มิว ศุภศิษฏ์ กดดันเป็น พี่คล้าว มนต์รักลูกทุ่ง๒๕๖๗ วอน fc เปิดใจ

มิว ศุภศิษฏ์ กดดันเป็น พี่คล้าว มนต์รักลูกทุ่ง๒๕๖๗ วอน fc เปิดใจ ให้โอกาสเวอร์ชั่นใหม่ รับเคยเสียงหาย หวั่นเรื้อรัง
มิว ศุภศิษฏ์ / ยอมรับว่ากดดันไม่น้อยกับการสวมบทบาทเป็น “พี่คล้าว” ของพระเอกหนุ่ม “มิว ศุภศิษฏ์ จงชีวีวัฒน์” ในละคร “มนต์รักลูกทุ่ง๒๕๖๗”
โดยวันนี้ (26ก.ค.66) หนุ่มมิว ที่มาร่วมฟิตติ้ง ละครเรื่อง “มนต์รักลูกทุ่ง๒๕๖๗” ณ อาคาร 15 คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี ได้เปิดใจถึงความท้าทายกับประสบการณ์แปลกใหม่ ทั้งเป่าขลุ่ย ขี่ควาย และตื่นเต้นกับการร้องเพลงลูกทุ่งครั้งแรก พร้อมเผยเข้าใจกระแสเปรียบเทียบกับเวอร์ชั่นในตำนาน วอนแฟนๆ เปิดใจรับเวอร์ชั่นล่าสุด พร้อมเผยเรื่องที่เป็นหลอดลมอักเสบก่อนหน้านี้ ทำให้เสียงหาย ต้องงดใช้เสียงไปช่วงหนึ่ง

เป็นพี่คล้าวมนต์รักลูกทุ่ง เวอร์ชั่น2567? “ก็รับบทเป็นพี่คล้าว 2567 ครับ เป็นบทที่ท้าทายและใหม่มากสำหรับผม มีหลายหลายอย่างที่ต้องฝึกทั้งการเป่าขลุ่ย ไปเรียนร้องเพลงและแน่นอนว่าต้องมีขี่ควายด้วย ก็จะเสียวๆ อยู่เหมือนกัน เพราะว่าควายที่ได้รับบทในเรื่องตัวใหญ่มาก คือเป็นควายประกวดสีสวยมาก ต้องรอดูในเรื่อง ผมก็มีไปซ้อมขี่บ้าง ตอนนี้ภาวนาอย่างหนึ่งว่าทีมคอสตูมอย่าให้ผมใส่เสื้อสีแดงก็พอ (หัวเราะ) กลัวโดนขวิดเสียวเหมือนกัน”
ในเรื่องต้องถอดเสื้อเยอะไหม? “ทางทีมผู้จัดก็กระซิบมาว่า มิวในเรื่องต้องมีถอดเสื้อนิดหน่อยนะ อย่าลืมฟิตเฟิร์มๆ ด้วย ตอนนี้ก็ถอดได้เลยนะ (หัวเราะ) รอดูในเรื่อง”

