ตั๊ก ศิริพร น้ำตาคลอ สารภาพเป็นแม่รังแกลูก เพราะภาวะซึมเศร้าหลังคลอด

เป็นอีกหนึ่งคุณแม่ที่หลายๆ คนยกให้เป็นคุณแม่ดีเด่น สำหรับ ตั๊ก ศิริพร เพราะตั๊กนั้นเปิดใจให้ลูกชาย น้องภู ภูสิษฐ์ เลือกใช้ชีวิตตามแบบที่ตัวเองต้องการ แต่กว่าที่ตั๊กจะเลี้ยงลูกชายได้แบบนี้ ก็เคยเป็นพ่อแม่รังแกฉัน เลี้ยงลูกแบบผิดๆ มาก่อน ซึ่งตั๊กเล่าในรายการ WoodyInterview ว่า
“ตอนนี้น้องภูอายุ 21 แล้ว เรียนอยู่ปี 3 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รังสิต ถ้าถามถึงการเลี้ยงลูก ยอมรับว่าเลี้ยงเหมือนไข่ในหิน แล้วเลี้ยงแบบผิดด้วย คงเคยได้ยินโรคซึมเศร้าหลังคลอดใช่ไหม พี่เป็นนะ จะห่วงลูกมากกว่าปกติเป็นร้อยเท่าพันเท่า จะนั่งร้องไห้แบบไม่มีเหตุผล ไปทำงานเขาหัวเราะกัน แต่ใจอยู่กับลูก แล้วพี่ไม่ให้ลูกทำอะไรเลย
พี่จะทำให้ลูกทุกอย่าง พี่ยอมรับว่าตัวเองผิด ตอนนั้นกลัวเชื้อโรค เหมือนเป็นคนบ้า เป็นโรคจิต ถ้ามองกลับไปก็ยอมรับว่าตัวเองผิดนะ ใครมาบ้านไม่ให้จับลูก กลัวเชื้อโรค บ้าบอไปแล้ว พี่ทะเลาะกับผัวเรื่องลูก หวงลูกมากกว่าปกติ อาบน้ำให้ลูกจนอายุ 10 ขวบ นี่คืออีกหนึ่งปม คำว่า พ่อแม่รังแกฉัน ให้เอามาใช้ได้เลย

กับเรื่องนี้ต้องขอบคุณ ซูโม่ กิ๊ก วันนึงแกเห็นพี่นั่งซึมเศร้าอยู่ในรายการ ทุกคนร่าเริง แต่พี่เศร้าอยู่ตลอดเวลา ได้มีการพูดคุยแบบเปิดอกกัน คุยกับพี่กิ๊กเป็นคนแรก เพราะไม่รู้จะคุยกับใคร ไม่มีคนปรึกษาเรื่องตรงนี้ เหมือนแกมาทลายตรงนี้ให้พี่ ตัดสินใจพูดกับแกแบบเปิดอก น้ำตาไหลพรากเลย
เราก็เล่าให้แกฟังว่าพี่กิ๊ก หนูเป็นแบบนี้ๆ หนูเลี้ยงลูกแบบนี้ๆ พี่กิ๊กนั่งสอน ทำแบบนี้ไม่ได้ รังแกลูกอยู่ เขาก็สอนพี่ เชื่อไหมเหมือนแกมาเอาภาระทุกอย่างออกจากพี่หมดเลย โล่งเลย อ๋อ ที่ผ่านมา 10 ปี เราเป็นแบบนี้เหรอ พอคุยกับพี่กิ๊กวันนั้นกลับบ้านไปทำเลย
ที่ผ่านมาทำงานเสร็จจะรีบกลับบ้านไปอาบน้ำให้ลูก ทุกคนห้ามอาบ เดี๋ยวแม่อาบให้เอง กลัวคนอื่นอาบให้ไม่สะอาด อึแม่ล้างก้นให้ เหมือนคนบ้ามากเลย รักลูกมาก แต่กลับไปวันนั้น เราวิ่งไปบอกลูกว่าอาบน้ำเองนะลูก ลูกก็งงนะ
แต่เขาก็เข้าไปอาบน้ำเอง เราก็แอบไปฟัง พูดแล้วน้ำตาจะไหล ไปแอบฟังเขาอาบน้ำเองครั้งแรกในชีวิตของเขา 10 ปีที่ผ่านมา เขาอาบไปแล้วร้องเพลงไป แสดงว่าที่ผ่านมา 10 ปี เขาทรมานมาก (เสียงสั่น น้ำตาคลอ) พี่ยืนน้ำตาไหลหน้าห้องน้ำ นี่เราทำกับลูกมาเป็น 10 ปี ลูกอาบน้ำร้องเพลงไปมีความสุข พี่ยืนกำหมัด นี่เราทำอะไรกับลูกเนี่ย 10 ปี

