ยูกิ ไหทองคำ ตั้งเป้าสร้างบ้านให้พ่อแม่ 10 ล้าน ในวัย 16 น้ำตาไหลมีวันนี้ได้ไม่ง่าย

ยูกิ ไหทองคำ ตั้งเป้าสร้างบ้านให้พ่อแม่ 10 ล้าน จากน้ำพักน้ำแรงในวัย 16 เคยอยู่บ้านไม้หลังเก่ามีรูรั่ว ชีวิตมาไกล น้ำตาไหลกว่าจะมีวันนี้ไม่ง่าย

สานฝันในวัยเด็กใกล้เป็นจริงแล้ว สำหรับนักร้องลูกทุ่งหมอลำ ยูกิ ไหทองคำ ที่ตั้งเป้าสร้างบ้านให้พ่อแม่ โดยทุ่มงบกว่า 10 ล้านบาท ล่าสุดได้ฤกษ์ยกเสาเอกเสาโทเรียบร้อย โดยเป็นบ้านที่ ยูกิ ตั้งใจเก็บเงินจากน้ำพักน้ำแรงตลอดการทำงานในเส้นทางอาชีพนักร้องกว่า 7 ปี

มีโอกาสเจอ ยูกิ ที่มาร่วมงานเปิดตัวแบรนด์ ไหโกลด์ ค่ายไหทองคำ ที่ โครงการ เดอะสตูดิโอ 7 ลำลูกกา ปทุมธานี เจ้าตัวได้ให้สัมภาษณ์ถึงความสำเร็จอีกขั้นว่า “ดีใจมากๆ ค่ะ หนูตั้งเป้าไว้ตั้งแต่เด็กแล้วว่าเราจะสร้างบ้านให้พ่อกับแม่ ก็สร้างให้ตัวเองด้วยแรงของเราเองแล้วมันก็เป็นจริง น้ำตาไหลเลยค่ะ ก็ออกแบบไว้ 2 ชั้น หลังใหญ่พอสมควร งบสร้างบ้านน่าจะประมาณ 6 ล้านค่ะ รวมตกแต่งด้วยก็น่าจะถึง 10 ล้านค่ะ ก็น่าจะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 1 ปี

ภูมิใจในตัวเองที่เราทำได้ คุณพ่อคุณแม่ก็ดีใจค่ะ เขาพูดตลอดว่าเราทำได้แล้วนะ กว่าจะมาถึงวันนี้ก็เหนื่อยเหมือนกันค่ะ บ้านหลังเดิม มันเป็นบ้านไม้เก่าๆ ตั้งแต่สมัยก่อน มันจะมีรูรั่ว เวลาร้อนไม่มีแอร์ เราก็เอากระดาษหรือหนังสือมาพัดกันเอง เวลาฝนตกแล้วไฟดับ

มาถึงวันนี้ได้ก็มาไกลมากๆ ดีใจมากๆ ที่มีวันนี้ หลังจากนี้ที่ตั้งเป้าไว้อีก ก็อยากจะทำร้านคาเฟ่ สวยๆ สักที่หนึ่งที่อุดร เราชอบทำธุรกิจ ก็อยากทำควบคู่ไปกับการร้องเพลง ล่าสุดเพิ่งปล่อยซิงเกิลใหม่ เพลงใจแต่ง เพลงนี้แต่งเอง ร้องเอง เล่นเอ็มวีเอง ร้องไห้เองค่ะ(หัวเราะ) ที่อินเพราะในความคิดของหนูทุกตัวหนังสือที่เขียนออกมา มันก็เลยรู้สึกซึ้ง ทำไมเราคิดได้

ชีวิตยูกิไม่ง่ายกว่าจะมาถึงวันนี้ สู้มากๆ อย่างที่โพสต์ไปถามว่าน้อยใจอะไรหรือเปล่า มันก็มีมาเรื่อยๆ ค่ะ ในช่วงนั้นมีดาวน์ลงบ้าง แต่ว่าตอนนี้มันดีขึ้นแล้ว เราเลือกที่จะไม่ไปดูดีกว่า ถามว่าเวลาเจออะไรหนักๆ เราฮีลใจตัวเองยังไง หนูก็พูดกับตัวเองว่า ถ้าจะมานอยด์แบบนี้มันก็ต้องมีมาเรื่อยๆ เราก็ปล่อยวางดีกว่า

เราอายุยังน้อย เวลาเจออะไรหนักๆ บางทีมันก็รับไม่ได้ค่ะ แต่ว่าตอนนี้ชินแล้ว มาได้เลยค่ะ(หัวเราะ) แฟนๆ เป็นห่วงมีความเครียดอะไร ก็มีบ้างค่ะ มันอยู่คนเดียวด้วยช่วงนั้น ไม่มีอะไรทำ โพสต์ดีกว่า (หัวเราะ) เวลาเรามีเรื่องไม่สบายใจ คนแรกที่คุยด้วยก็จะเป็นพี่สาว พี่ๆ ทีมงาน ช่างแต่งหน้า และคุยกับพ่อกับแม่ค่ะ ส่วนมากไม่ค่อยได้คุยกันกับพี่ๆ ในค่ายเท่าไหร่ เรื่องส่วนตัวจะคุยกับพี่ๆ ที่สนิทกับเรามากกว่า ส่วนเรื่องสัญญากับทางค่าย หนูเซ็นไว้ 3 ปี ตอนนี้ผ่านไป 1 ปี แล้วก็ยังมีสัญญาอยู่ค่ะ”.

ขอบคุณแหล่งที่มา :  khaosod