“พีช พชร” คว้าโอกาสเล่นหนัง “ซอมบี้อีสาน” ทำเต็มที่ไม่คาดหวัง

ห่างหายการแสดงไปพักใหญ่ สำหรับ พีช-พชร จิราธิวัฒน์ พระเอกหนุ่มมากความสามารถ กลับมาพร้อมผลงานภาพยนตร์คอมเมดี้แอ็กชันเรื่อง “อีสานซอมบี้” ค่ายเอ็ม เทอร์ตี้ไนน์ ซึ่งเจ้าตัวแฮปปี้มากเพราะได้ร่วมงานกับคนคุ้นเคย และยังเป็นหนังสานฝันให้กับนักเขียนหน้าใหม่ จากโครงการ “เมเจอร์ ไรท์เตอร์ คอนเทสต์” ยิ่งอยากซัพพอร์ต ให้โอกาสคนรุ่นใหม่ มีกำหนดเข้าฉาย 28 ธันวาคมนี้
เริ่มจาก...การทำงานเรื่องนี้เป็นอย่างไรบ้าง
“การทำงานในเรื่องนี้สนุกดี ทุกคนมีความจริงจังในการทำงาน ผมชอบเรื่องนี้นะ ตอนเล่นมันตลกดี เล่นกับแจ็ค แฟนฉัน แบบนี้ เคยทำงานด้วยกันมาก่อน มาเจออีกรอบ แคสเรื่องนี้เจอคนค่อนข้างคุ้นชินเหมือนกัน พี่บอย-ภิษณุ พี่ต้นหอม เจอตามงานแต่ไม่เคยทำงานด้วยกันจริงจัง หรือพี่ตุ๊กกี้ก็ไม่เคยทำงานด้วยกัน พี่จตุรงค์เคยเล่นด้วยกันบ้าง คนคุ้นเคยมาเจอกันใหม่ก็ง่าย หรือออกแบบ-ชุติมณฑน์ ไม่เคยทำงานกับเค้าแต่ดูงานเขาตั้งนาน เป็นความโชคดีของผม เป็นนักแสดงคนนึงที่ผมชอบตั้งแต่เล่นฉลาดเกมส์โกง, ฮาวทูทิ้ง ผมดูเขามาหลายเรื่อง ผมแค่รู้สึกทุกโปรเจกต์ที่เค้าเลือกมันมักจะดี ผมอยากทำงานกับเขามาสักพักนึงแล้ว”

