เปิดความซี้40 ปี ดี้-ตุ๊ก เคยสร้างวีรกรรมจนขึ้นโรงพัก วีนฉ่ำทำคนทั้งวงการไม่กล้ายุ่ง
เปิดความซี้ 40 ปี ดี้ ชนานา – ตุ๊ก ดวงตา เคยสร้างวีรกรรมสุดโต่งจนขึ้นโรงพัก เผยความเหวี่ยงวีน ของ ตุ๊ก ดวงตา ทำคนทั้งวงการไม่กล้าเข้าใกล้ ได้สติเพราะพึ่งธรรมะ
2 นักแสดงตัวแม่ ตุ๊ก ดวงตา และ ดี้ ชนานา ควงกันมาเปิดเผยความสนิทกว่า 40 ปี ที่เคยปาร์ตี้ถึงขั้นขึ้นโรงพักกันมาแล้ว พร้อมเม้าธ์วีรกรรม ตุ๊ก ดวงตา ที่เหวี่ยงวีนจนคนทั้งวงการไม่กล้าเข้าใกล้ และเปิดวิธีการเลี้ยงลูกชายของคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวทั้งสองคนที่หวงลูกชายหนักมากถึงขั้นขังไว้ในบ้าน ทุกประเด็นในรายการคุยแซ่บShow ทางช่องOne31 ที่มี ธัญญ่า ธัญญาเรศ และหนิง ปณิตา เป็นพิธีกร
ทั้งคู่สนิทกันมา 40 ปี ? ตุ๊ก : “เห็นมาตั้งแต่หลุดจากกระโปรงนักเรียนมาใหม่ๆ แล้วกระแดะมาเดินแฟชั่นโชว์คู่กับเรา แล้วก็กลายเป็นลูกกระพรวนติดกันไปเลย รุ่นเดียวกันไม่คบมัน”
ห่างกันกี่ปี ? ดี้ : “8-9 ปี ตอนที่เข้ามาในวงการใหม่ๆ แล้วสมัยก่อนมีเดินแฟชั่นตอนกลางวันทุกเสาร์-อาทิตย์แล้วมาเจอกันตลอด เราก็เกาะเขาเพราะว่าเขาเป็นพี่ที่ดูแลดี ชุดไหนโป๊ส่งให้คนอื่น”
ตุ๊ก : “เป็นน้องรัก ถ้าไม่ใช่น้องรักก็จะบอกว่าเอาชุดนี้ๆ ชุดนี้เซ็กซี่มากลูกใส่ไปเลย บิกินีแบบตัวจิ๋วๆ ถ้าไม่ใช่น้องรักยุให้มันใส่โป๊ๆ ไป ถ้าน้องรักเอาแค่วันพีชพอ”
แล้วทำไมคนสนิทเราไม่อยากให้เขาโชว์ ? ตุ๊ก : “ไม่ได้ ต้องสงวนเนื้อ สงวนตัว”
ดี้ : “เลยสนิทกันมาตั้งแต่ตอนนั้น”
สนิทกันตอนเล่นละครแล้วนอนด้วยกัน ? ดี้ : “คือตอนนั้นแก๊งพี่ตุ๊กคือแก๊งนางฟ้าสมัยก่อนเลย”
ตุ๊ก : “มีนวลปรางค์ มีลินดา มีวันทิพย์ ภวภูตานนท์ พี่แต้ม รุ่งนภา กิตติวัฒน์”
ดี้ : “เขาสวยสะพรั่งมาแล้ว เขา 20 กว่า แต่เราเพิ่งจะ 10 ปลาย แล้วก็มาเกาะแก๊งนางฟ้า พอหลังจากเป็นนางแบบแล้วเข้ามาวงการละคร พี่ตุ๊กเข้ามาก่อนแล้วเราก็เข้าตามมา เราไม่มีเพื่อนคนอื่นเราก็เกาะคุณแม่ตามมายาวมาเลย”
ถ้าถามอายุจะเป็นการเสียมารยาทมั้ย ? ตุ๊ก : “ไม่ๆ ดิฉันภูมิใจ ดิฉัน 70 ปีนี้ค่ะ”
