ไอซ์ อภิษฎา เคลียร์ปมถูกมองเป็นเมียน้อย เผยเหตุผลทำไมไม่เปิดหน้าสามี

มานั่งเปิดใจเล่าหมดเปลือกเป็นครั้งแรกผ่านรายการ Thairath Talk กับ เรโด้ ไทยรัฐทอล์ก สำหรับ ไอซ์ อภิษฎา กับดราม่าที่เคยเกิดขึ้น เมื่อครั้งที่เธอได้ออกมาโพสต์ภาพรูปแหวนเพชร จากนั้นไม่นานก็ได้เผยว่ากำลังตั้งครรภ์ ซึ่งประเด็นดังกล่าวถูกเป็นที่พูดถึงอย่างมาก อีกทั้งยังมีดราม่าถูกคนออกมาแฉว่า ไอซ์เป็นเมียน้อย และต่างก็สงสัยว่า ทำไมไอซ์ถึงไม่เคยโพสต์ภาพกับสามีเลย ซึ่งไอซ์ได้พูดถึงเรื่องดังกล่าวทั้งหมดว่า 

“ตอนอยู่ภูเก็ตเราใช้ชีวิตปกติมาก คุณผู้ชายเวลาเขาไปไหนกับไอซ์ เขาชอบนะ เขาบอกว่า ทำไมฉันมาคนเดียวไม่มีใครต้อนรับฉันเลย (หัวเราะ) ก็บอกเขาขี้เกียจพูดภาษาอังกฤษด้วย เวลาไปไหนคนถ่ายรูปไอซ์ แต่ทุกคนเขาน่ารักไง เขาไม่ได้เอาไปโพสต์ แต่เราใช้ชีวิตปกติมากเลย”

จุดเริ่มต้นมาจากที่วุ้นเส้นโพสต์รูปแหวนเพชร จากนั้นเกิดอะไรขึ้น?

“มีคนมาก่อกวนสามี คอยตามหรือโพสต์คนอื่นแบบวุ่นวาย แล้วไอซ์มารู้เรื่อง ก็บอกว่าช่างเขาเถอะ เดี๋ยวเขาเบื่อเขาก็หยุดเอง แล้วพอวันหนึ่งเราเริ่มประกาศว่าท้อง ปกติไอซ์ไม่ใช่ทาร์เก็ต ทาร์เก็ตเขาคือคุณผู้ชาย ซึ่งไอซ์ไม่เคยเปิดตัวเลย แล้วอยู่ดีๆ มันปุ้งปั้ง ซึ่งอันนี้ไอซ์ไม่รู้ว่าเขาคือใคร ไอซ์แค่เดา

แล้วอยู่ดีๆ วันหนึ่งก็มาคอมเมนต์ใต้รูปที่ดารามาคุยกับเรา คือก่อนหน้านั้นเขาไม่ได้ใช้ชื่อนี้ คนก็ไม่ได้มาสนใจอะไร แล้วเพื่อนก็ถามว่าทำไมไม่บล็อกล่ะ เราก็บอกว่าไม่ ไม่อยากให้ความสำคัญ มันเหมือนเราไปกลัวเขา แต่จริงๆ เป็นความคิดที่ผิด ถ้าเราบล็อกไปตั้งแต่ตอนนั้นก็จบ อาจจะไม่มีเรื่องอะไรด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้ไม่อยากให้ค่า ช่างมันเถอะ

แล้วเขาก็เปลี่ยนหัวชื่อประมาณว่าแชร์สามีกัน นั่นล่ะ พอเขาเปลี่ยนหัวชื่อ มันตรงจุด นักข่าวเอาไปเล่นได้ ณ ตอนนั้นเราท้อง เรารู้สึกว่าแบบใจร้ายจังเลย ถ้าเราเป็นคนที่รับมือไม่ได้ มันจะมีผลกระทบอะไรกับเด็กคนนี้บ้าง 

