มี แต่อนาคตอาจจะเปลี่ยนใจก็ได้
คุณพ่อประกาศฟิตหุ่นเกิดแรงบันดาลใจอะไรขึ้นมา?
แต๊งค์ : ตอนนี้อายุเกินเลข 4 แล้ว อายุ 42 แล้วมันย้วยไปหมดเลย ผมอาจจะเป็นคนฮอร์โมนเพศหญิงเยอะด้วยมั้ง มันจะไปเก็บตรงพุง เก็บตรงนมเยอะมาก เราก็กลายเป็นผู้ชายนมแหลม แก้มห้อย รับตัวเองไม่ได้ ล่าสุดกลางปีที่ผ่านมาไปทริปสกี แต่ก่อนจะเป็นคนที่กีฬาเอาต์ดอร์จะไม่ยอมแพ้น้องๆ กับคนในบ้านเลย รอบนี้ฉันแบกสกีแล้วฉันเหนื่อย ไม่ได้ออกกำลังด้วย
เราอยู่กับลูก เราปล่อยกินข้าว ดูซีรีส์ ทำงานหมอดู ขายที่ขายบ้าน เราทำงานที่บ้านไม่ได้ออกกำลังกาย รับสภาพตัวเองไม่ได้ แก่มาก อ้วนมาก เหนื่อยง่าย พอเราอ้วนแล้วโทรมมันไม่มีงาน เพราะพื้นฐานชีวิตของเราคือใช้หน้าตา รูปร่าง ทำงานมาเกือบตลอด งานรีวิว งานอีเวนต์หายหมด แล้วงานพวกนี้รายได้ดีนะ พอมันหายไปทีมันหายไปเยอะ เลยกลับมาฟิตหุ่น
พอสุขภาพดีแล้วเวลาเราเลี้ยงลูกรู้สึกเหนื่อยน้อยลงมั้ย?
แต๊งค์ : เหนื่อยน้อยลง มีพลังในการวิ่งเล่นกับลูกมากขึ้น มีกำลังที่จะลุกนั่งตั้งฉากอ่านหนังสือกับลูกได้ แต่ก่อนนี้จะนอน
จะเอาร่างทองกลับเข้าสู่วงการบันเทิง?
แต๊งค์ : อยากจะสุขภาพดีจะได้มีงานเพิ่มมากขึ้น ใครเห็นก็จ้างได้ งานหลักคืออยู่บ้านเลี้ยงลูก เป็นคุณพ่อเกือบจะฟูลไทม์ พาร์ตไทม์คือดูดวง แล้วก็มีบริหารทรัพย์สินให้กับครอบครัวบ้าง อีเวนต์กับรีวิว
หมดเนื้อหมดตัว ประกาศขายบ้านเกิดอะไรขึ้น?
แต๊งค์ : น่าจะเข้าใจผิด ไม่ได้มีเยอะนะ แต่ก็ไม่ถึงกับหมดตัว ตอนนี้ทุกคนมีที่อยู่มีบ้านอยู่อยู่แล้ว บ้านที่เราขายเป็นบ้านที่เราซื้อเก็บไว้ หรือเป็นที่ดินที่เราซื้อเก็บไว้ ทีมีข่าวล่าสุดคือบ้านที่ผมเกิดอันนั้นจะเป็นบ้านเก่า ซึ่งมันอาจจะมีประเด็นเรื่องของมรดกที่มันจำเป็นจะต้องขายเพื่อแบ่ง จริงๆประกาศขายทั้งหมด 4 หลัง ซึ่งทรัพย์สินทั้งหมดมันไม่ได้เป็นของส่วนตัว มันเป็นของครอบครัว คุณพ่อคุณแม่ก็เริ่มอายุเยอะ บางทีคนอายุเยอะ เขาก็อยากจะเก็บทรัพย์สินเป็นลักษณะเงินสดมากกว่า เพื่อการจัดการบริหารง่ายขึ้น อีกอย่างบ้านยุคนี้ค่าใช้จ่ายสูงขึ้นทุกวัน การที่เรามีบ้านเปล่าเก็บเอาไว้เยอะๆ มันจะมีค่าดูแล
ขายได้บ้างหรือยัง?
แต๊งค์ : ยังขายไม่ได้เลย ผมมีที่สุขุมวิท สาทร ปราณบุรี และสระบุรี
หลังที่แอบเสียดายมากๆ คือหลังที่อยู่มาตั้งแต่เกิด?
แต๊งค์ : จริงๆ ก็แอบเสียดาย หลังนี้เป็นหลังที่มันไม่เหมือนกับหลังอื่น หลังนี้เป็นของครอบครัวฝั่งคุณพ่อของผม มันจะต้องมีการขายเพื่อแบ่งแยกมรดกกันเลยจำเป็นต้องขาย ที่สุขุมวิทประมาณ 1 งาน ตอนนี้ประมาณเกือบร้อยล้าน ที่เกือบติดถนนใหญ่เลย 126 ตารางวา เดินประมาณ 2-3 นาทีถึงเอ็มสเฟียร์เพราะมันอยู่ซอยตรงข้าม หลังที่สาทรใหญ่หน่อยประมาณเกือบ 1 ไร่ ขายประมาณเกือบ 200
เคลียร์เลยสรุปหมดตัวหรือเปล่า?
แต๊งค์ : ยังไม่หมดตัว
อีกอาชีพที่ยึดเป็นอาชีพเสริมคือการดูไพ่รูนส์?
แต๊งค์ : ผมจะบอกเรื่องดูดวงเสมอว่าผมไม่ได้เลือกที่จะดูดวง แต่ผมคิดว่าการดูดวงเลือกผมมากกว่า ผมเริ่มจากการดูดวงเพราะเราอยากมีความสามารถพิเศษอะไรบางอย่าง ผมเสียงไม่ดี พูดยังไม่ค่อยชัดเลย ร้องเพลงไม่เป็น ถ้าอยากได้งานจ้าง งานอีเวนต์ ควรจะมีความสามารถพิเศษ ฉันไปเป็นหมอดูตามงานก็ได้ เขาสอนผมมายังไงผมก็ดูตามอย่างนั้น ไพ่ขึ้นมายังไงผมก็ดูตามอย่างนั้น แต่คนบอกว่าแม่น
คนวงการบันเทิงดูกับแต๊งค์เยอะมาก?
แต๊งค์ : ใช่ พูดถึงคนที่ผมดูให้มารายการนี้เยอะนะ พูดเรื่องอะไรผมรู้หมด ผมดูมาก่อนแล้ว
ติดตามช่อง Youtube : Orange Mama
ขอบคุณแหล่งที่มา : thairath
ความคิดเห็น