ปิ่น เลอลักษณ์ ควงทนายแก้ว ป้องศักดิ์ศรีหมอ ถูกกล่าวหาทำคนไข้ตาย

ปิ่น เลอลักษณ์ ควงทนายแก้ว ป้องศักดิ์ศรีหมอ-โรงพยาบาล หลังที่ปรึกษากฎหมายของ ต้อม รชนีกร โพสต์กล่าวหา หมอทำคนไข้ตาย ดำเนินการแจ้งความเอาผิดในคดีอาญา ฐานหมิ่นประมาท พร้อมชี้แจงเรื่องการผ่าตัดกรามจากผู้เชียวชาญ

จากกรณีข้อพิพาษกันระหว่างนักแสดงชื่อดัง ต้อม รชนีกร ฟ้องเรียกเงิน 50 ล้าน กับ ปิ่น พิศพรรณ ผู้บริหารโรงพยาบาลเลอลักษณ์ ซึ่งก่อนหน้านี้ ต้อม ได้แถลงข่าวหลังทำศัยกรรมที่ รพ.ดังกล่าว จนทำให้มีปัญหาหน้าพังตลอดชีวิต

รวมถึงที่ปรึกษากฎหมายของ ต้อม ได้เคยโพสต์ข้อความลงโซเชียลส่วนตัวมีข้อความว่า “หมอคนที่ทำพี่ต้อมมีปัญหา คือหมอที่เคยทำคนตายมาแล้ว2 ศพ ผ่าตัดอยู่ดีๆเบื่อ ออกไป Shopping ไปส่องพระ ให้คนไข้ดมยาสลบรอหลายชั่วโมง จนไม่ฟื้นก็มี”

ล่าสุด ปิ่น พิศพรรณ ผู้บริหารโรงพยาบาล พร้อมด้วยทีมทนาย นำโดย ทนายแก้ว นายมนต์ชัย จงไกรรัตนกุล, ทนายเฟิร์น พิชญานัน ปานทอง และ ทนายกฤตย์ กฤตย์ สมุทรโคตา ร่วมแถลงข่าวโต้ปมหมอผ่าตัดศัลยกรรมทำคนตาย 2 คน พร้อมชี้แจงสาเหตุ ร่วมชี้แจงอย่างละเอียกเรื่องของกระดูกกรามที่ผ่าตัดออกไป

ปิ่น “สิ่งที่เขาไปไหนแล้วจะพูดตลอดคือเรื่องของการรีวิว ในสัญญามีคำว่าสัญญารีวิว ถูกต้องครบถ้วนทุกอย่าง ไม่มีคำว่าพรีเซนเตอร์ อย่างที่เขาพูดมาโดยตลอด ในสัญญาทางโรงพยาบาลจะให้เขารีวิวตามขั้นตอนของเรา นี่คือหลักการทั่วไป และจะมีอีกข้อที่ให้อินฟูลฯหรือดาราเป็นคนรีวิวเอง ซึ่งต้องมีการเห็นชอบร่วมกันก่อนเผยแพร่สู่สาธารณะ อยากให้เขาอ่านให้ดีก่อนที่จะมีปัญหากัน”

ทนายแก้ว เรื่องเกิดจากที่มีการไปโพสต์ลงสื่อเฟซบุ๊ก มีการใช้เฟซบุ๊กของผู้หญิงคนหนึ่งข้อความว่า เชอร์เบท เป็นที่ปรึกษากฎหมายให้ ต้อม รัชนีกร ดาราชื่อดังที่ได้รับความเสียหายจากการทำศัลยกรรมจากสถาบันความงามที่ดังมากๆแห่งหนึ่ง ที่มีทุนทรัพย์ 50 ล้าน นี่แค่คดีแรก ไม่ได้มีแค่คดีเดียว เดี๋ยวจะตามไปอีกทีหลัง และที่สำคัญหมอที่ทำพี่ต้อมมีปัญหา คือ หมอที่เคยทำคนตายมาแล้ว 2 ศพ”

ปิ่น “โรงพยาบาลเราเปิดมานานมาก มาตรฐานในการคัดเลือกแพทย์เรามีอย่างดี เราตรวจตามหลักจริงๆ การรับสมัครแพทย์ของเราจะดูทางฐานข้อมูลแพทยสภาว่ามีชื่อแพทย์อยู่ในการทำงานปกติไหม หากไม่มีคำสั่ง หรือคำพิพากษาใดๆ ซึ่งแพทย์ท่านนี้ก็ยังไม่ได้มีการถูกเพิกถอนแต่อย่างใด เจตนาจริงเรามองออกว่าเขาต้องการจะโจมตีเรา ต้องการทำลายชื่อเสียงดิสเครดิตเรา แต่อย่าลืมนะคะว่าการทำงานมันมีหลักการค่ะ มันมีการคัดเลือกแพทย์ ในเมื่อแพทย์คนนี้เขาไม่ได้มีคดีอะไรใดๆ