พอเป็นมนต์รักลูกทุ่งที่ทำมาหลายเวอร์ชั่นแล้ว เรามีความกดดันไหม? “ยอมรับว่ากดดันครับ เพราะแต่ละเวอร์ชั่นก็ทำไว้ดีมากๆ เลยทำให้เวอร์ชั่นในปัจจุบันตอนนี้ต้องบอกว่าเนื้อเรื่องมีความคล้ายๆ เดิมแต่ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป เทคโนโลยีต่างๆ ที่มันเปลี่ยนไปรวมทั้งวิธีการนำเสนอเรื่องก็จะมีเปลี่ยนไป ก็รู้สึกกดดัน แต่พอได้อ่านบทแล้วสนุกมากๆ แล้วแต่ละคนที่แคสต์มาตรงคาแร็กเตอร์มากเลย น่าจะสนุกมากๆ ครับ”
เวอร์ชั่นนี้มีส่งแชทส่งไลน์ตามยุคสมัยนี้ไหม? “มีๆ มีแน่นอนก็จะเป็นยุคปัจจุบันเลยครับ มีไลน์มีแชท มีโทรหากัน วิดีโอคอลก็มี อยากให้ทุกคนได้ลองเปิดใจรับเวอร์ชั่นใหม่ดูว่าจะเป็นยังไงแต่เรื่องเส้นความรักต่างๆ ที่คล้าวกับทองกวาวต้องเจออุปสรรคต่างๆ ยังมีความดราม่าอยู่เยอะแยะมากมายแน่นอน”
ด้วยความเป็นละครในตำนาน เวอร์ชั่นนี้มีการปรับใหม่ คนที่ยังลืมภาพจำเดิมไม่ได้ มีการเปรียบเทียบ เราตั้งรับยังไง? “เรื่องการเปรียบเทียบก็ห้ามไม่ได้อยู่แล้ว เราก็ทำเต็มที่ที่สุดในฐานะของนักแสดง ส่วนเรื่องบท วิธีการกำกับภาพ เป็นหน้าที่ของทางทีม ส่วนเราก็สามารถจัดการได้ในส่วนของเรื่องการแสดง ต้องบอกว่าเต็มที่แน่นอนทั้งผมและน้องชาล็อตรวมถึงนักแสดงทุกๆ คนเลยครับ”

มีร้องเพลงลูกทุ่งด้วยสำหรับมิวถนัดไหม? “ต้องบอกว่าผมฟังเพลงลูกทุ่งเฉยๆ แต่ว่ายังไม่มีโอกาสได้ร้องแบบจริงจังเลย ก็จะเป็นครั้งแรกที่จะได้มาร้องเพลงลูกทุ่งด้วย ตื่นเต้นมากที่สุดในเรื่องแล้วร้องเพลงลูกทุ่ง อันดับสองคือขี่ควาย (หัวเราะ) ก็ต้องไปเรียนร้องเพลงเพิ่มแน่นอน และมีการปรึกษาคุณครู คือทีมนักแสดงก็มีหลายคนที่ร้องเพลงลูกทุ่งแบบเชี่ยวชาญมากๆ ก็ปรึกษากันว่าต้องร้องอะไรยังไงดี ในเรื่องจะมีเป็นเพลงเดิมด้วย และมีทั้งเพลงเดิมที่ถูกเปลี่ยนให้เข้ากับยุคสมัยด้วย มีโอกาสได้ฟังแล้วต้องบอกว่าเจ๋งมากๆ เลย บางเพลงมีท่อนแร็พด้วย ฟังแล้วเข้ามากๆ เลย พร้อมเป็นพี่คล้าวแล้วครับ ไปทำผิวแทนมาเรียบร้อยแล้วเนี่ย (หัวเราะ) ไปตากแดดเฉยๆ เป็นคนผิวแทนง่ายครับ”
ไปตากแดดที่ไหนมา? “ก็ได้กลับมาไทยนี่แหละ ถ่ายงานข้างนอกเอ้าต์ดอร์แป๊บนึงก็ผิวแทนแล้วครับ ปกติช่วงเดือนที่ผ่านมาบินบ่อย ในส่วนเรื่องแฟชั่นด้วยครับ ไปมิลาน ไปปารีส และมีไปเที่ยวนิดหน่อย แต่ว่าช่วงนี้ส่วนใหญ่จะเป็นถ่ายละคร ถ่ายซีรีส์แล้วครับ ต้องยอมรับว่าปีนี้รับไว้หลายเรื่องเหมือนกัน ต้องทำการบ้านเรื่องบทต่างๆ ตอนนี้ก็เวิร์กช็อปอยู่ 3 เรื่อง”

