อาทิตย์ใส - ‘นุ่น’กระโจนรับบท‘สร้อย’ ส่งสารชัดเจนถึงกลุ่มเป้าหมาย

หายจากงานแสดงละครไป 2-3 ปี ล่าสุดนักแสดงสาว ฝีมือเฉียบ ‘นุ่น’ ศิรพันธ์ วัฒนจินดา ได้กลับมารับงานแสดงอีกครั้ง ด้วยการหวนร่วมงานกับช่อง 3 ในรอบ 9 ปี โดยลงแสดงละคร “เรือนทาส” ของค่ายเมคเกอร์ เค รับบท ‘สร้อย’

ซึ่งการแสดงที่ผ่านมา นุ่นบอกเธอเคยมองแค่มุมตัวเองว่าอยากเล่นละครจะเป็นตัวละครให้ดีที่สุด จนลืมมองมิติคนดู แต่มาครั้งนี้ นอกจากจะกระโจนมาเป็นตัวละครเพราะอยากเล่นแล้ว ยังเป็นครั้งแรกที่เธอแคร์คนดู ว่ากลุ่มเป้าหมายของละครที่เธอเล่นคือใคร

กลับมาในรอบกี่ปีกับงานแสดง?
นุ่น – “นุ่นไม่ได้เล่นละครมา 2-3 ปีแล้ว แต่การกลับมาที่ครอบครัวช่อง 3 ก็ประมาณเกือบ 9 ปี เหตุผลที่ตัดสินใจรับเล่นเรือนทาส อย่างแรกคือบท รู้สึกเห็นตัวเองอยู่ในเรื่องนี้ อาจจะเป็นจังหวะเวลาที่ดีมากๆ ก็ได้ ต้องบอกว่าก่อนหน้านี้ มีละครเอาเฉพาะจากช่อง 3 ก็มีหลายเรื่อง แต่งานออฟฟิศที่นุ่นทำเป็นฟูลไทม์ แล้วละครเรื่องนี้มาตอนโควิดเริ่มซา ฟีลเหมือนโดนแมวตก (หัวเราะ)”

“วิธีการชวนก็ไม่เคยเจอ เรื่องอื่นอาจจะโทร.มาว่ามีละครเดี๋ยวส่งทรีตเมนต์ไปทางอีเมล เราก็จะขอบคุณที่คิดถึง ส่งมาได้เลย เพียงแต่จังหวะเวลาส่วนใหญ่ไม่ได้ เรื่องนี้ติดต่อมานุ่นก็ตอบเหมือนเดิม แต่เขาไม่ส่งทรีตเมนต์มาในอีเมล เขาเอาบทพร้อมถ่าย 6 ตอนมาให้อ่านที่ออฟฟิศ ตั้งแต่ทำงานมาไม่เคยมีใครส่งบทให้นุ่นเยอะแบบนี้ หลังได้บทมา นุ่นเริ่มอ่านตั้งแต่ 4 ทุ่ม ถึงเที่ยงคืนรวดเดียว สนุกแบบหยุดไม่ได้ อยากรู้ต่อสิ่งนั้นรู้สึกทัชเรามากๆ จนเห็นภาพ พอตื่นเช้ามาก็บอกพี่ท็อป (พิพัฒน์) ว่านุ่นเห็นตัวเองอยู่ในเรื่องนี้ อยากเล่นมาก”

ที่บอกว่าเห็นตัวเองในเรื่องนี้ คือยังไง?
นุ่น – “เคยอ่านนิยายแล้วร้องไห้กับตัวละครมั้ยคะ นุ่นเป็นแบบนั้นเลย รู้สึกเราเป็นตัวละครตัวนี้ ตอนได้บทมาก็จะเขียน ใบปะหน้าว่าละครเรื่องนี้ ผู้กำกับฯ เป็นใคร นักแสดงแต่ละคนเล่นเป็นใครก็จะเห็นภาพตัวละคร พอเปิดอ่านปุ๊บหน้าแต่ละคนลอยมาในบท อ่านไปอ่านมาเราเห็นตัวเองเป็นสร้อย ร้องไห้ โกรธจริง พี่ท็อปนั่งดูทีวีอยู่เห็นเราก็หันมาว่าเป็นอะไรอ่ะ เรารู้สึกว่าโดนเรื่องนี้ตกจริงๆ”