ดี้ : “พี่ดี้ 61 ค่ะ”
ถ้าย้อนกลับไปที่สนิทจริงๆ คือตอนถ่ายละครแล้วนอนด้วยกัน ? ดี้ : “จริงๆ ก็ไม่ได้อยากจะนอนด้วยนะคะ แต่ว่าคนอื่นเขาก็ไม่อยากนอนด้วยมากกว่า”
จริงมั้ยในยุคนั้นหลายคนไม่กล้านอนกับแม่ตุ๊ก เพราะเขาเม้าธ์กันว่าแม่ตุ๊กฤทธิ์เยอะ ? ดี้ : “ไม่ต้องนอนหรอกแค่เดินเฉียดเขายังไม่อยากเดินเลย แล้วช่างแต่งหน้าทุกคนกลัวมาก พี่ตุ๊กเดินผ่านต้นไม้ ต้นไม้ยังตายเลย เขาเป็นขนาดนั้น ออร่าอำมหิตรอบตัวค่ะ”
ตุ๊ก : “แม่ดุ มีออร่าของความอำมหิตเยอะมาก เพราะแม่ตาดุแล้วเสียงแม่ก็ดุ แล้วเป็นคนพูดมึงมาพาโวย เอะอะโผงผางพูดตรงมาก ตรงซะจนแบบว่าคนบางคนกลัว”
ดี้ : “ไม่ใช่คนบางคนกลัว คนทุกคนกลัวค่ะ เวลาไปถ่ายละครต่างประเทศ เขาก็มากระซิบว่าพี่ดี้ๆ ไปนอนกับพี่ตุ๊กได้มั้ยคะ ทำไมต้องเป็นฉันวะ แต่ก็ไป เราก็หน่วยกล้าตายเพราะเรารู้จักเขามาตั้งแต่เราเป็นนางแบบ พอจับไปนอนด้วยกันก็มีวีรกรรมค่ะ”
ตุ๊ก : “นางนี่ติดขนมจะต้องกินขนมกรุบกรอบตลอดเวลา แต่เราเป็นคนหูไวมากบอกว่าอย่าทำเสียงดังนะเพราะหูไวมากเลย นอนนิ่งๆ นะ ตี 5 ตื่นขึ้นมาทะลึ่งอยากจะกินขนม มันก็กลัวเราตื่น มันก็เข้าห้องน้ำไปแอบกินขนม”
ดี้ : “ไปอเมริกาขนมมันเยอะมาก แล้วจะมีเวลากินตอนไหน กลางวันก็ถ่ายละคร พอหัวค่ำคุณนายแม่นอนแล้ว อยากกินมากย่องไปกินในห้องน้ำ”
อย่างนี้ไม่เรียกว่าฤทธิ์เยอะหรอกแค่มีความเป็นส่วนตัว ? ตุ๊ก : “แต่เมื่อก่อนแม่ดุมาก แต่ไม่ใช่ระรานใครนะ เวลาแม่ดุหมายความว่าแม่เตือนแล้วแม่บอกแล้วแต่ยังทำอยู่”
อย่างเช่นเรื่องอะไร? ตุ๊ก : “อย่างเช่นเรื่องแต่งหน้า คิ้วแม่โก่งให้แม่นิดนึงนะเพราะว่าคิ้วแม่ตรงนะ เอาโก่งให้แม่นิดนึงแล้วเราก็หลับตาให้เขาเขียนไป พอตื่นขึ้นมาคิ้วโค้งเป็นคันธนูเลย อย่างนี้ให้ด่ามั้ยล่ะ ก็บอกแล้วว่าให้โก่งๆ หน่อยไม่ใช่โค้งเป็นแบบนี้ ทำไมไม่ฟังกัน แล้วก็เสียเวลาอย่างนี้ไม่ออกไปเล่นละครหรอกนะ แต่งใหม่”
ดี้ : “แล้วเสื้อหัวยังไง”