แล้วแพทย์ท่านนี้เป็นแพทย์ที่มีฝีมือจริงๆ ที่ได้รับเลือกให้ทำกับคุณต้อม เพราะคุณต้อมเป็นเคสที่ยากมากๆ เพราะมีซิลิโคลนเหลวอยู่ข้างในหน้าและผ่านการแก้ไขมาหลายครั้งแล้ว ทางภายนอกมีรอยแผลยาวมาก จากข้างหนึ่งไปอีกข้างหนึ่ง หมอทุกท่านไม่มีใครรับ เราเล็งเห็นถึงหมอท่านนี้ซึ่งมีฝีมือมากๆในระดับประเทศ ก็คัดเลือกสิ่งที่ดีที่สุด ทำให้ด้วยใจ อยากให้ทำออกมาแล้วดีที่สุด คุณหมออยู่กับเรามานาน ที่นี่ไม่เคยรักษาผิดพลาด และทำสวย ก่อนหน้านี้เขาชมตลอดว่าหมอทำสวยแล้วสุดท้ายเขามาฆ่าหมอทิ้ง จิตใจเขาทำด้วยอะไร”

ทนายกฤตย์ “กับกรณีที่เขาอ้างว่าหมอทำคนตายมาแล้ว 2 ศพ เริ่มที่เคสแรก เกิดขึ้นเมื่อปี 2557 เป็นเคสที่คนไข้เสียชีวิตจากภาวะที่คนไข้แพ้ยาสลบ หมอได้ชี้แจงว่ามาจากกรรมพันธุ์ ทางแพทย์ไม่สามารถตรวจสอบได้ ซึ่งเคสนี้ยังไม่ได้มีการเริ่มผ่าตัดเลย เป็นเหตุสุดวิสัยทางการแพทย์ ซึ่งทางญาติไม่ได้มีการฟ้องร้องกัน เพราะเห็นจากผลชันสูตรของหมอแล้วก็ไม่ได้ติดใจอะไร ซึ่งคุณหมอได้ทำให้คนไข้เสียชีวิต

เคสที่ 2 เป็นเคสเมื่อปี 2559 เคสนี้มีการผ่าตัดเสร็จสิ้นแล้ว แต่ระหว่างที่คนไข้พักรักษาตัว ชีพจรเขายังไม่คงที่ เลยมีการส่งคนไข้ไปโรงพยาบาล ปรากฎว่าพอชันสูตรออกมา สาเหตุที่คนไข้เสียชีวิตพบเลือดออกในช่องท้อง 1000 ซีซี ปีกมดลูกด้านซ้ายมีเลือดคลั่ง มีเลือดไหลออก ซึ่งแพทย์ได้วินิจฉัยว่า สาเหตุของการเสียชีวิตเกิดจากซีสต์ที่รังไข่แตก ไม่ได้เกิดจากการผ่าตัด กรณีที่ก็เป็นเหตุสุดวิสัยทางการแพทย์ ในตอนนั้นทางคนไข้เองก็ไม่ได้ทราบว่าตัวเองมีซิสต์อยู่ที่รังไข่ กรณีนี้มีการฟ้องร้องของญาติผู้เสียชีวิต ซึ่งผู้พิพากษาก็ได้ให้ไกล่เกลี่ยเพราะเห็นผลชันสูตร ยุติเรื่องกันไป”

ทนายแก้ว “สรุปเลยก็คือคุณหมอที่โรงพยาบาลนี้ไม่ได้ทำคนตาย 2 ศพครับ”

ทนายกฤตย์ “กับกรณีที่เขาบอกหมอเอาเวลาไปส่องพระเป็นไปไม่ได้เลย เพราะในการผ่านตัดคุณหมอไม่ได้อยู่คนเดียว จะมีคุณหมอวิสัญญีแพทย์จะต้องรับผิดชอบคนไข้ร่วมกัน ที่เขาบอกออกไปชอปปิ้ง ไปส่องพระ ให้คนไข้รมยาสลบหลายชั่วโมงจนไม่ฟื้นก็มี ซึ่งตรงนี้มีพยานรู้เห็นชัดเจนแน่นอนว่าไม่ได้ไป เป็นไปไม่ได้เลยที่หมอวิสัญญีจะปล่อยให้แพทย์ที่เตรียมทำการผ่าตัดออกไปที่อื่น เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้นมากับคนไข้ พวกเขาต้องรับผิดชอบร่วมกัน โดยหลักการแล้วยังไงก็เป็นไปไม่ได้เลย”

ทนายแก้ว “คุณหมอ ได้มีการทำคำชี้แจง ดังนี้ครับ ข้าพเจ้าประกอบอาชีพแพทย์มากว่า 30 ปี ไม่เคยถูกศาลหรือหน่วยงานใดตัดสินว่าข้าพเจ้าทำศัลยกรรมแล้วเป็นเหตุให้คนไข้เสียชีวิต นอกจากนี้ตามคำฟ้องของต้อม รัชนีกร ที่ฟ้องเรียกค่าเสียหายมารวมกันเป็นจำนวน 50 ล้าน”