แสดงว่าเห็นชื่อออกแบบไม่ต้องคิดอะไรเยอะเลย
“ใช่ๆ เกาะเค้าแหละ (หัวเราะ)”
หนังที่เราเล่นก็ดังไม่แพ้กัน
“ไม่รู้สิ เดี๋ยวนี้มันก็ยากขึ้น วงการภาพยนตร์จะหวังหนังทำเงินไม่ใช่ยุคแบบนั้นด้วยแล้ว โอเคมีหนังหลายเรื่องที่ผ่านมาทำได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสัปเหร่อ แต่สำหรับผมเป็นปรากฏ การณ์ที่ไม่ได้เห็นมากนัก ก่อนหน้าสัปเหร่อ หนังทำเยอะจริงๆ บุพเพฯโด่งดังจากละคร มีฐานแฟนคลับแต่ก่อนหน้านั้นไม่มีเลย ผมเลยรู้สึกเราไม่ได้อยู่วงการภาพยนตร์ที่จะมาพูดว่าหนังทำเงินแล้ว คาดหวังไม่ได้”
การทำงานกับออกแบบเป็นยังไงบ้าง
“ก็ดี ออกแบบเค้าเป็นคนที่มีรสนิยมในการอ่านบทและปรับตัวและออกแบบตัวละครให้เข้ากับเค้าได้เป็นอย่างดี การมาเล่นหนังเรื่องนี้ ทั้งออกแบบและผมก็ต้องปรับตัวทั้งคู่ เราไม่เคยเล่นคอมเมดี้จ๋าแบบนี้มาก่อน ออกแบบเค้าจะรับมุกแบบผู้ชายมากๆไม่ได้ แล้วพี่แจ็คก็จะชอบเติมบทเป็นมุกภาษาทะลึ่งหยิบนิดนึง แต่ออกแบบเค้าไม่เคยได้ยินเค้าก็จะงงๆ ทำให้เราจะชอบแกล้งเค้า (หัวเราะ)”
ปกติการรับหนังพีชจะเลือกจากอะไรเป็นหลัก
“ผมแค่รู้สึกเราสนุกมั้ย เล่นให้มันดีจะเป็นงานที่ดี ผมรู้สึกว่ามันเป็นโอกาสดีที่เราไม่เคยมีหนังที่เป็นซอมบี้ เรื่องผีห่าอโยธยา ใกล้สุดเมืองไทย เลยรู้สึกว่าเจ๋งดีเหมือนกัน เราไม่เคยขีดจำกัดว่าซอมบี้เราเป็นยังไง เป็นโอกาสดีที่ได้มาทำ ลองสร้างกรอบซอมบี้แบบไทยเป็นยังไง สุดท้ายออกมาเป็นไทยมันคือความคอมเมดี้อีกแบบนึง อีกอย่างสำหรับผมมันมี บียอนด์ ด้วยเซ้นส์ มีความเป็นหนังพาโรดี้ นึกง่ายๆ สแครี่ มูฟวี มีความล้อเลียน หนังเรื่องนี้ก็มีหน้าหนังเป็นผีเป็นตลก แต่เนื้อมีความล้อเล่นนิดนึงและ
บทเรื่องนี้เป็นบทชนะการประกวดมา เลยรู้สึกน่าสนใจดี เราก็ควรทำ ประเทศเราขาดคนเขียนบทเราควรซัพพอร์ตคนเขียนบท
รุ่นใหม่ อย่างน้อยจะดีหรือแย่ให้เขามีโอกาสได้โชว์ผลงานตัวเอง เลยรู้สึกว่าเป็นหนึ่งเรื่องที่มีโอกาสเอาบทที่เด็กๆ เขาเขียนเขาชนะมาโชว์เคสให้เป็นภาพยนตร์จริงๆถ้าเราเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนผลงาน สร้างทาเลนต์ที่เราขาดมาเพิ่มได้ เราหวังว่าวันนึงมันจะดีขึ้นเรื่อยๆ มีคนอยากทำอีก เป็นปัจจัยการเลือกเรื่องนี้”
แนวคอมเมดี้เป็นทางถนัดของพีช
“ผมไม่ถนัดขนาดนั้น ถ้าสังเกตดีๆหนังคอมเมดี้ที่ผมเล่น ผมจะไม่ได้เป็นตัวตลกในเรื่อง ไม่ใช่ทางถนัดแค่เราถูกจับไปอยู่ในหนังคอมเมดี้เท่านั้นเองผมว่าอาจจะเป็นตัวรับ ผมเป็นคนไม่ตลกที่สุดในเรื่อง เรื่องนี้เหมือนกัน อยู่ในสถานการณ์อีหยังวะ เป็นตัวละครผู้จัดการซุปเปอร์มาร์เกต ถูกส่งมาสาขาเพราะเกิดการโกง ทำงานไม่ได้เรื่อง มาคุม มาอยู่ในสถานการณ์รายล้อมด้วยคนที่เป็นคอมเมดี้ มีความยากอยู่เหมือนกัน ทำยังไงไม่ให้เราหัวเราะ ผมจะเป็นคนขำง่ายมาก อย่างไบค์แมนถ้าดูดีๆ จะเห็นไหล่ค่อนข้างขยับบ่อย เรื่องนี้ก็เป็น”

