'ปู ไปรยา' เล่านาทีช็อก โจรตามปล้นเครื่องเพชรมูลค่า 200 ล้านที่แอลเอ รีวิวชีวิตหลังแต่งงาน

‘ปู ไปรยา’ เล่านาทีช็อก โจรตามปล้นเครื่องเพชรมูลค่า 200 ล้านที่แอลเอ รีวิวชีวิตหลังแต่งงาน

กลับมาไทยให้แฟนๆได้หายคิดถึง สำหรับ นางเอกสาวเซ็กซี่ ปู ไปรยา สวนดอกไม้ ล่าสุด วันที่ 22 พ.ค.67 ได้มาร่วมงานเปิดตัวพรีเซนเตอร์ A SECRET ของ เอ ศุภชัย ที่ เบเนดิก สตูดิโอ ก็ได้อัพเดตทั้งเรื่องชีวิตที่เพิ่งแต่งงานไปได้ไม่นาน รวมถึงเหตุหวิดถูกโจรปล้นที่แอลเอ.

รีวิวชีวิตหลังแต่งงาน?
“แฮปปี้ค่ะ มีความสุข”

บินไป-กลับ หลายครั้งตั้งแต่ต้นปี?
“ใช่ๆ น่าจะ 6 รอบแล้วมั้งคะ ยังไม่ครึ่งปีเลย มีบินกลับมาถ่ายโฆษณา ตอนนี้เริ่มทำบ้านที่แอลเอแล้วด้วย ก็ต้องดูงานที่โน่น และบินกลับมาถ่ายงานที่ไทยด้วย บินไม่หยุดเลยปีนี้ อย่างงานที่โน่นก็มีงานแคส มีโปรเจ็กต์หนัง ซีรีส์ ส่วนสามีก็ทำงานหนักมาก ไปดูไบ อินเดีย เขาบินเยอะกว่าปูอีก ต่างคนต่างบิน ก็ชินแล้ว ก็เจอกันทุก 2-3 อาทิตย์ บินไปเจอกันสักที่ แต่ตั้งแต่คบกันก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว เป็นคู่ที่อินกับงาน ปูก็พูดตลอดว่าผู้หญิงต้องทำงาน เพราะมันคือตัวตนเรา ถ้าหยุดทำงาน ไม่ช่วยเขาทำอะไร เขาพูดกับปูเวลาปูล้มเขาก็จะช่วยรับปู ปูก็จะบอกเขาว่าถ้าเราล้มล่ะ ใครจะช่วยรับเรา เพราะฉะนั้นปูต้องทำงานด้วย”

มีเวลาหวาน?
“จริงๆ เราไม่ใช่คู่ที่หวานกันแต่แรก เขาไม่ใช่สายโรแมนติก จะเป็นสายจริงจังนิดนึง แต่เวลาที่เรามีด้วยกันจะเป็นเวลาที่มีคุณภาพ เราไม่ค่อยทะเลาะกัน เขาเป็นผู้ใหญ่มาก ไม่มีกะหนุงกะหนิง ไม่มีขี้หึง ปูแฮปปี้มากแบบนี้ ซึ่งปูก็ยังมีแรงทำงานอยู่ มันก็แล้วแต่คู่ บางคู่อยู่ด้วยกันทุกวันก็มีทะเลาะกัน บางคู่ก็อยู่แบบนี้ ต่างคนต่างทำงาน ปูเชื่อว่าถ้าปูหยุดทำงานเลยมันก็ไม่ใช่ปู หยุดทำงานแล้วช้อปปิ้งแบบนี้เหรอ เบื่อตาย ทำงานดีแล้ว ซึ่งจริงๆ เวลาที่เราอยู่ด้วยกันเป็นเดือน ปูก็ไม่ทำอะไรเลย เขาก็ทำงานตอนเย็น ปูทำอาหาร ก็ใช้ชีวิตเป็นคู่แต่งงานปกติทั่วไป มีวางแผนเรื่องครอบครัว ทุกอย่างทำเป็นสเต็ปอยู่แล้ว”

บินไป-บินมา ต้องมีเวลาครอบครัวไหม?
“มีค่ะ พวกเกิด วาเลนไทน์ คริสต์มาส ตรุษจีน ต้องเจอกัน ไม่ว่าอยู่ที่ไหนของโลกก็ต้องบินไปเจอกัน เราก็จะให้ความสำคัญตรงนั้น เป็นข้อตกลงทั้งคู่เลย วันเกิดปูเขาก็ต้องมา วันเกิดเขาปูก็ไป ตรุษจีนปูก็ไปอยู่กับครอบครัวเขา วาเลนไทน์เขาก็บินไปแอลเอ ส่วนชีวิตแม่บ้าน ก็ทำค่ะ อยู่แอลเอทำอาหาร จะปลูกสวนผัก เลี้ยงหมา 4 ตัว เลี้ยงไก่เพื่อเก็บไข่สด ปูอินกับการปลูกผัก มีสวนกุหลาบ”