ทนายเฟิร์น “การที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กได้กระทำการโพสต์ลงไปถือเป็นการหมิ่นประมาท ทำให้บุคคลทั่วไปที่มาเห็นข้อความนี้เข้าใจผิดโรงพยาบาลว่าไม่มีมาตรฐานในการรักษา เป็นการกล่าวหาคุณหมอว่าไม่มีจรรยาบรรณในวิชาชีพ ทำให้ทางโรงพยาบาลเสียหายจำนวนมาก เพราะมีคนเข้ามาคอมเมนต์ว่า ล ล ทางโรงพยาบาลได้ทำการเข้าแจ้งความในเรื่องนี้แล้ว และจะมีการออกหมายเรียกผู้ใช้เฟซบุ๊กรายดังกล่าวเข้ามาให้การเร็วๆนี้”

ทนายแก้ว “ต้องเรียนว่าสิทธิทางศาลในกรณีที่จะฟ้องร้องทุกคนมีสิทธิ์ ไม่ได้บอกว่าเขาไม่มีสิทธิ์นะครับ คุณต้อมมีสิทธิ์ แต่การใช้สิทธิ์มันต้องสุจริต ต้องแยกกันระหว่าทางศาล กับนำสารมาประจาน วันนี้ชี้แจงภาพกว้างว่าเกิดอะไรขึ้น กรณีที่เลอลักษณ์ทำอะไรผิดก็ไปฟ้องร้องกัน ไปพิสูจน์กันว่าผิดไม่ผิดอย่างไร กรณ๊นี้มีการพูดไม่จริง จึงก่อนให้เกิดเรื่องวันนี้ มูลเหตุคือสัญญาเสนอกับสนองต้องตรงกัน มีการระบุหลายเรื่อง คุณต้อมต้องมารีวิว”

ปิ่น “โรงพยาบาลมีใบอนุญาตประกอบธุรกิจ เราดำเนินกิจการมา 24 ปี ใบอนุญาตถูกต้องทุกอย่าง มีความเป็นมาตรฐาน ผ่านการตรวจสอบจากกระทรวงสาธารณสุข”

คู่กรณีบอกว่าในสัญญา ก่อนนำรูปไปต้องได้รับความยินยอมทั้ง 2 ฝ่าย?
ปิ้น “เขาตกลงกับพี่ไว้ว่า เวลาจะรีวิวต้องขออนุญาตเขา ในหลักการถ้าต้องขออนุญาตเขาพี่จะไม่ทำศัลยกรรมนี้เลย ถ้าไอ้นั่นไอ้นี่ไม่ได้เลย สัญญามี 2 ข้อ ข้อที่ 2 คือโรงพยาบาลจะให้เขารีวิวตามขั้นตอนของเรา แต่มีข้อที่ 7 เราจะให้อินฟูฯ หรือดารา รีวิวความคืบหน้าของเขา ช่องทางของเขา อันนี้ต้องเห็นตรงกัน เพราะเขาอยู่บ้าน รูปถูกไหม เล่าเรื่องถูกไหม ภาพรวมถูกไหม แบบนี้ อยากให้ทุกคนเข้าใจตรงวกัร อยากให้อ่านให้ดีก่อนค่ะ”

ทนายแก้ว “อยากอธิบายเรื่องผ่าตัดอย่างย่อๆ ให้สื่อมวลชนฟังดังนี้”
ปิ่น “ใบหน้าก่อนทำศัลยกรรมที่นี่ ซีทีสแกนออกมาก็เห็นว่าหน้าไม่เรียบ มีซิลิโคนเหลวออกมา ใบหน้าปูด คางไม่มีทรง ซึ่งแก้ไขมาหลายครั้งมาก ไม่สามารถแตะต้องซิลิโคนได้อีก แตะปุ๊บเนื้อจะบุ๋ม คุณหมอตกลงใจกับคุณต้อม ทุกอย่างเป็นการตกลงใจกัน แพทย์กับคนไข้ตกลงกัน คุณหมอชี้แจงมาอย่างมีเหตุผลว่านี่คือการแก้ปัญหา ไม่ใช่การเสริมความงามตามปกติ

นอกจากหน้าหย่อนคล้อยตามอายุแล้ว ซิลิโคนที่จับเป็นก้อนตามส่วนต่างๆ ของคางและแก้ม ได้ผ่านการขูดมาแล้วหลายครั้ง แต่ไม่ได้ผล เพราะฉะนั้นการขูดใหม่จะหวังผลไม่ได้ นอกจากการขุดซอลิโคนออกยังมีวิธีที่ดีกว่านี้ คือแนะนำให้ลดกระดูกกรามเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยได้มากกว่า