เพราะรับไว้หลายเรื่องก่อนหน้านี้เลยไปเจอแฟนๆ ในงานแฟนมีตก่อน? “ใช่ครับ ตอนนี้ก็พยายามหาอีเว้นต์ที่จะสามารถเจอแฟนๆ ได้ เพราะส่วนใหญ่คิวต้องล็อกไปให้ทางละครกับซีรีส์ แต่ตอนนี้ก็ยังมีแฟนมีตติ้งอยู่ เดี๋ยวตอนต้นเดือนสิงหา จะต้องไปแฟนมีตติ้งที่ญี่ปุ่น ไปโอซาก้า กลับมาก็เริ่มเปิดกล้องเลย แฟนๆ ได้เห็นหน้าตลอดแน่นอน พยายามจะมาอัพเดตทางโซเชียล ถ้าช่วงไหนไม่ได้เจอกันทางอีเว้นต์หรือบางทีก็ไลฟ์บ้างพูดคุยกับแฟนๆ ว่าเป็นยังไงบ้าง คิดถึงมั้ย”
ก่อนหน้านี้เห็นว่าเรามีปัญหาเรื่องเสียง ตอนนี้กลับมาร้องเพลงได้เต็มที่หรือยัง? “ก็ดีขึ้นเยอะแล้วครับ ช่วงนั้นผมไม่แน่ใจว่าเรื่องเสียงเหมือนเป็นหลอดลมอักเสบทำให้จะต้องหยุดใช้เสียงช่วงระยะหนึ่ง แต่ด้วยความที่เราทำงานที่ต้องพูดมันก็ใช้เวลานานในการหายหน่อย เป็นเดือนเหมือนกันนะกว่าจะหาย ช่วงนี้ก็รู้สึกว่ากลับมาเรียนร้องเพลงได้แล้ว”
กังวลตอนนั้นมันอาจจะส่งผลกระทบกับอาชีพของเรา? “กังวล เพราะว่าช่วงที่เป็นโควิดครั้งแรกต้องยอมรับเลยว่าพอกลับมาแล้วเสียงไม่เหมือนเดิม ปกติร้องเพลงได้เป็นชั่วโมงเลย พอเป็นโควิดกลับมาถ้าใช้เสียงเยอะจะเริ่มไอแล้วครับ เคยร้องเพลงไปด้วยไอไปด้วยก็เคย ก็เลยรู้สึกค่อนข้างกังวลเรื่องเสียง”

กลัวเรื้อรังถึงขั้นต้องผ่าตัดเลยไหม? “ก็ค่อนข้างกลัวครับ เพราะเหมือนลองโควิดก็เป็นเยอะในหลายๆ คน ส่วนตัวรู้สึกเป็นเหมือนกันเพราะว่าเสียงไม่เหมือนเดิม ก็เลยต้องเซฟเสียงเยอะเหมือนกัน แต่ว่าเวลาเราไปเวิร์คช็อปการแสดง ก็เผลอตะโกนไปโดยไม่รู้ตัวเพราะอินอยู่ บางทีก็เจ็บคอง่ายเหมือนกัน ก็ต้องคอยรีเช็กครับ พยายามไม่ให้คอแห้งบ่อยๆ พยายามจิบน้ำ ถ้างดได้ก็งดตะโกนตะเบ็งจะได้ไม่ต้องใช้เส้นเสียงเยอะ แต่เรื่องนี้โชว์ลูกคอได้แน่นอน ถามว่าตอนนี้เสียงกลับมากี่เปอร์เซ็นต์ ถ้าเราหักลบจากโควิดไปแล้วกัน มันน่าจะลดลงมาตอนนั้นแล้วแหละ แต่ว่าถ้าปัจจุบันเรื่องหลอดลมอักเสบ คิดว่าหายเต็มร้อยแล้วครับ”
ขอบคุณแหล่งที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_7785951
บันเทิง















ความคิดเห็น