หลายคนมองว่าเราแต่งงานกับเศรษฐีก็ต้องใช้ชีวิตอีกแบบ?
“ปูไม่ใช่สายช้อปอยู่แล้ว และปูก็รู้สึกว่าเงินที่เขาหามาเขาเหนื่อยมาก งานแต่งก็ครั้งนึงในชีวิตก็ทำเต็มที่ แต่หลังจากนั้นถ้าสังเกตปูจะไม่ค่อยทำงานเมืองนอกหรือออกงาน ปูจะทำงานที่ช่วยเก็บเงิน ช่วยสร้างครอบครัว สร้างพื้นฐานให้กับเขา เพราะปูเชื่อว่าเขาทำงานเขาเหนื่อยมาก ปูไม่อยากจะเป็นภาระเขา ส่วนบ้านที่แอลเอก็เป็นบ้านที่เราเลือกด้วยกัน เป็นเรือนหอที่เราเตรียมไว้แล้ว แต่ต้องรื้อทำใหม่”

แพลนมีลูกต้องขยับออกไป?
“อาจจะต้องแป๊บนึง แต่อย่างที่บอกปูไม่ได้กลัว ปูแต่งงานในวัยที่สมควรแต่ง มีลูกก็ในช่วงเวลาเร็วๆ นี้ แต่ว่าตอนนี้ปูอยากช่วยสามีทำงานจริงๆ ปูรู้สึกว่าเราเป็นคนมีความสามารถ แล้วครอบครัวเขาก็ทำงานกันมากหนักมาก เราได้รับเกียรติเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเขา เรามีมือ เขา สมอง ชื่อเสียง ก็ควรจะใช้มันให้ถูก เป็นสะใภ้ที่ทำงาน”

ผู้ใหญ่มีถามเรื่องหลาน?
“ครอบครัวเขาค่อนข้างสมัยใหม่ค่ะ เราก็ไม่ได้บอกว่าจะไม่มีเลย แต่ปูว่าในยุคนี้เรามีในวันที่พร้อม แต่ก็มีการวางแผนไว้ แต่ ณ เวลานี้อย่างที่เห็นคิวงานปูถึงปลายปี งงมากแต่งงานแล้วงานเยอะขึ้นกว่าเดิม พอบินกลับไปแอลเอได้พัก ได้ทำสวน ชิลๆ ทำอาหาร เลี้ยงหมา เพราะอยู่ไทยเหนื่อยมาก อยู่โน้นเลยไม่อยากทำอะไรแล้ว แต่ทำไปทำมางานเยอะมาก งงมาก (หัวเราะ)”

มูสุดพลัง?
“มูสุดพลัง บ้านพี่เอ (เอ ศุภชัย) ก็ปัง ปูจะขอเรื่องงาน สังเกตไหมช่วงหลังรำบ่อยมาก ต้องไปแก้บน ขอ แล้วได้ แต่พระพรหมรำถวายทุกปีอยู่แล้วค่ะ เพราะแม่ขอปูที่พระพรหม เขามีลูกไม่ได้ มียาก แม่ไปขอแล้วได้ ก็เลยบอกว่าทุกปีจะรำถวายเป็นสิริมงคล ปูไม่ได้รำเก่ง แต่ พี่นุ่น วรนุช ส่งครูมาสอน ก็ฝึกรำไปเรื่อยๆ ก็สายมูเต็มตัวค่ะ เมื่อก่อนจะไหว้ๆ แต่อย่างที่รู้ปูสายสวดจักรพรรดิ สายปฏิบัติ นั่งสมาธิ ศีลก็พยายาม แต่ก็มีผิดศีลบ้าง มุสาบ้าง สุราบ้าง (หัวเราะ) แต่ว่าจริงๆ จะพยายามปฏิบัติมากกว่า ห้องพระที่บ้านสักดิ์สิทธิ์สุด”

อะไรที่ทำให้เราหันมามูหนักๆ?
“อาจจะอย่างพี่เอเคยบอก ตอนวัยรุ่นค่อนข้างซ่า อยู่ในวงการบันเทิงเจอหลายเรื่อง การแข่งขันสูง กิเลสหลายอย่าง ก็รู้สึกว่าถ้าเราควบคุมสิ่งภายนอกไม่ได้ แต่เราสามารถคอนโทรลจิตใจตัวเองได้ ซึ่งการมีสติ สมาธิ แล้วปูก็เชื่อว่าคนเราเกิดมาครั้งเดียวสั้นมาก เพราะฉะนั้นถ้าปูจะไปก็อยากอยู่ในกระแสจิตที่ดี แล้วอยากมีสติกับชีวิต เพื่อจดจำเพราะทุกวินาทีมีคุณค่ามาก จะบอกว่าอินกับสายมู ปูว่าทางพุทธศาสนา ทางธรรมะมากกว่า ปีที่แล้วอ่ะบนเยอะ ปีนี้ไม่ค่อยแล้ว ปีที่แล้วอยากได้หลายเรื่องมาก แต่ปีนี้ได้หมดแล้ว”

