ลิลลี่ ตอบชัดเคยคบอดีตประธานสภาจริง พร้อมเผยสาเหตุที่ทำให้ต้องเลิกกัน
- ลิลลี่ เหงียน ยอมรับว่าเคยคบกับอดีตประธานสภา แต่ไม่ขอเอ่ยชื่อ เพราะเลิกกันไปนานแล้ว และไม่ได้เกี่ยวข้องกับ ทักษิณ ไม่เคยรู้จัก ขอโทษที่ทำให้ถูกพาดพิงถึง
- ไม่เคยเป็นเมียน้อยใคร ตอนที่คบกับอดีตประธานสภานั้น อีกฝ่ายได้เลิกกับอดีตภรรยาแล้ว ส่วนตนก็เลิกกับอดีตสามี ตอนนั้นไม่มีใคร คบกันด้วยความบริสุทธิ์ใจ เปิดเผย
- เรื่องต่างด้าว กำลังทำเรื่องขอบัตรประชาชนตามกระบวนการทางกฎหมายอยู่
หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เอิร์ก เลเดอเรอร์ ออกมาแฉ ลิลลี่ เหงียน รวมไปถึงเปิดเผยว่า ลิลลี่เป็นเมียน้อย งานนี้ทำให้ลิลลี่ต้องตั้งโต๊ะแถลงข่าวเพื่อตอบโต้กลับอีกฝ่ายที่ตึกไทยรัฐ อาคาร 17 ซึ่งลิลลี่ได้อธิบายชัดเจนว่า
- ลิลลี่ แจงอดีตแฟนของตนคนที่ 3 เป็นนักการเมือง ท่านไม่เคยมีภรรยา เป็นอดีตประธานสภา
- ที่เคยพูดว่าอีกฝ่ายเป็นประมุขของประเทศ เพราะตนเองเข้าใจผิด เพราะคิดว่าตำแหน่งประธานสภาก็เหมือนตำแหน่งประมุขของประเทศไทย
- แต่ลิลลี่ไม่ขอเอ่ยถึงชื่อของป๊า (แฟนเก่าที่เป็นอดีตประธานสภา) แม้จะพูดชื่อได้ เนื่องจากเลิกกันมานานกว่า 10 ปี ไม่อยากให้ป๊าต้องมาลำบากใจในเรื่องนี้ คิดว่าหลายคนคงทราบ จึงไม่ขอเอ่ยชื่อ
- ยืนยันเลิกกับแฟนเก่าก่อนมาเจอกับป๊า และป๊าก็ได้เลิกกับอดีตภรรยาแล้ว ไม่มีใครทั้งคู่ คบกันด้วยใจบริสุทธิ์ ไม่มีผิดศีลธรรมใดๆ คบกันอย่างเปิดเผย ภาคภูมิ อยู่ด้วยกันหลายปี
- และที่สำคัญ ลิลลี่อยากให้ทุกคนรู้ว่าตนไม่ได้เป็นเมียน้อยใคร เพราะตอนเด็กมีปม พ่อแม่แยกทางกัน พ่อเอาคนใช้มาเป็นภรรยา มีแม่เลี้ยงใจร้าย แม่เลี้ยงทำให้แม่ของตนเสียใจ ไม่อยากเป็นแบบนั้น มันคือปมและเป็นกฎเหล็กของตนเอง
- กรณีที่ถูกพาดพิงถึง ทักษิณ ชินวัตร ขอโทษ ไม่มีเจตนา ไม่รู้จักอีกฝ่ายเป็นการส่วนตัว เคยเห็นแต่ข่าว ไม่เคยเจอตัว ต้องขออภัยที่ทำให้เดือดร้อน
- เรื่องปืนที่จะเอาไปขู่เอิร์ก คู่กรณี เป็นปืนของเล่นของลูกชาย ตัวเองไม่เคยทำกิริยาแบบนั้นอยู่แล้ว
- เอิร์กจะใส่ร้ายตนอย่างไรก็ได้ ยอมรับได้หมด เพราะมันคือนิสัยของอีกฝ่ายอยู่แล้ว แต่อย่ามาแตะต้องผู้มีพระคุณอย่างอดีตสามีและอดีตแฟนทั้ง 3 คนของตน
- สาเหตุที่ทำให้เลิกกับป๊า เพราะทำตามกฎที่อีกฝ่ายให้ไว้ไม่ได้ เลิกกันเพราะเงิน เพราะใช้จ่ายเงินมาก เนื่องจากป๊าเป็นคนที่อุปถัมภ์ตนน้อยที่สุด เพราะต้องการสอนให้รู้จักทำงาน แต่ตนทำตามข้อตกลงไม่ได้ก็เลยเลิกกัน
- ไม่เคยยุ่งกับสารเสพติดอย่างอื่น แต่เคยดูดกัญชากับอดีตสามี แต่ตอนนี้เลิกแล้ว ที่ตอนนั้นเล่นเพราะรักสามี
- เรื่องหลักฐานที่เอิร์กเอามาแฉ โชว์เงินที่คอนโดฯ เป็นเงินที่อีกฝ่ายมาเอาจากตนไป ตอนนี้ยังไม่ได้เงินจากเอิร์กสักบาท
- ลิลลี่จะฟ้องเอิร์ก เพราะรักลูก ไม่อยากให้ลูกถูกเพื่อนๆ เข้าใจผิดว่าแม่เป็นเมียน้อยใคร และตนยังเคารพรักอดีตสามีและอดีตแฟนทั้ง 4 คน จะไม่ให้ใครหน้าไหนมาแตะต้องลูกและคนที่ตนรักและเคารพ