ตุ๊ก : “เมื่อก่อนนี้เล่นละครมักจะได้ใส่วิกหัวโตๆ ทรงคุณนายมันถอดเสื้อยากเพราะฉะนั้นเสื้อควรจะเป็นผ่าหลังหรือไม่ก็ผ่าหน้าแล้วเอาเสื้อสวมหัวมาให้ใส่ ใส่ตัวสองตัวก็ไม่เท่าไหร่ใส่ทุกตัว แล้วบอกแล้วขอเสื้อผ่าหน้าหรือไม่ก็ผ่าหลังนะ บอกตั้งแต่ตอนฟิตติ้งแล้วนะอย่าเอาเสื้อสวมหัวมาให้แม่ใส่เพราะแม่ใส่วิกหัวโต มันก็ยังไม่ทำผ่าหน้าผ้าหลังมาให้ มันก็เอาเสื้อสวมหัวมาให้ ได้ ! ไม่เป็นไรฉีกเลยมันจะได้กว้างขึ้น จะได้ใส่ง่ายขึ้น”
แล้วตอนนั้นทีมงานทำยังไง ? ตุ๊ก : “ก็ลนลานสิลูก เพราะแม่บอกแล้วไม่ใช่ไม่บอก บอกตั้งแต่ฟิตติ้ง บอกดีๆ ด้วย แต่ก็ยังไม่ทำกัน อาจจะเห็นว่าใจดีเกินไปก็ต้องมีฤทธิ์เดชให้เห็นกันซะบ้าง ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมามีทั้งผ่าหน้า มีทั้งผ่าหลัง มีทั้งซิปข้าง”
แต่เรื่องมารยาทเด็กๆ ? ตุ๊ก : “อันนี้ไม่ได้เลย สมมุติแม่เตือนหนู ใครได้ หนูได้ถูกมั้ย แม่ไม่ได้อะไรเลย แต่แม่เห็นว่าแม่เป็นรุ่นพี่ เป็นผู้ใหญ่กว่า แม่ก็จะบอกว่าวัฒนธรรมไทยดีๆ มันเป็นยังไง สมมติหนูเดินมาแล้วแม่นั่งอยู่ แม่หวัดดีอีกมือนึงเขาถือรองเท้า แม่ก็จะบอกเลยว่าไม่ต้องลำบากลูกไม่ต้องไหว้แม่ก็ได้ แต่ถ้าจะไหว้แม่วางของแล้วไหว้สองมือ แม่ก็จะบอกแบบนี้แต่ด้วยวิธีการเราอาจจะพูดตรงเกินไปหรือหน้าเราอาจจะดุเกินไป มันก็จะคิดว่าเราเป็นคนวีน แม่เป็นคนชอบแก้ไขแก้ในสิ่งที่มันผิดให้มันถูกต้อง”
แม่เคยเจอรุ่นใหม่ที่มาแล้วไม่ไหว้มั้ย ? ตุ๊ก : “มี ไม่ไหว้ ไม่ไหว้ก็ไม่พูดด้วยทั้งวัน หันมาพูดกับกูกูก็ไม่พูดด้วย”
แม่เคยสอนมั้ย ? ตุ๊ก : “ไม่สอนเขาโดยตรงเพราะเด็กพวกนี้เป็นเด็กรุ่นใหม่ซึ่งแรง สอนไปแล้วอาจจะมีเรื่องกันภายหลังว่าพ่อแม่สอนเคยมั้ยมารยาทอ่ะ รู้จักคำว่ามารยาทมั้ย แล้วก็หยุดแค่นี้ แค่นี้มันก็สะอึกแล้ว”
สมัยอดีตอาจจะต้องมีวีรกรรมอะไรบางอย่างที่พี่ดี้จะต้องดึงให้แม่ลงมามั้ยให้ใจเย็น? ดี้ : “คุณคะ ดึงไม่ได้หรอกค่ะ เอาไม่อยู่หรอก เขามักจะเรียกดิฉันให้ไปอยู่ในเหตุการณ์อะไรประหลาดๆ ช่วงแกเลือดจะไปลมจะมา บางทีก็มีงานโชว์ตัว เปิดผับ อันนี้ผับของคุณแม่เองอาจจะฤทธิ์ได้เยอะนะคะ แต่ก่อนแกเปิดผับลาติน แกไม่พอใจดีเจหรืออะไรไม่รู้ แกเล่นลาตีนเลย กระโดถีบฝรั่งเลยอย่างนั้นเลยค่ะ”