ในชีวิตยังขาดอะไร ดูสมบูรณ์แบบแล้ว?
“ตอนนี้รู้สึกว่าไม่อยากขาด แต่อยากเป็นผู้ให้มากกว่า ถ้าพูดจากใจรู้สึกว่าที่อินกับการช่วยเหลือสุนัขจรจัด สุนัขพิการ แล้วก็ทุนการศึกษาเด็กที่ทำอยู่ ชอบทำอะไรแบบนี้อยู่แล้ว ไม่ได้รู้สึกว่าอยากได้อะไร ชีวิตรักก็ดี งานก็ดี ครอบครัวก็อยู่ครบ สุขภาพก็แข็งแรง แต่อยากช่วยสามีทำงาน ไม่อยากให้เขารู้สึกว่าเราเข้ามาแล้วเอาเปรียบเขา”

ก่อนหน้านี้มีเหตุการณ์จะโดนปล้นที่แอลเอ?
“คือใส่เครื่องเพชร รถไปทางอื่น ขึ้นคันหนึ่งแล้วเขาสลับเป็นอีกคันหนึ่ง และจะมีรถปาดเพื่อหนีบอดี้การ์ดไปอีก ชุลมุนมาก จุดนั้นพอลงจากรถปุ๊ปคิดในใจว่าโชคดีมาก เพราะเพชรหลายล้านเหรียญ ถ้าโดนจี้คือตายเลย (ฟีลเหมือนหนัง?) ประมาณนั้น อึ้งๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น หลังจากนั้นคิดในใจว่าพอแล้ว

ปูเชื่อนะว่าบางทีเวลาเรามีอุปสรรคอะไรมากๆ รู้สึกว่าที่ผ่านมาวิ่งงานเมืองนอกแล้วเหนื่อย ตอนนี้ปูโฟกัสกับการสร้างครอบครัว ทำธุรกิจ เรียนการแสดง เพราะเป็นศิลปะที่เรายังรักอยู่ รับเรื่องที่อยากเล่นจริงๆ แคสได้เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น ฮอลลีวู้ดก็ไม่ได้ง่าย แต่ในใจปูไม่ได้บีบตัวเองนะ เพราะปูไม่ได้อินกับคำว่ากระแสแล้ว เมื่อก่อนปูทุกข์มาก เพราะปูกลัวว่างานจะหาย แต่พอตอนนี้ละมือกลับมีงานเยอะ ไม่ต้องวิ่ง ไม่ต้องเหนื่อย

จากเหตุการณ์ในวันนั้น ทำให้รู้สึกว่าพอแล้ว เราก็ไปงานเมืองนอกกว่า 6-7 ปี ติดแล้ว ณ ตอนที่เกิดเหตุการณ์ปูคิดอย่างเดียวว่าถ้าเหตุการณ์เป็นอีกแบบนึง ก็คุยกับพี่ๆ ที่สนิทกันว่าพรุ่งนี้เราคงอยู่โรงพยาบาลกัน คงไม่ได้มานั่งกินข้าวกัน ก็คิดในใจว่าให้มันจบๆ เถอะ ใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย บางทีอะไรที่ยากมากไม่ต้องทำก็ได้ อะไรที่มันใช้เราจะไม่ต้องดิ้นรน ก็เหมือนความรักของปู เมื่อก่อนดิ้นรนแทบตาย ก็จะไม่เจอ พอหยุดดิ้นรนก็เจอ งานก็ทำแบบไม่คาดหวัง ไม่กดดัน ไม่แข่งขัน จะได้ทำแบบมีความสุข”

ตอนนี้มีหนังถ่ายอยู่?
“มีโปรเจ็กต์ที่ทำอยู่ แต่พูดไม่ได้จริงๆ อย่างที่บอกว่าไม่ได้ลงรูป ไม่ใช่ว่าไม่มีอะไรทำนะ คือทำงาน ช่วงหลังถ่ายโซเชียลเหนื่อย ทำไม่ไหวแล้วอ่ะ ไม่สู้ ต้องมาเรียนการตัดต่อใหม่ แอปพลิเคชันนั้นนี้ ติดผิดโป๊ะอีก เลยแบบพอๆ ช่วงนี้ติ๊กต็อกน่าจะเล่นง่ายสุด ไอจีเลยไม่ค่อยลง”

ขอบคุณแหล่งที่มา : khaosod