- ดีใจที่มาเป็นกระแสอีกรอบเพราะเอิร์กออกมาแฉ เพราะยังคุยกับผู้เสียหายคนอื่นอยู่ ผู้เสียหายบางรายเครียดจนเป็นซึมเศร้า จากการที่เสียเงินไปกับเอิร์กหลายล้าน ส่วนตนก็ต้องผ่านความทุกข์และเกือบฆ่าตัวตาย ร้องไห้ตลอดเวลาหลายเดือน แต่อีกฝ่ายก็ยังไม่มีความสำนึก
- อยากหาตัวนางงามที่ส่งข้อมูลมาแฉ พร้อมทั้งสาบานต่อหน้าสื่อว่า ถ้าสิ่งที่ตนเองพูดไม่เป็นความจริง ขอให้ตกนรกไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด แต่ถ้าพูดจริงขอให้คนที่ใส่ร้ายป้ายสีรับผลการกระทำของตัวเองจากอำนาจกรรมของเขาที่เป็นคนก่อด้วย
- เรื่องเป็นต่างด้าว ตนเป็นคนมีการทำงาน อดีตสามีก็เคยมีบริษัท ที่สำคัญลูกชายเกิดประเทศไทยที่โรงพยาบาลพระราม 9 ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนที่จะขอบัตรประชาชน น่าจะ 3-5 ปี และตนทำตามกระบวนการ พูดตามหลักความจริง ถ้าป๊า (อดีตสามี) เป็นคนไม่ดี คงได้บัตรประชาชนไปนานแล้ว
- อยากให้พี่เอิร์กกลับมา วันนี้ยังสามารถยกโทษให้ได้ อีกฝ่ายเป็นคนเก่งและฉลาด เนื้อเดิมเป็นคนบริสุทธิ์ แค่หาทางออกไม่เจอ กลับมาชดใช้ กลับมายอมรับผิด แล้วเริ่มต้นใหม่ดีกว่า ตนยังเป็นกำลังใจให้ ไม่โกรธไม่เกลียด อโหสิกรรมให้ และอยากให้อีกฝ่ายอโหสิกรรมให้ด้วย
- เรื่องเพจปลอมที่เกี่ยวกับเว็บพนัน ขอแจ้งว่าไม่เคยรับงานเว็บพนันใดๆ ใครเอาชื่อและรูปไปแอบอ้าง จะแจ้งความดำเนินคดี ไม่ใช่สายดำ ไม่ใช่สายเทา
- อี้ แทนคุณ ชี้แจงเพิ่มเติมว่า คำว่าประมุขของประเทศที่ลิลลี่ใช้ ไม่ว่าจะเป็นลาว หรือ เวียดนาม จะมองว่าผู้ที่เป็นผู้บริหารระดับสูงสุดของประเทศ จะใช้คำว่าประมุข ซึ่งประมุขที่ลิลลี่หมายถึง คือประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ ไม่ได้เกี่ยวกับทักษิณ
- อี้ แทนคุณ แจ้งว่า เอิร์กเป็นผู้ต้องการและเป็นจำเลยในศาลคดีฉ้อโกงประชาชนด้วยการหลอกลงทุน ลิลลี่โดนไป 50 ล้าน เงินสดประมาณ 36.8 ล้าน หลอกนักลงทุนคนอื่นๆ อีก รวมๆ 500 กว่าล้านบาท
- ตอนนี้ได้หลบหนีไปต่างประเทศ ได้ประสานงานกับตำรวจสากลที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และได้หมายจับมาแล้วเป็นหมายแดง เจอที่ไหนจับที่นั่น
- ตอนนี้รู้แล้วว่าอยู่ประเทศไหน แต่ยังไม่บอก และรู้ที่อยู่ชัดเจน เหลือแค่ประสานให้ตำรวจทางนั้นช่วย และถ้ามีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน ตำรวจก็จับตัวและส่งกลับมา
- ถ้าไม่ได้ทำผิดก็อยากให้กลับมาสู้คดี และให้ศาลเป็นคนตัดสิน เขายังมีสิทธิ์ในการต่อสู้อยู่
- ยืนยันจะดำเนินทุกคดีกับเอิร์กที่ได้กระทำต่อลิลลี่และทุกคนที่เกี่ยวข้อง ต้องตรวจสอบหลักฐานทั้งหมดว่าเขาทำกี่กรรม กี่วาระ กี่โอกาส อย่าคิดว่าอยู่ต่างประเทศแล้วจับไม่ได้ อี้ แทนคุณ จะเป็นคนหาวิธีการจับตัวกลับมาให้ได้
- อยากให้เอิร์กหยุดพฤติกรรมคุกคามลิลลี่และคนอื่น บิดเบือนใส่ร้ายความเท็จและหมิ่นประมาทต่างๆ แล้วมาคุยกัน ผู้เสียหาย 40-50 คน อยากได้เงินคืน อย่าหนีเลย ต้องหนีตลอดชีวิต ความทุกข์ทรมานจากการหนี มันจะหลอกหลอนคุณไปชั่วชีวิต ไม่มีทางพ้น หนีกฎหมายได้ แต่กฎแห่งกรรมที่ทำไว้ จะเป็นบาปกรรมไปตลอดชีวิต
ขอบคุณแหล่งที่มา : thairath
ความคิดเห็น