ตุ๊ก : “โมโหมาก เราเป็นเจ้าของผับมันเป็นผู้จัดการ วันเกิดเราเราเอาเหล้าไปเปิดมันจะมาคิดค่าเปิดขวดเรา เราเป็นเจ้าของร้าน จะบ้าหรือเปล่า”
ดี้ : “แล้วคุณแม่ก็กระโดดถีบแบบลืมตัว จากผับลาตินเป็นลาตีนค่ะ กระโดดถีบโดนกระจกแล้วก็ร่วงลงมาขาเคล็ด”
ตุ๊ก : “แต่ถีบไม่โดนมัน โดนกระจกแล้วเป็นไง ขาเคล็ดไปสามวัน”
ดี้ : “แล้วก็มีตอนเลือดจะไปลมจะมา คนเขาเชิญไปดูโชว์พัทยาแกก็อุ้มลูกไปด้วยตัวเล็กๆ(ลูกหมา) แกก็เดินจูงไป เขาก็บอกว่าเข้าไม่ได้คุณดวงตาเพราะว่าหมาเดี๋ยวเห่า “เห่าอะไรคะลูกฉันไม่ร้องซักกะแอะนึง ลูกฉันไม่พูด ลูกฉันเรียบร้อย” แต่ไม่ได้ครับ มันมีบอมบ์ด้วยเดี๋ยวหมาคุณเห่า “ฉันบอกว่าไม่เห่า ก็ไม่เห่าสิ เดี๋ยวคอยดูนะ ถ้าลูกคนมันเข้าไปได้นะแล้วมันแหกปากร้องนะ ฉันจะเหวี่ยงให้” คุณว่าดิฉันสามารถไปปรามอะไรเขาได้มั้ยคะ”
ตุ๊ก : “ไม่ให้เข้าก็ไม่เข้า ไม่ให้เข้าก็ไม่ดู(หัวเราะ)
คนเผาเขาเนี่ยก็มีวีรกรรมไม่แพ้กันนะ แม่ดี้เองก็เหมือนกันนะ? ดี้ : “ไม่ใช่ดิฉันค่ะ ก็ตามคุณแม่เขาไปค่ะ ดิฉันจะรู้เรื่องอะไรล่ะ เรื่องคุณแม่ทั้งนั้น”
ตุ๊ก : “เรื่องของเรื่องก็คือ พี่ตุ๋ย นวลปรางค์ เขาจะไปเมืองนอกจะไปแต่งงานก็เลี้ยงส่งกันบ้านพี่น้อย ฉวีวรรณ ก็ชวนเพื่อนมากินข้าวกัน เครื่องตุ๋ยออกตอนเช้าทำยังไงล่ะ กะจะฆ่าเวลาก็เล่นไพ่กัน เล่นฆ่าเวลารอส่งพี่ตุ๋ยขึ้นเครื่อง ปรากฏว่าแต่ละคนที่ไปก็รวยๆ กันทั้งนั้นก็ขับรถกันไปคนละคัน จอดหน้าบ้านพี่น้อยแบบยาวเฟื้อยเลย จะเช้าแล้วมันยังไม่กลับบ้านกันเลยแล้วก็เสียงดังกัน คนแถวนั้นก็คงได้ยินเสียงก็ไปแจ้งตำรวจ ตำรวจมาเป็นคันรถเลย”
ดี้ : “เราก็เพิ่งแต่งงาน เล่นไพ่ก็ไม่เป็นไปนั่งดูเป็นผีข้างบ่อน เขาก็มาฝากถือ”
ตุ๊ก : “ที่ตำรวจเข้าบ้านได้เป็นเพราะเจ้าของบ้าน พอเปิดประตูเท่านั้นแหละตำรวจสวนเข้ามาเลย”
ดี้ : “แล้วพี่หันหลังให้ประตูคนอื่นวิ่งไปหมดแล้ว นี่ก็ยังนั่งเรียงไพ่อยู่ เหมือนในละครเลย ตำรวจก็มาสะกิดไหล่เรา ก็บอกว่าเดี๋ยวสิพี่ยังเรียงไม่ได้เลย พอเงยมาหายไปไหนกันหมดแล้ว ดิฉันโดนมือหนึ่งเลยถืออยู่คามือเลย ต้องไปโรงพัก”