เอาแค่แบบเกิดเรื่องอะไรขึ้น เราไม่ใช่พระอิฐพระปูนไม่มีความรู้สึก ต่อให้เราบอกว่าเรารับได้ แต่มันก็ต้องมีกระทบอยู่ดี ไม่มากก็น้อย โชคดีที่มีการสะสมการปฏิบัติธรรมมาทำให้เรามีสติ ถ้าใครเจอแบบนี้สติหลุดอยู่แล้ว คงอยากจะสู้กลับอยู่แล้ว แต่ลึกๆ เราอยากให้เกียรติตัวเองมากกว่านี้ในการที่เขาคือใครก็ไม่รู้ แล้วถ้าเราออกมา คนที่เขาไม่เชื่อก็ไม่เชื่อ แต่ถ้าคนที่เชื่อ ต่อให้เราพูดอะไรเราก็เป็นการแก้ตัว ณ ตอนนั้นก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของกฎหมายแล้วกัน 

ณ ตอนนั้นเรารู้สึกต่อให้เราชนะก็ไม่คุ้ม สิ่งที่เราจะส่งต่อไปให้ลูกเราไม่คุ้ม และถ้าเรายืนหยัด เรารู้อะไรจริงไม่จริง มันสำคัญกว่า แต่ยากนักที่คนจะเข้าใจ แต่ ณ ตอนนั้นทำไมเราต้องไปสู้กับคนนี้ด้วย การที่เราไม่สนใจมันไม่ใช่เรื่องง่ายนะ ที่คนโดนกระทำแล้วจะไม่สนใจ แต่ถ้าเราไม่สนใจ เราจะมีค่ามากกว่าที่เราจะลงไปตอบโต้กับเขา ถ้าวินาทีนั้นไม่ได้ท้อง การต่อสู้จะเป็นอีกแบบ อาจจะมีตายกันไปข้างหนึ่งก็ได้ ใช้กฎหมายจัดการอีกแบบ”

เจอคอมเมนต์แง่ลบแบบนี้นานไหม?

“เห็นไอซ์แกร่งๆ แบบนี้ แต่พอเจอคอมเมนต์ก็ไม่กล้าหรอก”

“ขอพูดตรงนี้แล้วกัน เขาไม่เคยขอใครแต่งงาน เขาไม่เคยแต่งงานกับใคร และเขาไม่กล้ามีลูกกับใคร ยืนยันเลยว่ามันไม่มี แล้วเรากับเขาไม่ต้องถามอะไรกันด้วย และขอย้ำอีกที แฟนของไอซ์ไม่เคยแต่งงานมาก่อน ไม่เคยมีลูกกับใคร ไม่เคยขอใครแต่งงาน”

ช่วงเวลาที่ทำใจยากที่สุด ใครเป็นกำลังใจที่ดีที่สุดสำหรับไอซ์?

“พ่อแม่ รู้ไหมว่าไอซ์มีกลุ่มแฟมิลี่ค่ะ พอเกิดเรื่องขึ้น ไลน์มันเด้งเยอะไปหมดเลย ถามว่าจริงไหม เกิดอะไรขึ้น แต่ว่าในแฟมิลี่ของไอซ์ส่งมาว่า ไม่ต้องกลัวพ่อแม่คิดมากนะลูก พ่อแม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร อย่าเครียดนะลูก นึกถึงตัวน้อยนะ ไม่มีประโยคคำถามเช่นว่า จริงไหม เกิดอะไรขึ้น เรื่องมันเป็นยังไง ไม่มีคำถามอะไรแบบนี้เลย เรารู้สึกว่านี่มันเป็นเรื่องเล็กน้อยนะ (น้ำตาคลอ) แต่เรารู้สึกโชคดีมากเลยที่ได้เกิดมาอยู่ในครอบครัวนี้ เขาไม่ได้ทำให้เรารู้สึกว่าต้องมาตอบคำถามเขา หรือทำให้เราหนักใจอะไรเลย ถ้าเป็นครอบครัวอื่นจะมาถามให้เล่าให้พ่อแม่ฟังหน่อย แต่กับครอบครัวเราบอกว่าไม่ต้องเครียดนะ (ร้องไห้)”

สามีเริ่มจีบไอซ์ยังไง?