แม้ซิลิโคนยังอยู่แต่รูปหน้าจะชัดเจน คาดคะเนผลได้ ซิลิโคนที่ยังอยู่จะจมลงไปแทนกระดูก ภาพหน้าจะดีขึ้น วิธีนี้เป็นวิธีมาตรฐานที่เริ่มต้นที่เกาหลรีเมื่อ 20 ปีก่อน และนิยมขึ้นเรื่อยๆ การผ่าตัดนี้ไม่มีผลกับกลไกการเคี้ยวของฟัน ไม่เกี่ยวกับการเคี้ยว เส้นประสาท รากฟัน สามารถทำงานได้ตามปกติ นี่คือคำชี้แจงของคุณหมอ”

ทนายกฤตย์ “ภาพซีทีสแกน ก่อนทำหน้าไม่เท่ากัน มีสารที่เกินออกมาทให้หน้าหย่อนคล้อย แต่หลังทำจะเห็นว่า 2 ข้างบาลานซ์กันตั้งแต่กรามด้านบนจนถึงคางเท่ากัน”

คู่กรณีบอกว่า ที่ทำศัลยกรรมไปทำให้กระดูกรามบาง ถ้าเกิดอุบัติเหตุ อาจจะหักได้?
ปิ่น “การตัดกรามตัดตรงส่วนที่ไม่รบกวนความแข็งแรงของโคงสร้าง เนื้อฟัน กระดูกด้านในที่รวมกันยังแข็งแรง คุณหมอฝีมือดีจริงๆ และแม่นยำ ทางปิ่นได้ขอความคิดเห็นจากบุคคลที่สาม (Third Openion) ที่มีความเชียวชาญด้านการผ่าตัดกระดูกโครงหน้า

ปิ่นขออธิบายจากใจว่า ก่อนหน้านี้คุณต้อมไม่ได้มีประเด็นนี้เลย มีแต่เรื่องรีวิว แต่พิเดือนกุมภาพันธ์ เริ่มบอกว่าตัวเองมีความผิดปกติ และไปหาทันตแพทย์ที่ไหนมา มีคำอธิบายของคุณหมอท่านหนึ่งว่าในใบรับรองแพทย์ที่หนึ่งออกมาว่า “ทันตแพทย์ผู้เขียนใบรับรองนี้อ่านฟิล์มผิดโดยสิ้นเชิง ว่าสกรูชนกับประสาทรากฟัน โดยอ่านฟิล์มด้านหน้าที่ปลายสกรูและรากฟันอยู่คนละความลึกเห็นซ้อนกัน และไม่ได้ดูฟิล์มด้านข้างเลย เรียกว่าดูแค่ 2 มิติ ไม่ได้ดู 3 มิติ ซึ่งไม่ได้มีการกระทบกันเลย”

ปิ่น “มีประเด็นฟันคุดที่บอกว่า เสี่ยงกับโรคมะเร็ง ฟันคุดใครๆ ก็มีลูกสาวปิ่นก็มี ไม่ได้แปลว่ามีฟันคุดแล้วจะเป็นมะเร็ง อาจจะมีโอกาส1 ใน10 ล้าน มันยาก มันไม่เป็นนัยยะ เยอะแยะเลยค่ะที่เกิดมาแล้วตาย ฟันคุดก็มีเต็มปากก็ไม่เป็นมะเร็ง เพราะฉะนั้นการมีฟันคุดจริงๆ เป็นเรื่องของตัวคุณต้อม ที่จะต้องถอนฟันคุด การผ่าตัดทุกครั้งเราทำมาเยอะมาก จะไม่เคยดูเรื่องฟันคุด ต่อให้เป็นเกาหลี หรือต่างประเทศที่ดังเรื่องทำหน้าใดๆ เขาไม่มีการขอถอนฟันคุดก่อน แล้วจะเกี่ยวพันธ์กับมะเร็ง พี่ก็ไม่เข้าใจ ว่าประเด็นนี้ เพื่ออะไร คุณต้องรักษาตัวเองก่อนไหม เป็นมาตรฐานสากลในการผ่าตัดกราม ซึ่งศัลยแพทย์ตกแต่งจะใช้การผ่าตัดเลย”

หลังเสร็จการผ่าตัดแล้ว ความสัมพันธ์กับต้อมเป็นอย่างไร?
ปิ่น “ความสัมพันธ์กับต้อมดีมากตั้งแต่ผ่าตัดกรามที่สามารถเคี้ยวข้าว ทานชาบูได้ ก็ดีกันตลอด และเราก็ไม่ได้รีวิว ตัดกรามไปแล้ว 3-4 เดือน เราถึงรีวิว รพ.เลอลักษณ์ไม่ได้เอาเขามาทำการตลาดใดๆ แต่พอดึงหน้า

