“ลี-ฐานัฐพ์” เปิดตัวแฟนแล้วสบายใจ เจอคนนิสัยใกล้เคียงกัน เผยเรื่อง "ความรัก" ไม่ต้องมู

เปิดเรื่องความรักแล้วสบายใจ พระเอกหนุ่ม “ลี-ฐานัฐพ์ โล่ห์คุณสมบัติ” เติบโตบาลานซ์ชีวิตได้ดีทั้งเรื่องงานและเรื่องชีวิต ล่าสุดจับคู่นางเอกรุ่นน้องสุดซี้ “แพรวา-ณิชาภัทร ฉัตรชัยพลรัตน์” ในหนังโรแมนติกคอมเมดี้สายมูเรื่อง “สมพรปาก Wish Me Luck” ออริจินอล ฟิล์มของ “ทรูไอดี” ดูผ่านแพ็กเกจทรูไอดีพลัส รับบทเป็น “ปรีดี” หนุ่มหล่อเจ้าเสน่ห์ ลูกชายเจ้าของร้านขนมปัง เล่า ถึงการทำงานและชีวิตความรักกับสาวนอกวงการตอนนี้ เริ่มจากหนังสายมู
“ในเรื่องค่อนข้างเป็นคนนิ่งๆ ด้วยตัวละครปรีดีจะพูดน้อยแต่แสดงออกทางการกระทำและความ รู้สึกมากกว่า ก็จะสื่อสารด้วยการไม่ใช้คำพูด บทนี้คือตัวผมในอารมณ์ที่ไม่ได้อยากพูดกับใคร ตอนไม่ได้อยู่หน้า กล้อง อยู่กับบ้าน คาแรกเตอร์ ยืนมองเค้าแล้วรู้สึก ถามว่าเรื่องนี้สนุกตรงไหน ผมว่าตอบโจทย์กับคนปัจจุบันที่มีการไหว้ขอพรเรื่องต่างๆ ตั้งแต่วัยเรียนก่อนทำงาน เริ่มทำงาน บทกับเนื้อเรื่องอาจจะสะท้อนให้เรารู้สึกว่าเหมือนเราเลยเนอะ ตรงนี้เหมือนเพื่อนเรา ตรงนั้นเหมือนพี่คนนี้เลย มีจุดเชื่อมกับคนดู”

ตัวลีเองสายมูแค่ไหน?
“ผมมีเครื่องรางเยอะมากพกในกระเป๋า ซึ่งพอมากองนี้แฮปปี้เค้ามูกันทั้งกอง เหมือนเราได้แรงบุญและพึ่งใบบุญทั้งกอง (หัวเราะ) ถ้าถามว่าพกอะไร ก็มีทั้งเบี้ยแก้ ท้าวเวสสุวรรณ พระยานาค พระพิฆเนศ พญานาค”
ตัวเราอินกับหนังเรื่องนี้ ยังไง?
“เรื่องนี้ดี ผมชอบมากตั้งแต่บท ผมรู้สึกว่าผมตามหาบทแบบนี้ที่ไม่ต้องพูดอะไรเยอะ เน้นการแสดงความรู้สึกออกมา มันค่อนข้างตรงกับชีวิตผมมาก เข้าไปในซีนก็รู้ว่าเป็นปรีดี เหมือนเล่นเป็นตัวเองที่อยู่ในสถานการณ์นั้น รับอารมณ์แล้วส่งออกไป การทำงานดีมาก ผมชอบการทำงานเรื่องนี้ที่ละเอียดครบ และคิดเผื่อทีมงานทั้งหมด”
ทำงานกับแพรวาที่สนิทกันมาก มีอะไรเม้าท์มั้ย?
“เรารู้จักทำงานมา 6 ปี ตั้งแต่ซีรีส์ “เฟรนด์โซน” เลยสนิทกัน เล่นด้วยกันมาหลายเรื่อง ตอนเด็กๆเวลาพัก นั่งเม้าท์กันเสียงดัง คุยกันจนไม่มีอะไรจะเม้าท์กัน คุยโน่นนี่ จนพอถึงเรื่องที่แล้ว ด้วยรักและหักหลัง เล่นเป็นพี่น้องกัน ก็เริ่มคุยเรื่องอนาคต ชีวิต มุมมอง ไม่มาคุยเสียงดังแบบตอนเด็ก แต่ผมสองคนเวลาไม่ทำงานก็ไม่ได้คุยกันนะ เจอกันเลยมาคุยกัน”
ปีนี้อายุ 30 เรามองการทำงาน อนาคตมากขึ้นมั้ย?
“ตอนแรกที่ผมเข้ามาทำงานในวงการ ตอนนั้นอายุ 23 ถ้าเป็นวัยนั้นจริงๆคือเรียนจบเพิ่งทำงาน เราสนุกกับงาน เอนจอย ทุ่มตัวทุ่มชีวิต สนุกกับการเห็นรายได้ที่เข้ามาเรื่อยๆ รู้สึกว่าทุกอย่างเป็นพลังบวกไม่ว่าจะเจอใคร แต่พอโตขึ้นก็ต้องยอมรับว่าพอทำงานเยอะมันพักผ่อนน้อย อายุเยอะขึ้นเรื่อยๆก็ต้องเริ่มมองถึงอนาคตว่าต้องทำอะไรมากขึ้น เช่น ทำธุรกิจ อนาคต ครอบครัว ไม่ใช่แค่ของเรา ของพ่อแม่ด้วย”