แล้วพวกแม่หนีไปไหนกัน ? ตุ๊ก : “วิ่งไปหลังบ้าน พี่หน่อย วันทิพย์ ปีนรั้วขึ้นไป ตกลงไปในทุ่งน้ำคลำ เหมือนในหนังเลย เข็ดเลยไม่เอาแล้ว ตอนนั้นเล่นไม่ได้เอาตังค์จริงจัง เล่นฆ่าเวลา”
กี่ปีมาแล้ว ? ดี้ : “30-40 ปีมาแล้ว ยังไม่มีลูก เพิ่งแต่งงานใหม่ๆ”
เปรี้ยวกันมากแต่ก็มีจุดเปลี่ยนเรียกว่าจุดหักจนทำให้แม่ตุ๊กใจเย็นเป็นแม่พระเลย ? ตุ๊ก : “มีเพื่อนที่หวังดี เขาเห็นเราวี้ดบึ้มๆ แล้วก็ได้ยินจากคนนอกๆ มาพูด เขาก็มาเตือนเรา ก็บอกว่านี่แกแรงไปแล้วนะ ใครเขากลัวไปหมดแล้ว เหมือนเรามองไม่เห็นตัวเอง ก็ฟังเพื่อน เพื่อนคนนี้เป็นเพื่อนรักมาก เขาก็เตือนเรา เราก็ฟังเขา แล้วก็มานั่งมองตัวเองก็จริงนะ เพราะว่าเวลาที่เราโกรธหรือวี้ดบึ้มไป ทุกครั้งที่วี้ดบึ้มไปแล้วแม่จบนะ แม่ไม่มีต่อเนื่องมานะ คือจบ ณ ขณะนั้นเลย แต่ว่าทำแบบนี้ทุกครั้งก็เสียใจทุกครั้งว่าเราไม่น่าพูดแรงขนาดนี้ ทำไมเราไปพูดแบบนี้ใส่เขา ไม่น่าเลย ก็คิดตลอดเวลา
จนกระทั่งมีเวลาได้ไปเข้าวัดด้วย พระบอกว่าไปเข้าวัดไม่ต้องแก้ไขใครเลย แก้ไขตัวเองปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตัวเอง พอได้เข้าวัดมันก็ดีขึ้น 20 ปีหลังแม่ฤทธิ์หมดแล้ว คือยังมีฤทธิ์อยู่แต่ไม่ค่อยแสดงฤทธิ์เดชเท่าไหร่”
เข้าวัดหลายรอบมั้ยกว่าที่เรารู้สึกว่าเบาลงแล้ว ? ตุ๊ก : “พอดีปีนั้นเป็นปีที่ว่างงาน ตกงาน ก็เลยได้ไปวัดบ่อยมาก ไปวัดแทบจะทุกเดือนเลย”
แม่ตกงานจากอะไร ? ตุ๊ก : “ตกงานจากไม่มีงานอะไรเลย อาจจะไปวี้ดบึ้มมาก อาจจะนิสัยส่วนตัวเราด้วยก็ได้ เป็นพิธีกรอยู่ 5 รายการก็โดนเอารายการคืนไปมั่ง โดนเปลี่ยนพิธีกรบ้าง เลิกรายการบ้าง 5-6 รายการ มันประดังหมดเลยในเวลาเดียวกัน มันก็ทำให้เราได้กลับมาพิจารณาตัวเองว่าเป็นเพราะนิสัยส่วนตัวเราด้วยหรือเปล่า”