ทางออกแบบชื่นชมพีชเป็นตัวตึงปล่อยมุก
“จริงๆผมจะเป็นแกนนำในการหลับมากกว่า กับแกนนำนวดหลัง เปิดตัวด้วยการนวดจนตอนหลังแจ็คจ้างหมอนวดมานวดในกองถ่ายแล้ว ทุกคนทำตามกัน”
นักแสดงแต่ละคนแต่งเต็มเป็นซอมบี้ รู้สึกกลัวบ้างมั้ย
“ไม่ สนุกเจ๋งดี เมื่อไหร่จะได้ใส่บ้าง อยากลองใส่บ้าง”
เราจะได้ใส่ตอนท้าย
“ไม่บอก (ยิ้ม) ในโปสเตอร์ที่เห็นแต่งเป็นซอมบี้สนุกดีนะผมอยากเล่นตัวประหลาดบ้าง มีความรู้สึกอยากลองเปลี่ยนอย่างอื่นบ้างแต่ไม่ค่อยมีให้เราได้ลองเล่นพิสดาร พอได้ลองแต่งเจ๋งดี แต่บทหนังไทยไม่ได้วาไรตี้มาก มีข้อจำกัดอยู่ หนังเพื่อน หรือหนังผีเป็นหลัก พอเป็นบทผีเขาก็จะไม่ค่อยนึกถึง”
คาดหวังเรื่องนี้เข้าปลายปีแบบนี้ด้วย
“ผมไม่ได้คาดหวังอะไรมากอยู่แล้ว ผมว่าเป็นยุคที่เดาได้ค่อนข้างยาก ไม่สามารถพูดได้ว่าหนังค่ายไหนจะทำเงินได้มากกว่า สุดท้ายหนังที่เวิร์กคือหนังที่ปากต่อปากแล้วไปได้ เราเดาไม่ได้จริงๆ” เห็นว่าจะบินไปเรียนต่อเมืองนอก “ยังอยู่ครับ เพิ่งกลับมาแต่เดี๋ยวกลับไปใหม่ เรียนปริญญาโท เป็นการเรียนเพื่อจัดการกับโปรเจกต์สเกลใหญ่ๆ ก็ตรงกับสิ่งที่ผมทำในช่วงโควิด เราทำเรื่องอาหารแต่ไม่ใช่อาหารแต่เป็นโปรเจกต์ที่ช่วยคนส่วนใหญ่”

ความรักช่วงนี้บ้างแฮปปี้ดีมั้ย
“ครับ ก็ใช้ชีวิตนี่แหละ แบบนี้”
สรุปมีคนคุยๆมั้ย
“ไม่ใช่เรื่องที่จะโฟกัสที่น่าจะพูดถึงอย่างไร (ยิ้ม)”
ไม่อยากเปิดแล้ว
“ไม่บอก ผมแค่รู้สึกว่ามันก็เป็นเรื่องปกติ เรื่องทั่วไปที่ไม่น่ารู้แต่อย่างใด”
ไม่นะ แฟนๆอยากรู้ เหมือนครั้งนี้เราโสดนาน
“ผมว่าคนคงไม่ได้อยากรู้อะไรขนาดนั้นหรอกมั้ง แก่แล้วด้วย เราไม่ใช่เด็กวัยรุ่นที่คนอยากรู้แล้ว อายุ 30 แล้ว เราไม่ได้อินเทรนด์ ไม่ต้องรู้หรอก (หัวเราะ)”
จะเปิดตัวปุ๊บแต่งเลย
“ไม่รู้เหมือนกัน ผมไม่ได้คิดเรื่องนั้น มีหลายอย่างที่เราทำอยู่ ยังมีเป้าหมายหลายอย่างที่เราอยากทำให้ได้ก็เยอะ โปรเจกต์ปีหน้าก็ตื่นเต้นก็เยอะ ทำเสร็จแล้วรอออก ยังมีหลายอย่างที่เราอยากทำครับ”.
ขอบคุณแหล่งที่มา : thairath
บันเทิง















ความคิดเห็น