เรื่องการทำงานมองเปลี่ยนไปมั้ย?
“ที่เปลี่ยนคือมองเห็นเด็กรุ่นใหม่ที่เข้ามา บางคนอายุครึ่งนึงของผม อายุ 15 ปี (ยิ้ม) เราก็ได้เห็นความไฟแรงของเด็กๆ ก็สนุกไปกับเค้า ผมไม่ได้อิจฉาเด็กๆนะ ยินดีกับเค้า เข้าใจได้ว่ามันเป็นวัฏจักรของมัน ตอนนี้ผมบาลานซ์เรื่องการใช้ชีวิตด้วย ก่อนหน้านี้ผมทำงานมา 7-8 ปี ผมไม่เคยเที่ยวเลย ถ้ามีงานมา ผมสลัดทุกอย่างทิ้งเพื่อไปทำงาน แต่ตอนนี้รู้สึกว่าต้องบาลานซ์ ต้องออกไปพัก ไปหาธรรมชาติ ไปเที่ยว ผมจะเปิดตารางคิว วันที่ไม่มีถ่ายก็ออกไปเที่ยว”
เพราะตอนนี้มีคนเที่ยวด้วยแล้ว?
“(ยิ้ม) ก็แฮปปี้ก็ไม่ผิดนะครับ”
ตอนนี้ถึงจังหวะที่พร้อมเปิดเรื่องความรัก ก่อนหน้านี้พูดยากกว่านี้?
“ด้วยวัยด้วย อายุ 30 เพื่อนผมก็มีลูกแล้ว เราทำงานส่วนนึง เราก็ต้องใช้ชีวิตด้วย ไม่งั้นเราจะดีแต่งานแต่ชีวิตส่วนตัวเราจะพัง”
ตอนเลือกเปิดตัว ยากมั้ย ตอนนั้นคิดว่าแฟนคลับจะเข้าใจมั้ย?
“ผมคิดว่าเค้าต้องเข้าใจเรื่องของอายุ แฟนคลับผมก็ไม่ได้เด็กขนาดนั้น ก็เข้าใจได้ เราต้องใช้ชีวิต เราก็เป็นมนุษย์คนนึง เราก็ต้องมองว่าเรามีคนรักก็มีคนเกลียด เป็นเหรียญสองด้านอยู่แล้ว”

คิดมั้ยว่าตอนนั้นจะฮือฮาว่าสาวๆอกหักทั้งประเทศ?
“เอาจริงๆ ผมก็ไม่ได้ปิดตั้งแต่แรกนะ ผมก็ใช้ชีวิตปกติแค่ผมไม่ได้มาเปิดเผยออกสื่อ เราไปใช้ชีวิตกินข้าว ช็อปปิ้งปกติ”
ทางบ้านถามถึงเรื่องแต่งงานมีครอบครัวบ้างมั้ย?
“ที่บ้านผมไม่ติดอะไรเลย จะเร็วหรือช้าก็ไม่ว่าอะไร เค้าให้การตัดสินใจเป็นของผม เพราะเราโตแล้ว เลือกเลยว่าจะทำแบบไหนยังไง”
เปิดตัวแล้วเราสบายใจ?
“สำหรับผมคือหนึ่งเลย มันไม่อึดอัด ไม่ต้องมานั่งปิดบังใคร สบายใจ สบายตัว”
สาวคนนี้เข้าใจเราทุกอย่างมั้ย?
“หนึ่งเลย เค้ามีนิสัยใกล้เคียงกับผมคือ เวลาถ้าไม่พูดคือไม่พูดเลย เป็นคนหวง พื้นที่ส่วนตัวเหมือนกัน แต่ว่าพื้นที่ส่วนตัวเรายอมให้แค่ใครบางคนเข้ามาอยู่ในนั้น โดยที่เราไม่ต้องพูดกันก็ได้ มันเหมือนเราเข้าใจกันเยอะ”
ไม่พูดพอกัน กว่าจะจูนติดยากมั้ย?
“ผมว่ามันต้องใช้เวลา แต่พอมันเจอคนประเภทเดียวกันก็คือเจอเลย”
ก่อนเจอแฟนคนนี้มีไปมู ไปขอพร ที่ไหนมั้ย?
“เรื่องความรัก ผมไม่ขอเลย ก็จะมีขอเรื่องงานด้วย และขอให้มีความสุข ผมมองว่าถ้าเรามีความสุขไม่ว่าเรื่องอะไร เราก็ทำออกมาดี ทำด้วยความแฮปปี้ ครอบครัวก็ดี กับคนรักก็ดี ทำอะไรก็มีความสุข ที่เรื่องความรักผมไม่ขอ เพราะผมค่อนข้างเชื่อในการกระทำของคนมากกว่า การกระทำของผมและคู่ของผม”.

ขอบคุณแหล่งที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/celeb/2715737
บันเทิง















ความคิดเห็น