แต่สุดท้ายแม่ก็กลับมาเป็นที่รักของทุกคนเหมือนเดิม ? ตุ๊ก : “ก็หลังจากเข้าวัดได้ปรับปรุงตัวเอง เมื่อเราปรับปรุงตัวเองได้ กลายเป็นว่าคนเข้าหาเรามากกว่าเมื่อก่อน ซึ่งเมื่อก่อนนี้คนหนีเราซึ่งเราก็ไม่รู้ตัว แต่พอคนเข้าหาเรามากขึ้นมันไม่เหมือนเมื่อก่อนนะ มันดีกว่าเมื่อก่อนเยอะมากเลย แม่ก็เลยไม่มีฤทธิ์ไม่มีเดช”
เรื่องผู้ชาย คู่นี้มีอะไรคุยกันหมดทุกเรื่อง ? ตุ๊ก : “2 คนนี้คุยกันไม่มีสูงกว่าสะดือเลย ต่ำกว่าสะดือตลอด”
หาหนุ่มให้กันมั้ย ? ตุ๊ก : “มีๆ ไอ้นี่ก็พยายามจะหาให้ แม่บอกแม่มีไม่ได้ แม่แห้งผากไปหมดแล้วลูก ตั้งแต่หมดประจำเดือนแม่ก็แห้งผากเลย แล้วแม่ก็ไม่มี ผ. เลย เพราะฉะนั้นมันจะไปฉ่ำแฉะอยู่ได้ยังไงล่ะ มันไม่ได้ มันแห้งไปหมดแล้ว”
ดี้ : “แต่วันดีคืนดีนางไปดูเรื่อง 50 Shades แล้วก็โทรมาว่า “นังดี้ฉันดูเรื่องนี้ฉันชักเริ่มมีปริ่มๆ”
ตุ๊ก : “คิดว่าตัวเองหมดแล้ว(หัวเราะ)”
ดี้ : “ชอบโซ่แซ่กุญแจมือก็ไม่บอก แต่ต้องเข้าใจว่าอันนั้นพระเอกหล่อ แต่ในชีวิตจริงหาในประเทศไทยก็ไม่ได้”
ตุ๊ก : “เขามีเพื่อนเป็นฝอเยอะ พยายามจะหาฝอให้ บอกไม่เอา ฉันไม่เอา จริงๆ ฉันแค่ต้องการเพื่อนคุยจะฝึกภาษาอังกฤษเท่านั้นเอง แต่นังนี่เป็นคนอยู่คนเดียวไม่ได้ต้องมีใครอยู่เคียงข้างตลอดเวลา เวลามันมีใครนะ ไม่เห็นหัวเลย หายไปกับ ผ. มันเลย”
ทุกวันนี้อายุ 60 ก็ยังเป็นแบบนี้เหรอ ? ตุ๊ก : “เป็นอย่างนี้ ทุกวันนี้ถ้าเขามีแฟนไม่เห็นหัวพี่เลย ไม่มีใครในโลกนี้ มันอยู่กับ ผ.สองคนเลย มันอยากมีแฟนเพราะมันไม่อยากอยู่คนเดียวแล้วเขาก็ยังสวยฉ่ำอยู่ แม่ไม่มีปัญญาหาให้แล้วไงเพราะว่าแม่ไม่มีสังคมที่จะไปเจอผู้ชายที่ไหน”
แสดงว่าพี่ดี้ยังเปรี้ยวอยู่ ? ดี้ : “ตะขาบของเขามีสองตัว ถ้าตะขาบความเปรี้ยวส่งมาทางนี้ ถ้าตะขาบความดุส่งไปให้รัญญา”
หนิง : “แต่ตอนนี้เขาไม่ดุแล้วนะ แม่หนูตอนนี้พุทโธ ธัมโม สังโฆ ทำกับข้าวกินทั้งวัน”
ตุ๊ก : “แฟนคนปัจจุบันเจอกันในวัดค่ะ แม่อยู่ในเหตุการณ์ค่ะ ทิ้งทุกอย่างไปอยู่ลำพูนเลย”
ขอไปโหมดคุณแม่หวงลูกบ้าง คุณแม่เปรี้ยวขนาดนี้แต่มีลูกชายทั้งคู่ ? ตุ๊ก : “คนนี้ไม่เท่าไหร่เรื่องหวงลูก คนนี้เก่งมาก เขาเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวที่เก่งมากเราชื่นชม มีลูกชายวัยรุ่นสองคนเอาลูกอยู่”