เดือนพ.ย. พี่ก็บอกว่ารอบสุดท้ายของคุณต้อมแล้ว จะต้องนำมาทำรีวิว เราก็ให้ทีมการตลาดปฏิบัติหน้าที่จัดการรีวิว ถ้าผิดพลาดจนท.ต้องมาโทษปิ่น เรารีวิวปกติตามสัญญาข้อ 2 และมีภาพหนึ่งที่การตลาดเริ่มต้นรีวิวเขาในภาพที่มีสายเดรนอยู่ข้างหน้า ปิ่นก็โทรบอกการตลาดว่า ให้รีบเอาภาพเพราะทำให้ดูไม่ดี และทำให้เราเสียชื่อเองด้วย และก็ลงในเวลาไม่นาน แต่คุณต้อมบอกว่าเขาเก็บภาพนี้แล้วก็มา”

หลังจากที่ภาพนั้น เขาก็ไม่พอใจว่าไม่ควรเอาภาพที่ผ่าตัดเสร็จแล้วมาส่งเขา มีการเคลียร์กันไหม?
ปิ่น “เราลบภาพนั้นออกและหลังจากนั้นก็เป็นภาพที่อยู่ในห้องแล้ว พี่ไม่เข้าใจเลยเมื่อวันที่ 15 วันเกิดของเขา มาอัดคลิป มาในทางการแพทย์ แล้วคุยกันดีๆ เลย เดินมาส่งเราที่ลิฟต์เลย นั่งสัมภาษณ์กันดีๆ เลย

แล้วก็บอกว่าพี่ปิ่นจะดึงหน้าวันไหนต้อมจะมาเฝ้าเอง คุยกันดีมากๆ เรื่องวันเกิด พี่ก็ไม่รู้เรื่อง ทางการตลาดโพสต์เองแล้วก็หาว่าเป็นแผนเรา เขาชอบไปแถลงอะไรของเขา บางครั้งไม่ใช่เรื่องจริงก็เสียชื่อเรา กลายเป็นว่าเราหลอกลวง วันที่ 20 ไปออกคุยแซ่บโชว์ไปร้องไห้ พอวันที่ 21 ปิ่นก็เครียดแล้ว ว่าทำไมร้องไห้ แล้วหาว่าเราเอาภาพไปรีวิวทำไม

คนก็เริ่มว่าโรงพยาบาลเลอลักษณ์ว่าเหมือนฉวยโอกาส แล้วผู้ติดตามในติ๊กต็อก ก็เริ่มเข้ามาสอบถามแล้วว่ามีค่าใช้จ่ายไหม ทำไมถึงทำแบบนี้ ก็เลยเข้ามาชี้แจงในติ๊กต็อกช่องปิ่น ว่าทำฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย แล้วก็มีสัญญารีวิวชัดเจน เราก็เลยทำตามสัญญาปุ๊บกลายเป็นว่า คำชี้แจงมันฟีดแบ๊กกลับไป ทำให้คนมองว่าทำไมคุณต้อมถึงทำแบบนี้ อันนี้เขาทำตัวของเขาเอง”

เขาบอกว่าเขาสูญเสียพรีเซ็นเตอร์ไป 2-3 ตัวรวมมูลค่าประมาณ 3 ล้านกว่าบาท ได้มีการติดต่อเขาบ้างไหม?
ปิ่น “พอวันที่ 20 เขาไปออกรายการคุยแซ่บโชว์เขาร้องไห้ และวันที่ 21 ปิ่นก็โทรหา ปิ่นก็เสียใจว่าทำไมเรารักกันอยู่ดีๆ ถึงทำแบบนี้ ทำให้คนมองภาพลักษณ์ของเราเสีย ปิ่นก็ร้องไห้ แต่ปิ่นไม่กล้าโทรหาต้อม เพราะเหมือนว่า เขาร้องไห้และคิดว่าเราไม่ได้เป็นมิตรภาพกับเขา

ปิ่นมองว่าคุณเอกที่เป็นสามีเขา เป็นคนที่น่ารัก ก็เลยตัดสินใจโทรหาคุณเอก พอโทรหาคุณเอก คุณเอกก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย แล้วปิ่นก็ถามว่าคุณเอกไม่รู้จริงๆ เหรอว่าปิ่นเป็นอะไร ต้อมไปออกรายการ ร้องไห้แล้วเหมือนแบบว่าทำให้โรงพยาบาลเสียหาย แล้วคุณเอกก็อธิบายว่าเราใช้ภาพนู่นนี่นั่น ทำให้งานของคุณต้อมโดนเลื่อน แต่ไม่ได้โดนยกเลิก เราก็สบายใจแต่คุณต้อมเขาไปพูดว่าโดนยกเลิก

แต่คุณเอกบอกว่าไม่ได้โดนยกเลิกแต่โดนเลื่อน ปิ่นก็ไม่ได้ถามเขาเลยแต่เขาพูดก่อน ปิ่นก็ดีใจว่าคุณเอกน่ารักพูดตรงๆ แล้วก็คุยกันจนจบไปเท่านั้น แต่เมื่อวันที่คุณต้อมแถลงข่าวเอาคลิปเสียงปิ่นไปพูด เขาสามารถเอาคลิปเสียงปิ่นไปได้เหรอคะเขาได้ศึกษาไหมว่าเขาผิดกฎเรื่องอะไร แล้วเขาก็ไปตัดคำว่าเลื่อนออก และเหลือแต่คำว่าโดนยกเลิก”