“เข้ามา มีเพื่อนแนะนำ คุณก้องไฮฟ์นี่แหละค่ะ เอาจริงๆ ต้องขอบคุณเขา เพราะตอนนี้ไอซ์มีความสุข พอเรามีความสุข เราไม่ใช่สายป่าวประกาศมากมาย แต่เขาทำให้ไอซ์รู้สึกโชคดี คุณก้องก็อยากให้เพื่อนแฮปปี้ คือเริ่มจากเขาโพสต์รูปเราลงไอจี แล้วคุณผู้ชายเขาเป็นเพื่อนกัน ก็มาทักในไอจี

ตอนแรกเราไม่ชอบฝรั่งเลย เราไม่เคยมีแฟนฝรั่งเลย ตอนแรกเราจะไม่ไป เพราะรู้สึกไม่ชอบ ไปก็ไม่ชอบอยู่ดี โควิดด้วย ไม่อยากมีแฟนฝรั่ง เราก็แคนเซิลเขาไป 2 รอบ เพื่อนบอกให้ไปหน่อย มันน่าเกลียด จะได้จบๆ ไป พอไปก็รู้สึกไม่ได้น่ากลัว แต่รู้สึกชอบ ซึ่งไม่รู้ว่าความชอบนี้มันมายังไง ไม่ใช่รักแรกพบ แต่มันค่อยๆ ซึม และรู้สึกว่าคบแฟนฝรั่งมันไม่ได้แย่ 

เราชอบที่เขามีภาวะผู้นำ ในชีวิตที่เรามีประสบการณ์ความรักมา วันหนึ่งถ้าเราถึงเวลาที่ใช่ เราจะรู้เองว่าเราอยากได้คนแบบไหน สุดท้ายเราเจอคนที่อยากได้เป็นพ่อของลูก เรารู้สึกเซ็กซี่จังเลย แล้วทำยังไงอยากเป็นผู้นำ แต่ก็มาถามตัวเองว่าอยากเป็นผู้นำไปตลอดชีวิตหรือเปล่า ก็ต้องปรับปรุงตัวเอง แต่ไม่ใช่ปรับเพื่อที่อยากจะได้ผู้นะ แต่ปรับปรุงเพื่อให้ใช้ชีวิตในโลกนี้ได้จริง เพราะว่าถ้าเราชอบคนไทป์นี้ แต่เราก็ทิ้งความเป็นตัวเองไม่ได้หรอก เราก็ต้องปล่อยให้เขาเป็นผู้นำเรา และในบางเรื่องเราก็ต้องคุยกันว่า เธอต้องให้เกียรติเราเป็นผู้นำในบางเรื่องเหมือนกัน”

เขาบอกว่าสามีของไอซ์เป็นเศรษฐีของฝรั่งเศส มีบริษัทอายุ 100 กว่าปี?

“ไม่ใช่ค่ะ ไม่ใช่จริงๆ เขาก็มาจากครอบครัวที่มีเงินของเขา แต่ไม่ได้ติดท็อป 5 ของโลก แต่มันคือการที่เขาลือ แต่ถามว่าเขามาจากบริษัทที่ครอบครัวแบบเป็น 100 ปี อันนี้มีแต่ไม่ใช่ขนาดนั้น เขาเป็นคนที่ไม่ได้แบบฉันรวย ซื้อทุกอย่าง เราชอบที่เขาใช้ความคิด ทุกอย่างมีเหตุผล”

ชอบอะไรในความเป็นเขามากที่สุด?