แต่พี่ก็ขอโทษลูกนะ เพราะเราเป็นคนคุยกับลูกทุกเรื่อง เรียกลูกมาแล้วก็ขอโทษกับสิ่งที่ทำ ซึ่งพี่เคยบอกลูกว่าเราเป็นพ่อแม่ลูก ห้ามมีความลับกันนะ ลูกคุยกับแม่ได้ทุกเรื่อง แม่รับฟังได้ทุกเรื่อง จะฟังแบบมีเหตุผล ขอให้เล่าให้ฟัง
จนวันนึงถึงเขาจะเดินมาพูดกับเรา ซึ่งพี่คิดไม่ถึง ผมไม่มั่นใจว่าชอบผู้หญิงหรือผู้ชาย เขาเดินมาพูดเองนะ โดยที่พี่ไม่ได้ไปบังคับเขา แต่เชื่อไหมเป็นคำพูดที่พี่โคตรมีความสุขเลย เพราะพี่รู้สึกว่าลูกไม่มีความลับกับเรา พี่รู้สึกว่าลูกเราไม่กดดันแล้ว”
หลายคนชื่นชมตั๊กว่าเลี้ยงลูกมีอิสรภาพในการใช้ชีวิต ไม่บังคับลูกเลย?
“ตอนแรก พี่นุ้ย สามีก็ทำใจไม่ได้อยู่ช่วงนึง ถ้าเกิดลูกจะเป็น LGBTQ+ แต่เราก็คุยกันว่าเดี๋ยวนี้โลกมันไม่เหมือนสมัยเราแล้วนะ เปรียบเทียบไม่ได้ โลกมันไปเร็วมาก ความรักไม่ต้องมีการมาแบ่งอะไรแล้ว ความรักก็คือความรัก ถ้ามีลูกโคตรแมนเลย แต่นิสัยไม่ดี เอาไหม
แต่ถ้ามีลูกเป็นแบบนี้ แต่โคตรเป็นเด็กดีเลย จะเอาแบบไหน เราคุยกันทั้งบ้านแบบเปิดอกเลย พี่บอกลูกว่าจะเป็นอะไรก็ได้ แต่แม่ขออย่างเดียวว่าอย่าเป็นภาระสังคม อย่าเป็นภาระพ่อแม่ ขอแค่เป็นคนดี ลูกอาจจะไม่ต้องมาเลี้ยงดูแม่ก็ได้ พ่อแม่ดูแลตัวเองกันได้ อยากจะเรียนอะไร ทำงานอะไร แม่ตามใจลูก
ลูกไปมีชีวิตเป็นของลูก เพราะชีวิตคือชีวิตของลูก แม่ให้กำเนิด แต่แม่ไม่ได้เป็นเจ้าชีวิต ซึ่งเราก็ไม่ได้ปล่อยเขาเลยนะ เราก็ต้องคอยดูเป็นระยะ ถามไถ่เป็นระยะ
ถามว่าเขาปรึกษาเรื่องแฟนไหม ก็คุยหมด แต่ตอนนี้เขายังไม่มี พี่ก็ถามอยู่เรื่อยๆ นะ เขาบอกว่าเพื่อนมีแฟนหมดแล้ว แต่เขายังไม่มี ยังไม่เจอที่ถูกใจ พี่ดีใจที่ทุกวันนี้ลูกมีความสุข พี่ต้องการแค่นี้ ให้เขามีความสุขในช่วงวัยของเขา เพราะตัวเราเองไม่มีโอกาสได้ใช้ชีวิตแบบนั้น พี่บอกลูกว่าใช้ชีวิตเผื่อแม่ด้วยนะ ออกไปใช้ชีวิตผจญโลกกว้างเลยนะ พี่พูดกับลูกแบบนี้เลยนะ”

ขอบคุณแหล่งที่มา : thairath
บันเทิง















ความคิดเห็น