ได้มีการไกล่เกลี่ยหลังบ้านไหม ก่อนที่จะเป็นคดีความ?
ปิ่น “ทางโรงพยาบาลก็ยึดถือตามสัญญาคือเขาต้องมารีวิว และต้องมาตรวจหลังดึงหน้า แต่หลังจากนั้นเขาก็ไม่มาเลย แล้วเขาก็มีหนังสือมาให้บรรเทา ใช้คำว่าบรรเทาก็น่าจะหมายถึงเรื่องค่าใช้จ่ายหรือเปล่า”

ได้ถามเขาไหมว่าอยากให้บรรเทาเรื่องอะไร?
ปิ่น “ปิ่นให้ทางการตลาดคุย คือเขาก็ไม่ได้มีการติดต่อ ปิ่นไม่แน่ใจประเด็นนี้จริงๆ ว่า ได้ถามว่าบรรเทาคืออะไร แต่รู้แล้วว่าเจตนาของเขาคือตั้งตัวเป็นอีกฝ่ายหนึ่งแล้ว และไม่ใช่ว่าปิ่นไม่พยายามคุยกับเขา เราพยายามนิ่งก่อนเสมอ แต่เขาชอบไปแถลงนู่นนี่นั่นชี้แจงว่าสัญญาไม่ตรงกันบ้าง ชี้แจงเรื่องภาพบ้างและปิ่นจำเป็นต้องออกมาชี้แจงตอนที่เขาออก แต่เขาไปแถลงเมื่อวันจันทร์ว่าเขาไม่เคยออกรายการอะไรเลย ไม่เคยให้คำชี้แจงอะไรเลยตั้งแต่เดือนธันวาคม”

เขาบอกว่าทางรพ.ละเมิดเขาไปแล้ว สัญญาก็บอกเลิกไปแล้ว มีการหมดสัญญาจริงไหม?
ทนายแก้ว “ไม่ครับ คือสัญญาต้องมีการบอกเลิกกัน เขาไม่เคยมีการบอกเลิกสัญญาฉบับนี้ คือการที่จะเลิกสัญญาฉบับนี้ ต้องมีการแจ้งบอกเลิกสัญญาฉบับนี้กัน บางเรื่องอย่าเพิ่งให้ทนายไปแจงรายละเอียด เพราะอยากจะไปว่ากันที่ศาล”

เขาฟ้องโรงพยาบาลกับหมอทั้งหมดกี่คดี?
ทนายแก้ว “มีคดีเดียว เขาเรียกค่าเสียหาย 10 ล้าน 10 ล้าน และ 30 ล้าน รวมเป็น 50 ล้าน มันเป็นรายละเอียดว่า จำเลยทั้ง 4 ร่วมกันกระทำการละเมิด อันนี้ก็เป็นคดีแพ่ง”

มีหลักฐานในการต่อสู่คดีไหม?
ทนายแก้ว “อย่าให้พูดเลยเรื่องหลักฐานการต่อสู้ผมมีร้อยเปอร์เซ็นต์เลย อย่างที่ผมพูดว่าต้องมีการพิสูจน์กัน ว่าแพทย์ผู้เชี่ยวชาญระบุแบบนี้ ท่านผู้พิพากษาจะเห็นยังไง เราก็ต้องเอาสไลด์มาพิสูจน์รวมถึงกรณีที่เขาบอกว่า เขาขาดรายได้ไปเท่านั้น เท่านี้ มันก็เป็นเรื่องที่เขาต้องแสดงให้เห็นว่ายอดเสียภาษีเขาเท่าไหร่ และมีการยกเลิกงานจริงไหม”

ที่บอกว่าทางเราจะพิจารณาเรื่องค่าเสียหาย ว่าจะฟ้องเขากลับจะมีค่าเสียหายหรือไม่?
ทนายแก้ว “ยังขอสงวนนิดนึงครับ เพราะว่าเบื้องต้น ผมอยากจะดูสัญญา คือถ้าจะฟ้องใครเราจะไปขู่เขาไม่ได้ สัญญาเขียนไว้อยู่แล้ว แต่อย่างไรเรื่องความเสียหายในคดีอาญาที่ทนายเฟิร์นไปแจ้งความ มันต้องมีอีกก้อนนึง เรื่องนั้นเป็นเรื่องของคนที่ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อนั้น แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราต้องรู้ว่าคำฟ้องถ้ามันไม่จริง ทุกคนมีสิทธิ์ฟ้อง แพ้ชนะปกติ แต่การที่เขามาโพสต์ อย่างที่ผมเน้นย้ำ มันไม่ควร การแจ้งความก็ถือเป็นการใช้สิทธิ์แล้ว”

