มะตูม แจงเหตุโพสต์เดือด #ทำคุณบูชาโทษ เสียใจเจอด่าลับหลังโง่

มะตูม แจงเหตุโพสต์เดือด #ทำคุณบูชาโทษ เสียใจเจอด่าลับหลังโง่ อีกฝ่ายอันเฟรนด์ทันที

มะตูม / หลังจากที่ ดีเจมะตูม-เตชินท์ พลอยเพชร ออกมาโพสต์สเตตัสผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Techin Ploypetch ถึงคนที่ตนเอง

เคยให้ความช่วยเหลือในยามเดือดร้อน แต่สุดท้ายกลับโดนเอาไปด่าลับหลังว่าโง่

โดยระบุข้อความว่า “การที่มะตูมยอม ใจดี ช่วยเหลือ หรือให้โอกาสอะไรใครก็ตาม บอกตรงๆ จากใจ ไม่ได้ต้องการสิ่งใดตอบแทน 

เพราะทุกวันนี้ก็แสวงหาและขวนขวายด้วยตัวเองมาเหมือนกันครับ แต่คนประเภทที่ตูมจะไม่ยอมให้อีกแล้วต่อจากนี้ก็คือคนที่ให้แล้ว ช่วยแล้ว ได้ใจ ต่อหน้าอย่าง ลับหลังอย่าง ต่อหน้าขอบคุณนะมะตูมที่ช่วย แต่ลับหลัง โถ่กะอีมะตูมแค่ตอแหลใส่มันก็โง่

ช่วยแล้ว”

“จริงๆ ไม่ได้คิดว่าตัวเองโง่นะครับ แค่ช่วยใครได้ก็ช่วยเท่าที่ช่วยได้ ไม่ได้คิดว่าต้องมีบุญคุณต่อกันด้วยซ้ำ แต่ถ้าช่วยแล้วคิดว่าโง่ 

ไม่จริงใจต่อกัน แค่มาหลอกใช้ผลประโยชน์ ตูมก็แค่เอาตัวเองออกมาจากคนเหล่านั้น ถือว่าศีลเราไม่เสมอกันแล้ว แต่ถ้ายังไม่หยุด

พูดพาดพิงหรือแอบอ้างถึงตัวเรา น่าจะรู้เหมือนกันใช่มั้ย ว่ามะตูมเวอร์ชั่นไม่ยอมให้คนเอาเปรียบ เป็นประมาณไหน ลองหาดูได้ครับ 

เพราะฉะนั้น การเป็นผู้ให้ แล้วไม่ได้รับสิ่งตอบแทน เป็นสัจธรรม แต่การเป็นผู้รับ แล้วคิดร้ายกับผู้ให้ เพียงเพราะรู้สึกเหนือหรือฉลาดกว่า อันนี้เรียกสั้นๆ สันดาน นะครับ #ทำคุณบูชาโทษครับ”

ล่าสุดวันที่ 13 มี.ค.66 ที่ ชั้น 5 ตึก B อาร์เอส กรุ๊ป ถนนประเสริฐมนูกิจ ดีเจมะตูม ให้สัมภาษณ์หลังมาร่วมรายการ แย่งซีน 

ทางช่อง8 ถึงเรื่องที่ออกมาโพสต์ฟาดดังกล่าวว่า

“จริงๆ ไม่ได้ฟาด ไม่ได้มีคำแรงหรือว่าอะไรเลย เราแค่พูดในมุมที่รู้สึกว่าถ้าเกิดเราช่วยอะไรใครไปด้วยความบริสุทธ์ใจ แล้วเขาไม่ได้เห็นคุณค่า เราไม่ได้โกรธ แต่ว่าถ้าเอาเราไปพูดต่อในเวอร์ชั่นที่ลดทอนคุณค่าเรา ตูมอยากให้หยุด จริงๆ เจตนาในการโพสต์ ไม่ได้ต้องการให้เป็นเรื่องใหญ่โต แต่ต้องการให้บุคคลที่เราอยากจะสื่อสารถึงได้เห็นเพราะว่าเป็นเพื่อนกันในเฟซบุ๊ก”

เขาเป็นคนในหรือนอกวงการ? “นอกวงการครับ เหตุการณ์เกิดขึ้นวันนั้นและเราก็โพสต์วันนั้นเลย เอาจริงๆ ไม่ได้นอยด์ คือเขา

บอกว่าอยากให้มะตูมช่วยเหรอก็แค่ไปตอแหลใส่เขาสิ เขาโง่อยู่นะ เขาน่าจะช่วยได้ อยากจะบอกไว้ตรงนี้เลยว่าการที่เราช่วยเหลือ

ใครแต่ละคนไป ไม่ใช่ว่าเราโง่ การช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันต่อให้ผู้ช่วยจะเสียเปรียบก็ตามในอนาคต นั่นเพราะเราช่วยได้ แต่ 

ณ วันนี้เราคงไม่อยากช่วยอีกแล้ว”

หลังจากที่โพสต์ไปวันนั้น เจ้าตัวเขามีฟีดแบ็กยังไง? “ไม่ได้รู้ว่าเขารู้ตัวไหม แต่เขาก็อันเฟรนด์ไปเลย คิดว่าน่าจะต้องไม่ยุ่งกัน

แล้ว จริงๆ กับคนนี้รู้จักกันไม่ถึงปี เคยช่วยเหลือทั้งเรื่องของคอนเนกชั่นและเรื่องของเงินด้วย ยอมรับว่าเสียใจตรงที่รู้อย่างนี้น่าจะไปช่วยให้ถูกคนดีกว่า แต่ก็ไม่ได้เข็ดเพราะเชื่อว่ายังมีคนที่ต้องการความช่วยเหลือจากเราอีกมากมาย ซึ่งเราก็จะมีทีมที่ช่วยสแกนดูที่มาที่ไปของแต่ละคน”

ถ้าเขาดูอยู่ตอนนี้อยากบอกอะไร? “ไม่อยากให้ดูครับ เปลี่ยนช่องได้เลย(หัวเราะ)”

เรียกว่าตัดเพื่อนคนนี้ไปเลย? “จริงๆ เขาไม่ใช่เพื่อนตูมตั้งแต่แรกอยู่แล้วครับ เลยไม่รู้สึกว่าเสียเพื่อนไปหรืออะไร เพราะว่าคนที่

เป็นเพื่อนจริงๆ เขาจะไม่ทำกันแบบนี้ (ถ้าเจอหน้ากัน คำแรกที่อยากพูด?) เจอหน้าได้ แต่ไม่อยากพูดกับเขา ไม่อยากพูดกับคน

ที่เรารู้สึกว่ามันไม่จำเป็นและไม่มีประโยชน์ที่ต้องสื่อสารและพูดคุยกันแล้ว ตูมไม่ได้เฟียร์ซหรือว่าเชิ่ด แต่ในโลกใบนี้มันยังมีประชา

กรอีกตั้งร้อยล้านคนที่เราสามารถเป็นเพื่อนด้วยได้โดยที่ไม่ต้องรู้สึกว่าตัวเราด้อยค่าตัวเอง”

แค่ตัดคนไม่ดีออกจากชีวิตไป? “ใช่ครับ จริงๆ เราก็ไม่ได้บอกว่าตัวเองดี แต่เพียงแค่จริตและความคิดตรรกะของเขา มันอาจจะ

ไม่ตรงกับการเป็นเพื่อนของเราเท่านั้นเอง”

ขอขอบคุณ แหล่งที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_7556735