ถ้าเราไม่ชอบแฟนลูกที่มาล่ะ ? ดี้ : “ไม่เคยไม่ชอบเลย”
ตุ๊ก : “แต่แม่มีวีรกรรม”
ดี้ : “จะเล่าให้ฟัง “พี่ตุ๊กเมื่อไหร่ไอ้เตอร์มันจะแต่งงานมีเมีย” “มึงอย่ามาพูดคำหยาบนะ” อย่างนี้เลย ไม่ได้เลยนะองค์ลงเลย”
เพราะอะไร ? ตุ๊ก : “เพราะหวงไม่อยากให้ลูกแต่งงาน ไม่อยากให้ลูกไปจากชีวิตเรา สมัยก่อนเวลาลูกมีแฟน สมมติหนิงมาบ้านแม่แล้วแม่ไม่ชอบหนิงแต่งตัวก็โป๊ “ดี้ สบายดีเหรอลูก แม่ไม่เจอดี้นานแล้วนะ” จริงๆ ชื่อหนิง ตั้งใจเรียกผิดชื่อเลย เขาก็ไปทะเลาะกันไม่เกี่ยวกับเรา เวลาห้ามลูกเที่ยวกลางคืน ดิฉันล็อกห้องลูกจากข้างนอกเลย เช้ามาแม่ก็ไขให้ไปเรียนหนังสือ”
เห็นว่าถ้าผู้หญิงมาบ้านแล้วไปนั่งอยู่บนเตียง ? ตุ๊ก : “เคยมีวันต้องไปเรียนหนังสือ เปิดเข้าไป อ้าว เตอร์ทำไมไม่ไปเรียนหนังสือหันเหลือบไปเห็น “อ้าวพ่อแม่ไม่สั่งสอนหรือไงนี่แม่ จะไหว้มั้ย ไหว้คนเป็นมั้ย พ่อแม่ไม่สั่งสอน แล้วเป็นผู้หญิงยังไงนุ่งกางเกงปิดจิ๋มนิดเดียวขึ้นไปนั่งอยู่บนเตียงผู้ชายแบบนี้ ทำไมไม่ใส่ชุดนักเรียนวันนี้มันเป็นวันเรียนหนังสือ ไปเดี๋ยวนี้เลย ออกไป” ไปเลยไม่กล้ากลับมาเลย หายเลย”
แล้วพี่เตอร์เขาไม่งอนเหรอ เขาไม่รู้สึกว่าอยากจะมีชีวิตส่วนตัว ? ตุ๊ก : “ก็แม่ลูกก็ทะเลาะกัน”
แต่สุดท้ายเขาก็อยู่กับเรา ? ตุ๊ก : “อยู่ เพราะแม่บอกว่าสิ่งเดียวที่แม่ขอร้องเตอร์คืออย่าทิ้งแม่ไปไหน เพราะว่าแม่ไม่มีใคร เรามีกันอยู่แค่สองคนนะลูก ลูกก็คิดดูแล้วกันเตอร์อยู่กับแม่มาตลอด เราไม่มีใครเรามีกันและกันเท่านั้น เพราะฉะนั้นเตอร์จะทิ้งแม่ไปไหนได้ยังไง แม่ก็ทิ้งเตอร์ไปไหนไม่ได้หรอก”
แล้วลูกมีมาขอร้องแม่มั้ย? ตุ๊ก : “ให้แผ่วลงหน่อย ตอนนี้แม่แผ่วลงมาก ตอนนี้เตอร์เขามีแฟนนะ คบกันมา 10 กว่าปีแล้วแม่ก็ไม่ได้อาละวาดใส่เขาเลย นานๆ ทีนึง ฤทธิ์เดชแม่ยังเต็มเปี่ยมแต่แม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ รู้จักปล่อยวางมากขึ้น”