“ก็ชอบทุกอย่างในตัวเขา แต่ถ้าเด่นมาเลยเราจะรู้สึกว่าต่อให้วันนี้เขาไม่มีเงิน ความรู้ความสามารถอะไรที่เขามี เขาจะเป็นผู้นำครอบครัวให้เราได้ บางคนอาจจะไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเป็นคนไม่อยากออกสื่อขนาดนั้น แต่พอไอซ์ได้ไปเจอครอบครัวเขา ไอซ์รู้ว่าคนเราเกิดมาโดนเลี้ยงดูไม่เหมือนกัน แต่ครอบครัวของเขา ความลักชูรี่ของเขาคือไพรเวซี่

แต่ละคนชอบไม่เหมือนกันไง เพราะเขาเป็นแบบนี้ แล้วไม่ใช่แค่ตัวเขา ครอบครัวของเขาทำให้เรารู้ว่าเขาถูกเลี้ยงมาแบบนี้ สิ่งหนึ่งที่ไอซ์ให้เขาได้คือ เรสเปกเขา ให้เกียรติเขาและเข้าใจเขา ว่าเราจะเอาอะไรเป็นที่หลัก อยากให้คนในโลกโซเชียลเข้าใจเราแล้วแฮปปี้ หรือเอาครอบครัวของเรา เข้าใจเขาแล้วให้เขาแฮปปี้”

“ไอซ์รู้สึกว่าการแต่งงานสำหรับไอซ์มันคือภาระ ไอซ์คุยเล่นกับเขาตั้งแต่แรกแล้วว่าไม่ต้องมีงานนะ เอางบทั้งหมดมาซื้ออะไรให้ฉันแล้วกัน (ยิ้ม) ไอซ์รู้สึกว่าตัวไอซ์เองมีความทรงจำเป็นภาพ มีรูปถ่ายแปะบ้าน ก็คือเท่านั้นสำหรับเรา ถ้าจะต้องจัดงานจริงๆ ไอซ์เครียดมากกว่าแฮปปี้ ก่อนที่จะมีน้อง ไอซ์ก็แพลนเลยนะ โทรปรึกษากับเพื่อนแล้วเขาก็แนะนำให้ไปหาหมอ เพื่อนก็ถามว่าจะมีลูกเลยเหรอ เราก็บอกว่าอายุเท่านี้แล้ว มีๆ ไปเถอะ เพื่อนก็ถามว่าเอาเลยเหรอ ไม่ต้องมีพิธีเหรอ คือเราไม่ได้ให้ความสำคัญกับมันมากขนาดนั้น เรารู้สึกว่ายุคนี้มันเปลี่ยนไป เราคิดว่าการอยู่กันให้รอดมันสำคัญที่สุด นี่คือชีวิตจริงที่สำคัญกว่างานวันนั้น”

ส่วนหนึ่งที่ไม่เปิดเผยเรื่องความรัก เพราะ “หมอลักษณ์” ใช่ไหม?

“ว่าไม่ได้ คือเรื่องท้องเรื่องอะไร เขาเป็นคนบอกไอซ์เอง หมอลักษณ์เขาบอกว่า อายุ 36 ระวังนะจะท้อง แต่ดวงของไอซ์ไม่สามารถเข้าทางตรอกออกทางประตูได้ ถ้าไปตามเกณฑ์จะพังนะ ดวงเราไม่ใช่เมียน้อยใครนะ แต่แค่มีดาวดวงนี้ถ้าเปิดมันจะไม่ได้ ถ้ามีงานแต่งใหญ่ก็จะไม่รอด ถ้าจะจัดงานต้องงานเล็กๆ ก็พอได้ อย่างจัดงานขึ้นบ้านใหม่ แต่อย่าบอกใครว่าเป็นงานแต่งงาน แล้วดวงตอนมีลูกจะมีปัญหา ซึ่งพอประกาศว่าท้องปุ๊บ ก็มีเรื่องดราม่าขึ้นมาทันที”.

ขอบคุณแหล่งที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/celeb/2733730