ทนายเฟิร์น “ตอนนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการออกหมายเรียก

เขาได้ติดต่อมาบ้างไหมคนที่โพสต์?
ทนายแก้ว “ยัง เพราะเราแจ้งความไป ก็เป็นเรื่องของพนักงานสอบสวนต้องไปประมวล โดยผู้รับมอบอำนาจของเลอลักษณ์ ก็ไปให้ปากคำเรียบร้อยแล้ว ผมคิดว่าสัปดาห์หน้าจะออกมาในรูปแบบไหน เดี๋ยวผมจะแจ้งให้ทราบอีกที”

คุณปิ่นรู้สึกอย่างไรว่าอีกฝ่ายอาจจะรวบรวมผู้เสียหาย ที่เคยมาทำกับเรา แล้วเกิดความผิดปกติเพื่อมาดิสเครดิตเรา?
ปิ่น “เราทำธุรกิจมา 20 กว่าปี การร้องเรียนหรือว่าเรื่องคดีความ หรือคดีขึ้นศาลแทบจะไม่มีเลยพี่เคลียร์นะคะ เราทำเยอะ ก็ต้องมีบ้าง เอาจริงๆหน่วยงานราชการ สสจ. ยังเคยชมเลยว่าเลอลักษณ์ ว่าทำเยอะ ทำไมมีปัญหาให้เขาน้อย และณ วันนั้น ที่เขาแถลงเมื่อวันจันทร์ ปิ่นสังเกตเห็นได้ว่าช่วงที่เขาจะแถลงอยู่ จะมีผู้หญิงคนหนึ่งถือแฟ้มออกมา และบอกว่าเขาเสียหายจากการทำหน้าอก และไปหาหน่วยงานราชการ 3 แห่งแล้ว แต่ไม่จัดการอะไรเลยเหมือนทำอะไรกับเลอลักษณ์ไม่ได้ ปิ่นไม่ได้ยิ่งใหญ่ขนาดนั้น ถ้าปิ่ยผิดจริง หน่วยงานลงโทษปิ่นแน่นอน เราก็รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร เหมือนเป็นฉาก จังหวะอะไรที่คนๆ หนึ่งจะมาพอดีเลย”

ทนายแก้ว “ผมว่ามันเป็นสิทธิ์ ใครรู้สึกยังไงก็เป็นสิทธิ์

ปิ่น “เราจับประเด็นไปว่ามันมีความเชื่อมโยง ปิ่นไม่เคยมีเคสไหนที่ต้องไปร้องเรียนหน่วยงาน 3 หน่วยงาน ซึ่งเคสนี้เป็นคนเดียวกันที่ไปออกรายการโหนกระแส ปิ่นก็ฝากให้ทุกๆ คนคิดเรื่องการเชื่อมโยงของคุณต้อมและคุณคนนี้ คือเรื่องอะไร มันเหมือนเป็นเรื่องเดียวกันแล้วพาคนเสียหาย และถามจริงๆ ว่าคนนี้เขาทำหน้าอกไป เขาบอกว่าเขามีปัญหา

แต่สคบ.ดูแล้ว ว่าสวยมาก ไม่รู้จะเอาความผิดอะไรกับเลอลักษณ์ เขาไปถึงแพทย์สภาคุณหมอ ทำงานมา 20 กว่าปี ไม่เคยโดนแพทย์สภาเชิญ คุณหมอก็ไปแต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะหน้าอกมันสวย คือไปหน่วยงานไหนก็สวย คือโรงพยาบาลทำผิดตรงไหน แล้วเขาจะมาลงโทษปิ่นได้ยังไง จุดสังเกตก็คือเอาคนมาสมทบ

ปิ่นคิดว่าต่อจากนี้จะมีการดิสเครดิต ที่สวมเวลาในเรื่องเดียวกัน เราทำคนไข้เยอะ มันก็ต้องมีพลาดบ้างไหม แต่เราก็มีการรับผิดชอบตลอด ถ้าอยู่ในวงการจะเข้าใจ แต่อยากให้คนเห็นว่าทำไมมันไปเชื่อมโยงกันอย่างนี้ คนนี้ออกที่นู่นแล้วมาที่นี่ทำไม โหนกระแสคนเดียวกันเลย”

คุณปิ่นเสียใจไหม ด้วยความที่ทำโรงพยาบาลมา 20 ปี นะตอนนี้พอค้นหา แล้วบอกว่าโรงพยาบาลเคยทำคนตาย เสียใจคำนี้ไหม?

