บอย ปกรณ์ ตอบดราม่า หน่องเช็ดตัวให้ น้องวันใหม่ ปล่อยผ่านคอมเมนต์อกุศล

บอย ปกรณ์ ตอบดราม่า หน่องเช็ดตัวให้ น้องวันใหม่ คนมองไม่เหมาะสม เพราะน้องโตเป็นสาวแล้ว ขอปล่อยผ่านคอมเมนต์เชิงอกุศล ซัดบ่งชี้ถึงระดับจิตใจ

ก่อนหน้านี้มีดราม่าในโลกโซเชียลสนั่นถึงประเด็น “หน่อง ธนา” เช็ดตัวให้ “น้องวันใหม่” น้องสาวคนเล็ก ตอนที่ไม่สบาย โดยมีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมายมีทั้งดีและไม่ดี ส่วนใหญ่จะไปในทางมองว่าไม่เหมาะสม เพราะน้องวันใหม่โตเป็นสาวแล้ว

ล่าสุดวันนี้ (23 เม.ย.67) ได้เจอกับ “บอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์” ที่งานเปิดแคมเปญ “SAFE ZONE โซนนี้อุ่นใจ ปลอดภัยจากโควิด-19 พี่ชายคนโตของบ้าน” เลยถือโอกาสถามถึงประเด็นดังกล่าว

ดราม่าหน่องเช็ดตัวน้องวันใหม่? “คือความจริงแล้วเรื่องนี้ ก็ต้องแบ่งเป็นหลายๆพาร์ท หลายๆ ส่วนครับ อย่างแรกเลยสำหรับคอมเมนต์ดีๆ ที่มีการแนะนําเข้ามาเกี่ยวกับเรื่องว่าน้องอาจจะโตเป็นสาวแล้ว อันนี้พวกเราก็ขอบคุณมากๆพวกเราก็จะระวังให้มากขึ้น

ส่วนอีกส่วนหนึ่งสําหรับคอมเมนต์ที่ออกไปในเชิงท็อกซิกเกินไป เป็นคอมเมนต์เชิงอกุศล ตรงเนี้ยผมก็คงต้องปล่อยผ่าน คือเขาอาจจะถูกเลี้ยงดูมาแบบนั้น แล้วผมก็รู้สึกว่าการที่พิมพ์คอมเมนต์อะไรที่แย่ๆ มากๆแบบเกินจริงออกมา มันก็เป็นสิ่งที่บ่งชี้ถึงระดับจิตใจของเขาไปแล้ว ก็ปล่อยไป”

มีกังวลไหมที่เห็นคอมเมนต์แบบนี้? “คือเห็นคอมเมนต์ที่มันแย่ๆอ่ะ มันไม่ชอบอยู่แล้ว ยิ่งเกิดขึ้นกับน้องสาวของเรา แล้วบางคอมเมนต์คือเขียนออกมาได้ยังไงก็ไม่รู้ อันนี้เฉพาะที่แย่ๆนะ อันที่ดีๆก็มีเยอะขอบคุณมากๆ

แต่เราอ่านแล้วก็ปล่อยไป คือเรารู้ดีว่ามันคืออะไร เพราะความจริงแล้ว ถ้าเกิดว่าคนที่ได้เห็นคลิปเต็มๆจะเห็นว่าทุกคนก็อยู่กันในห้องหมด หลายๆคนก็บอกว่านึกว่าอยู่กันสองคนหรือเปล่า ผมก็อยู่เตียงข้างๆแม่ก็นอนอยู่ข้างๆ พอดีวันนั้นแม่เขาเพลียๆก็เลยฝากให้หน่องเช็ดตัวให้หน่อย แม่เขาเพลียแดด”

คนในครอบครัวได้คุยถึงเรื่องนี้ไหม? “ความจริงแล้วเห็น ผมกับแม่แค่กลัวว่าหน่องจะคิดมากหรือเปล่า ก็แค่บอกน้องว่าไม่ต้องคิดมาก เรารู้ว่าอะไรมันคืออะไร ถ้าจะฝากก็อาจจะฝากถึงเรื่องการนําเสนอข่าวของบางอัน ที่ผมเห็นแล้วอาจจะเกิดความไม่ค่อยสบายใจ

