"ต้าเหนิง"แจงดราม่า ช่างแต่งหน้าเผลอชี้พิกัด ชาวเน็ตแห่แชร์สุดท้ายไล่ให้ลบ

นักแสดงสาว ต้าเหนิง กัญญาวีร์ สองเมือง แจงดราม่า ช่างแต่งหน้าเผลอชี้พิกัดเครื่องสำอาง ชาวเน็ตแห่แชร์ สุดท้ายไล่ขอให้ลบ

เกิดดราม่าในโลกออนไลน์ หลังช่างแต่งหน้าเผลอหลุดพิกัดเครื่องสำอางที่ใช้แต่งหน้า ต้าเหนิง จนหลายคนแห่แชร์และพุ่งไปช็อปจนของขาดตลาด สุดท้ายช่างแต่หน้าคนดังกล่าวเข้าไปคอมเมนต์ขอให้ลบโพสต์ลบคอมเมนต์ต่างๆ

ล่าสุดวันที่ 8 ธ.ค.2566 นักแสดงสาว ต้าเหนิง กัญญาวีร์ สองเมือง เดินทางมาร่วมงานเปิดตัวพรีเซนเตอร์ ‘อัลมอนด์ บรีซ โยเกิร์ตพร้อมดื่ม’ ที่ลานกิจกรรมทางเชื่อม BTS, Siam Square One จากนั้นได้เปิดใจถึงเรื่องดราม่าดังกล่าว

มีดราม่าเกิดขึ้น ได้เห็นใช่ไหม?
“จริงๆ ไม่ได้เห็นหรอก เพราะว่าก่อนหน้านี้บินตลอดเลย แต่ก็พยายามอยู่ว่าเป็นยังไงบ้าง (ในมุมของเราเข้าใจว่ายังไงบ้าง?) จริงๆ ส่วนตัวหนูไม่ได้คิดจะทำอะไรอยู่แล้ว หมายถึงว่าเข้าใจได้ว่าเป็นสิทธิ์ของผู้บริโภคสินค้าแหละ ไม่ได้มีความคิดว่าจะไปฟ้องไปอะไรแต่แรกอยู่แล้ว”

กับพี่ช่างแต่งหน้า ได้มีการพูดคุยกันไหม?
“จริงๆ แล้วพอเรื่องทันบานปลายก็มีผู้จัดการทักไปหาว่าไม่เป็นไรนะ ไม่ได้ซีเรียสขนาดนั้น ไม่ต้องตอบอะไรแล้ว”

“ที่รู้เรื่องเพราะว่าตอนแรกรู้จากลูกค้าที่คุยกันอยู่ว่ามีสิ่งนี้นะ แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหากระทบกับคนภายนอก เราจัดการกันเองเข้าใจได้ค่ะ คนทั่วไปไม่ได้ผิดอะไร”

ตัวผลิตภัณฑ์เองก็ไม่ได้ว่าอะไรเราใช่ไหม?
“หมายถึงแบรนด์ที่ถูกพูดถึงใช่ไหม ถ้าหนูกับแบรนด์นั้นส่วนตัวไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ว่าอย่างแบรนด์ที่พูดคุยอยู่เขาเข้าใจได้ เวลาเราแต่งหน้าเราไม่สามารถรู้ได้ว่าช่างจะให้แบรนด์อะไร แต่ถ้าพาร์ตส่วนตัวเราใช้ก็จะเป็นอีกเรื่องหนึ่ง”

หลายคนยังบอกคอนเซ็ปต์เดิม สวยกินคน?
“ค่ะ (พออย่างนี้หลายคนก็อยากใช้ตาม?) จริงๆ แล้วแต่ผู้บริโภคเลยว่าเขาจะเลือกใช้อะไร จริงๆ แล้วหนูค่อนข้างใช้หลากหลายแหละ เพื่อให้เข้ากับลุกส์ของวันนั้น อย่างหนูเองหรือช่างแต่งหน้า เราไม่รู้หรอกว่าช่างใช้อะไรให้เรา”

หลายคนก็จะเอาหน้าเราไปเทียบเครื่องสำอาง?
“เรื่องนี้ก็เกิดขึ้นกับหลายๆ คนอยู่แล้ว เป็นเรื่องเหนือความคาดหมาย และเหนือความควบคุม”

ส่วนตัวเราไม่ได้ซีเรียส?
“ถ้ามันเป็นสิ่งที่หนูควบคุมไม่ได้ก็ไม่รู้ว่าซีเรียสแล้วจะแก้อะไรได้”

กับทางแบรนด์ที่ถูกพูดถึงได้มีการพูดคุยไหม?
“ไม่ได้พูดคุยอะไรเลย จริงๆ ไม่ได้คิดจะทำอะไรเลยกับเรื่องที่เกิดขึ้นด้วย”

ไม่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดใช่ไหม เหมือนเป็นการโฆษณาแฝง?
“จริงๆ ไม่ได้รู้เรื่องลึกขนาดนั้นเลย แค่รู้ว่าเกิดเรื่องจากลูกค้าอีกคนหนึ่งค่ะ แต่ทั้งหนูและลูกค้าไม่ได้มีอะไร ไม่ได้ติดใจอะไร (เป็นผลพลอยได้ของเขา?) ถ้าเกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจก็โอเคค่ะ”

กับช่างแต่งหน้า ได้ถามไหมว่าทำไมต้องไล่ขอให้ลบคอมเมนต์?
“จริงๆ ไม่ได้ถามเลย อย่างที่บอกหนูบินตลอด ก็ติดตามเป็นช่วงๆ แค่รู้ว่าเกิดเรื่อง แล้วไม่ได้คิดจะฟ้องหรือจะทำให้คนล้มอยู่แล้ว”

ตอนนี้คือเคลียร์แล้ว?
“ไม่ได้เคลียร์อะไร ไม่ได้รู้สึกว่าต้องแก้ไขอะไร”

ช่างได้มีขอโทษเราไหม?
“หนูไม่ได้คุยกับช่างโดยตรง ก็เลยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง เป็นผู้จัดการคุย ฝั่งหนูไม่ได้บีบว่าให้ทำอะไรอยู่แล้วค่ะ (ผู้จัดการเล่าหรืออัพเดตอะไรไหม?) มีเล่าว่ามีเรื่องนี้เกิดขึ้นนะ”

ขอบคุณแหล่งที่มา :  khaosod