ปิ่น “เสียใจจากความรู้สึกที่ดีที่มีให้กับน้องต้อม อันนี้มีเจตนาใจที่บริสุทธิ์มากทำให้อย่างดี ไม่เคยเอาเรื่องเลย ไม่คิดจะฟ้อง คือจะบอกเขาว่าไม่ว่าคนไข้เคสไหน ต่อให้บางทีสื่อออนไลน์มันเยอะ การศัลยกรรมตกแต่งมันยากนะ บางทีเราไม่ผิดเราก็ต้องยอม เพราะว่าเราไม่เคยฟ้องใครอยู่แล้ว ตั้งแต่ทำธุรกิจมา ถามว่าเสียใจไหมปิ่นเสียใจ เพราะคนเราทำดี ทำด้วยใจทุกอย่าง แต่กลับมาพูดแบบนี้

อีกอย่างก็กระทบต่อรพ.มีคนไข้ที่มัดจำไว้แสนกว่าบาทหรือจะทำประมาณ 1 ล้านบาทก็มี ของเคสหมอที่เสียหายอยู่ ตอนนี้มีเข้ามาหลายเคสเขาขอเงินคืน บอกบอกว่าหมอที่นี่ทำคนไข้เสียชีวิต เราก็พยายามโน้มน้าวว่าเป็นแพทย์ท่านอื่นได้ไหม แต่แพทย์ท่านนี้ก็ทำสวยจริงๆ ไม่ได้มีคดี เขาไม่เชื่อ แพทย์ท่านอื่น เขาก็ไม่เอา ขอเงินคืน อย่างนี้คุณต้อมรับผิดชอบให้พี่อย่างไร และทำลายแพทย์คนนี้ทำไม ในเมื่อชมเขาตลอดว่าเขาทำดี ไม่เกี่ยวกับแพทย์ คุณโกรธพี่คุณบอกพี่เลย ตัวต่อตัวเลยค่ะ อย่าทำนิสัยแบบนี้

ณ วันนี้เราอยากไกล่เกลี่ย หรืออยากให้ทนายแจ้งดำเนินคดีความตามกฎหมาย?
ปิ่น “คือปิ่นว่ามันเกินเยียวยาแล้วค่ะ ปิ่นอดทนทำทุกอย่าง ยิ่งให้อภัยแม้กระทั่งเข้าไปตอบในติ๊กต๊อก ที่มีผ้าโพกหัวน่ารักๆ คนชมว่าไปขอโทษเลอลักษณ์ ไปขอโทษพี่ปิ่น ปิ่นเห็นว่ากระแสมันแรง ก็เลยไปโพสต์ว่าน้องต้อมคะไม่ต้องขอโทษพี่ก็ได้ ขอแค่ให้อภัยกันไปอย่ายึดติดให้ปล่อยวางจะได้มีคนรักเยอะๆ

ปรากฏว่ามีอวตาร ตอบพี่ว่าไม่ต้องมาหิวแสง ไม่ต้องมาบอกให้พูดฝ่ายเดียวหรอกว่าให้ปล่อยวาง พี่สะอึกเลยเพราะความใจของเราที่อยากจะให้เขาดี เมื่อสักครู่ก่อนที่จะแถลง เข้าไปพูดว่าปิ่นเข้าไปที่บ้านเขาแล้วไปบอกเขาว่าต้อมรู้สึกอย่างไร คือเขามีเจตนาทำให้ปิ่นเสีย ปิ่นไม่เคยถามเขาเลยว่าเขารู้สึกอย่างไรในการที่คุณมาว่าเขา แต่เวลาเขาพูดกับสื่อเขาจงใจ ทำให้เปลี่ยนประเด็นเหมือนว่าปิ่นแย่จังเลย ใจบริสุทธิ์ของคน ปิ่นว่าสัมผัสได้ ไม่ต้องมาแถลงอะไรแล้วให้มันจบๆ ไป

ทนายแก้ว “คือผมกับทีมที่เข้ามาคือเข้ามาดูเฉพาะคดี แต่ความเป็นมากับใครอย่างไร ผมไม่ได้เกี่ยวข้อง แต่ผมแค่มองว่าในกรณีที่ใช้สิทธิ์พาดพิงหรือว่ามาฟ้องร้อง ผมไปว่าที่ขบวนการที่ศาลอยู่แล้ว หรือถ้าโจทก์จะไกล่เกลี่ย หรือจำเลยจะไกล่เกลี่ย ผมว่าเป็นเรื่องของศาลที่จะต้องไกล่เกลี่ยอยู่แล้วแต่ในส่วนของคดีอาญาที่มากระทบสิทธิ์ในคดีประมาท

ผมเดินไปตามขบวนการก่อน ส่วนเคสไหนที่เขาจะมาฟ้องผมว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวของเขาจริงๆ แต่จุดประสงค์ที่ผมและทีมทนาย เข้ามาอธิบาย อยากจะให้เห็นว่าโรงพยาบาลไม่ได้รับหมอที่จะทำคนตาย แต่บางอย่างเราโชว์ไม่ได้เพราะเป็นเรื่องของข้อตกลงกับครอบครัวเขาและที่ศาล แต่แน่นอนว่าขบวนการฟ้องร้องกันก็ต้องใช้ก็ต้องขอหมายเรียกเอกสารกัน”

ขอบคุณแหล่งที่มา :  khaosod