ผมว่าสํานักข่าวที่ได้ดูคลิปอะ เข้าใจแล้วก็รู้แหละว่ามันคืออะไร แต่ว่าบางทีการเลือกนําเสนอผมว่ามันสามารถเลือกหยิบนําเสนอในมุมที่ดีๆได้ หรือแม้แต่การพาดหัวข่าว หรือแม้แต่การแคปภาพออกมาเป็นภาพนิ่งทําให้เกิดความเข้าใจผิดที่มากขึ้น อันนี้ก็ฝากไว้ด้วยก็แล้วกัน อันนี้ผมเห็นนะบางอัน ผมใช้คําว่าบางอันเป็นส่วนน้อย ฝากในจุด ผมว่าคนที่ดูเต็มๆ เขาเข้าใจอยู่แล้วว่ามันไม่มีอะไร”

หน่องเป็นยังไงบ้าง? “เขาก็คงไม่สบายใจนิดนึงแหละ แต่ว่าอย่างที่บอกผมกับแม่ก็เลยบอกหน่องว่าไม่ต้องคิดมาก เรารู้ว่าอะไรคืออะไร แต่โอเคพอมีคอมเมนต์ที่ดีๆ แนะนํามา โอเคเราก็ต้องมามองเราเหมือนกัน.

ถ้าเกิดในบางทีเราลืมระวังอะไรไป เราก็ต้องระวังให้มากขึ้นในครั้งต่อไป คืออย่างที่ทุกคนเห็นอ่ะ วันใหม่ถูกเลี้ยงขึ้นมาจากพวกผมทั้ง 3 คน ที่อยู่ด้วยกัน สนิทสนมกัน จนบางทีโอเคตรงนั้นพอเขาพูดมา เราก็เข้าใจนะ

คือการลงโซเชี่ยลครั้งนึงด้วยวิดีโอบางทีมันถูกแคปไปเป็นภาพนิ่ง มันก็อาจเกิดความเข้าใจผิดได้ ก็ต้องระวังให้มากขึ้น ต่อไปนี้ก็ต้องระวังให้มาก”

อย่างนี้ต้องคุยกันไหมในครอบครัว? “แน่นอน พอมันเกิดอะไรขึ้นอย่างเงี้ย เราก็ต้องระวังให้มากขึ้นแค่นั้นเอง แต่อย่างที่ผมบอกไปความจริงปกติหน้าที่เช็ดตัวเป็นของคุณแม่ แต่พอดีวันนั้น เอาจริงๆ แม่เขาเพลียแดดแล้วเวียนหัวนอนอยู่ข้างๆ นั่นแหละ”

พี่ๆ เกร็งกันเลยไหม? “ไม่ได้เกร็งเลยครับ ปกติถ้าเล่นเฉยๆ ทั่วไปกระโดดขี่คอก็ปกติ แต่สมมติว่าคราวหน้าน้องไม่สบายแล้วต้องเช็ดตัว ก็คงให้แม่ทําดีกว่า ทุกคนจะได้สบายใจด้วย”

มีอีกภาพหนึ่งที่น้องนั่งตักแล้วกอดคอเรา คนก็เอ๊ะอีกว่าเหมาะสมไหม? “อันนั้นผมว่าคือไม่ได้มีอะไรนะครับ คือผมเป็นคนที่ทําอะไรผมค่อนข้างคิดเยอะมากเหมือนกัน แล้วอันนี้ผมรู้สึกว่ามันไม่ได้มีอะไร เป็นการเหตุการณ์ต่อเนื่องนะความจริง เหตุการณ์นั่งตักเกิดขึ้นก่อน

คือวันใหม่เริ่มเป็นไข้แล้วตัวร้อนมาก ผมเลยให้เขามาอยู่ใกล้ๆแค่นั้นเอง ก็เป็นความสนิทสนมด้วย แต่เรื่องของการนั่งตัก เอาจริงๆ ผมก็ยังไม่ค่อยเห็นคนพูดถึงเรื่องนี้เท่าไหร่นะ เห็นคนพูดเรื่องของเช็ดตัวมากกว่า แต่นั่งตักผมเฉยๆ ผมรู้ว่าผมทําอะไรอยู่ แล้วตรงนั้นก็เป็นสถานที่สาธารณะ อีกอย่างนึงก็คือเป็นน้องสาวผมเอง”

มีความคิดอยากจะฟ้องคอมเมนต์ที่แย่ๆไหม? “เหนื่อยที่ต้องมานั่งไล่ฟ้อง คือการฟ้องครั้งนึงมันต้องวุ่นวาย เสียเวลา สุดท้ายคนที่โดนฟ้องเขาก็ต้องมาเสียเงิน เอาเป็นว่าผมไม่ได้ถึงขั้นว่า วันนึงจะไม่ฟ้อง แต่ถ้าวันนึงมันเกิดเหตุการณ์ที่มันจําเป็นจริงๆ แล้วค่อยว่ากัน”

ขอบคุณแหล่งที่มา :  khaosod