"แอนนา" เดินทางเข้าพบตำรวจ รับทราบ 2 ข้อกล่าวหา

วันนี้ 16 มิถุนายน 2566 เวลาประมาณ 13.30น.  อินฟูเอนเซอร์ชื่อดัง "แอนนา วรินทร วัตรสังข์" เดินทางมาที่ บก.สอท. ศูนย์ราชการ อาคารบี เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา  2 ข้อ ฉ้อโกงประชาชน กับ  พรบ.คอมพิวเตอร์ นำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ จากกรณีที่มีผู้เสียหาย จากกล่องสุ่มทอง  ซึ่งเจ้าตัวก็พร้อมสู้และเคลียร์ปัญหาที่เกิดขึ้น ยืนยันไม่หนี ไม่โกง...

ภาพจาก True Inside

ภาพจาก True Inside

ภาพจาก True Inside

พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง เผยว่า "แอนนามาวันนี้ตามหมายเรียก ที่เกิดขึ้นจากการทำธุรกิจของเขา จะเป็นกล่องสุ่มทองหรือไม่ แต่เบื้องต้นสอบถามเป็นการทำธุรกิจเกี่ยวกับความเสริมความงามและอาหารเสริม ตอนนี้พนักงานสอบสวนอยู่ในขั้นตอนรวบรวมหลักฐาน เบื้องต้นมีประมาณ 9 เคส เสียหายเบื้องต้นเกือบ 15 ล้าน มามอบตัวเอง ไม่ใช่การออกหมายจับ ที่ได้คุยเบื้องต้น เขาไม่ได้เกี่ยวกับทอง  ทองเป็นโบนัส และทองเกิดปัญหาในช่วงนึงมีการแจ้งความไว้แล้ว ส่วนรายละเอียดยังไม่อยากเปิดเผย อยู่ในขั้นตอนสอบสวน" 

ภาพจาก True Inside

ภาพจาก True Inside

ภาพจาก True Inside

แอนนา  เผยให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า "ชี้แจงตามเอกสาร ว่าเราไม่ได้มีเจตนา ยืนยันคำเดิมว่าทำธุรกิจผิดพลาด  นิสัยส่วนตัวเป็นคนใจใหญ่ ชอบแจกของ เพื่อคืนกำไรให้กับลูกค้า  เริ่มจากการที่ส่งของล่าช้า ปัญหาคือลูกค้าหลายท่าน รอได้ ต้องขอโทษลูกค้าทุกคนจริงๆ ไม่มีเจตนาเลยจริงๆ ตอนนี้ข่าวออกไปเป็นกล่องสุ่มทิพย์  คือ กล่องสุ่มแอนนาทำจริง แต่เป็นกล่องสุ่มอาหารเสริม เราระบุชัดเจน แต่ข่าวออกไปว่าเป็นกล่องสุ่มทอง เราขออนุญาต ทำถูกต้องตามขั้นตอนในการขอทำกล่องสุ่ม การซื้อทองมีใบเสร็จจริง ๆ ครั้งที่ซื้อ 

ยืนยันไม่ได้ขายทอง เราซื้อ และเป็นการคืนกำไร  ในคลิปที่คนตัดสั้นๆ ไปลง ทองที่เราทำเป็นการคืนกำไร ไม่ใช่ขายทองโดยตรง เป็นการกระตุ้นยอดขาย เอาทองมาเป็นโปรโมชั่น เราพลาดเองที่วันนั้นไม่ออกมาบอกว่า ทองที่จะส่งให้ มันหายไป มูลค่าประมาณ 4 ล้านบาท แต่ก็ปล่อยเพราะคิดว่าเป็นเรื่องของเวรกรรม อยากให้ทุกคนช่วยตามเรื่องนี้หน่อย ถึงจะถูกมองว่าไม่เมคเซ้นส์  เบื้องต้นทางตำรวจได้มีการสอบปากคำแมสเซนเจอร์ท่านนั้นอยู่

ตอนที่ทำกล่องสุ่ม ก็มีหลายราคา แต่ยืนยันไม่ได้ทำกล่องสุ่มทองแน่นอน เพราะทองคือการคืนกำไรให้ลูกค้าเท่านั้น และต้องเป็นลูกค้าประจำเท่านั้นที่จะได้คืนกำไรซื้อทองได้ เรียกว่าเป็นโบนัส ดีกว่าการซื้อขาย 

หลังจากนี้ จะนำเอกสาร ทั้งจากลูกค้ามาให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตอนนี้เกินจุดที่เรียกว่าเครียดไปแล้ว เพราะก่อนหน้านี้เคยคิดสั้นไปแล้วด้วย ทุกวันนี้พยายามเข้มแข็ง ในวันที่คิดจบชีวิตตัวเอง ไม่โทรบอกใคร เพราะคิดว่าทำไมชีวิตเราแย่จัง แต่สุดท้ายฉุกคิดได้ว่ายังมีลูกค้าที่รอสินค้าเราอยู่  ในทุกวันก็โอนคืนลูกค้าตลอด ขอบคุณลูกค้าที่ให้โอกาส" 

ภาพจาก True Inside

ภาพจาก True Inside

ภาพจาก True Inside

ภาพจาก True Inside

ภาพจาก True Inside

ขอขอบคุณ แหล่งที่มา :  https://entertainment.trueid.net/detail/3QoBxw6GOqBn