แสดงว่าลูกสะใภ้แม่คนนี้ต้องมีอะไรดีถึงทำให้แม่เปิดใจ ? ตุ๊ก : “เขาไม่มีฤทธิ์เดช เขาไม่มีอะไรที่จะทำให้เรารู้สึกไม่ชอบขี้หน้า เขาก็มาในยามที่เราแผ่วแล้วด้วย เพราะฉะนั้นเราไม่จับผิดอะไรเขา เมื่อก่อนนี้นิดนึงก็ไม่ได้ คนนี้เราก็ปล่อยเขา พี่เตอร์รัก แล้วเขาก็ดูแลลูกเราดียามเจ็บไข้ได้ป่วยดูแลพี่เตอร์ดี เราไม่สบายเป็นโควิด เขาก็ดูแลเราดี รักเขาเหมือนเป็นลูกสาวคนนึง”
ดี้ : “แล้วทำไมไม่เอาหลานที่เป็นคนคะ”
ตุ๊ก : “เพราะว่าไม่ชอบเด็ก ไม่ชอบเลี้ยงเด็ก ไม่ชอบได้ยินเสียงเด็กร้องไห้ไม่ไหวมันจี๊ดหัวใจและอีกอย่างไม่อยากหลงรักหลาน มันจะทำให้เราไปไหนไม่ได้ ไม่มีความเป็นอิสระ รักลูกยังแค่นี้แล้วรักหลานจะแค่ไหน”
ดี้ : “รักหมาก็ไม่ธรรมดา”
ตุ๊ก : “พี่ไก่ วรายุฑ บอกว่า มึงอ่ะเลี้ยงหมาก็เสียหมา(หัวเราะ)”
มูแบบตัวแม่ที่บอกว่าปิดทองที่ของลับเป็นเรื่องจริง ? ตุ๊ก : “แรกๆ ก็ไปปิดที่หน้าก่อน ปิดที่หน้าก็ปิดทุกรูขุมขนเลยนะ หันมาไม่รู้ว่าใครเป็นใคร รู้แต่ว่าทองเต็มไปหมดพาลูกไปแปะด้วย ไปปิดเพื่อความเฮงเป็นสิริมงคลมีเสน่ห์มหานิยม อันนี้เป็นพระปิดให้เป็นพุทธคุณ ไม่เล่นสายดำเลย
แต่ว่ามีอยู่ทีนึงมีแม่หมอเขามาออกรายการ เราสัมภาษณ์เขาเราก็ศรัทธาในตัวเขา เขาชวนไปที่อาศรมเขา เป็นนักแสดงต้องมีเสน่ห์กับผู้ชายกับใครต่อใครก็ไปเลย ปรากฏว่าเขาบอกว่ามีสองชุดนะจะทำชุดใหญ่หรือชุดเล็ก ก็พาเพื่อนไปคนนึง เราเอาชุดใหญ่แล้วกันเพื่อนเอาชุดเล็ก ชุดใหญ่รู้สึกจะหมดไปหมื่นห้า ชุดเล็กก็ห้าพัน เขาก็ร่ายคาถาโน่นนี่แล้วเขาก็เอาทองมาแปะบนฝ่ามือเรา 108 แผ่น ในมือนี่ทองไปหมดเลย
พอปิดเสร็จเขาก็ท่องคาถา แล้วเขาก็บอกว่าให้ไปแปะที่กำเนิดบุตร เราก็อะไรนะคะ ไปแปะที่กำเนิดบุตรเราก็ชี้นี่เหรอคะ เราก็เข้าห้องน้ำก็ถูๆ ถูเอง ทองอร่ามฟูฟ่องไปหมดเลย เราออกมาเราก็ไม่บอกเพื่อนว่าเราทำอะไร ไอ้นี่พอออกมาก็หัวเราะ อร่ามมั้ยมึง อร่ามมาก(หัวเราะ) พออกจากอาศรมไปเพื่อนคนนี้บอกว่า “มึงว่าเราโดนหลอกกันมั้ยวะ กูว่าป่านนี้แม่หมอไปกินหูฉลามแล้วล่ะ ของมึงหมื่นห้า ของกูห้าพัน”
ขอบคุณแหล่งที่มา : Orange Mama
ขอบคุณแหล่งที่มา : khaosod
ความคิดเห็น