เลยเป็นสาเหตุทำให้ต้องไปขออนุญาตสามีว่าอยากเล่นเรื่องนี้?
นุ่น – “ใช่ค่ะ จริงจังมาก นุ่นทำงานออฟฟิศฟูลไทม์จริงๆ แล้วมีหลายธุรกิจ ดังนั้นเวลาจะเอาตัวเองออกมามันกระทบเยอะจริงๆ พี่ท็อปเลยถามว่าละครถ่ายวันไหนบ้าง โชคดีถ่ายพฤหัสฯ-อาทิตย์ เท่ากับกระทบคิวทำงาน 2 วัน แต่เราก็ต้องมากางตารางงาน นุ่นดูทุกฝ่าย การเงินจ่ายตังค์ก็ดู รอบการจ่ายตังค์พนักงานวันไหน เราต้องตรวจบัญชีวันไหน เลยบอกกองว่าพฤหัสฯ-อาทิตย์ ถ้าอาทิตย์นั้นนุ่นไม่มีคิวประชุมก็จะให้คิวเต็ม 4 วัน แล้วถ้าพฤหัสฯและศุกร์ไหนที่ตรงกับรอบจ่ายหรือตรวจเอกสารก็จะขอ นอกจากไม่ได้จริงๆ นุ่นก็จะเอาโต๊ะทำงานมาในกอง เปิดคอมพ์ 2 เครื่องเพื่อทำงานไปด้วยค่ะ”

พอมาถ่ายทำจริง เหมือนภาพที่เห็นตอนอ่านบทไหม?
นุ่น – “สนุกมาก เป็นภาพอย่างที่คิดจริงๆ ละครเรื่องนี้ถูกทุกข้อ นุ่นจะมีเช็กลิสต์ซึ่งเป็นมาตรฐานตัวเอง ชอบบทมั้ย จังหวะเวลาได้มั้ย คาแร็กเตอร์ได้เคยทำมั้ย เพื่อนร่วมงานดีมั้ย ผู้กำกับฯ ทีมงาน โปร ดักชั่นโอเคมั้ย แล้วมีสืบด้วยโดยการโทร. ไปหาพี่บุ๋ม (รัญญา) ว่าเคยทำงาน กับค่ายนี้มั้ยคะ เป็นยังไงบ้าง พี่บุ๋มบอกว่า นุ่น…ถ้าเขาบอกนุ่นยังไงมันจะไม่ผิดจากที่เขาบอก ประโยคนี้ศักดิ์สิทธิ์สำหรับนุ่นเลย แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริง นุ่นให้คะแนนไว้ก่อนทำงานที่ 8.5 แต่พอทำงานจริง จนปิดกล้องเราให้ 11 เต็ม 10 คือเกินด้วยมันฟูลฟีลมากจริงๆ การที่เราได้อยู่กับผู้กำกับฯที่เข้าใจนักแสดง อยู่กับพาร์ตเนอร์ที่ทำกันไปเป็นทีม และทีมทำงานโปรดักชั่น สำหรับนุ่นสิ่งเหล่านี้สำคัญในการทำงานค่ะ”

กลับมาช่อง 3 ด้วยบทที่หลายคนบอกว่าน่าหยุมหัวมาก?
นุ่น – “(ยิ้ม) ในมุมนุ่นไม่ได้มองว่าฉันกลับมาแล้วบทนี้เด่น ข้อแรกที่กลับมาเพราะเห็นตัวเอง ข้อ 2 คือตอนมาเวิร์กช็อป นุ่นดีไซน์การแสดงของตัวเองว่าละครเรื่องนี้เราจะเล่นให้ป้าป้อม ข้างบ้านดู (หัวเราะ) เมื่อก่อนนี้สารภาพว่าอาชีพนักแสดง นุ่นจะมองแค่ตัวเองว่าบทนี้นุ่นอยากเล่น อยากเป็นตัวละครนี้ให้ดีที่สุด แต่ลืมมองมิติของคนดู จนตัวเองได้ไปทำงานอีกพาร์ตหนึ่งที่เป็น Sustain Agency เรามองเรื่องกลุ่มเป้าหมายหรือคนรับสาร พอทำงานตรงนั้นมากๆ แล้ว กลับมาทำงานแสดงกลายเป็นว่าอยู่ดีๆ มันฝังในความคิดว่าโอเคเรื่องนี้เรากระโจนเพราะเราอยากเล่น แต่เรื่องนี้เป็นครั้งแรกที่เราแคร์คนดู แล้วก็คิดไปเองว่าคนดูเรื่องนี้น่าจะเป็นใคร ละครแม่ผัว ลูกสะใภ้ ด่ากันขนาดนี้ ต้องป้าป้อมขายอาหารตามสั่งข้างบ้านนี่แหละ ปกติป้าป้อมผัดข้าวไปดูละครไปด่านางร้ายไป นุ่นเลยอยากเล่นเรื่องนี้ให้ป้าป้อมดูให้ถึงใจป้าป้อมค่ะ”

“นอกจากนี้ Ref ในการแสดง นุ่นเพิ่งมีโอกาสบอกพี่หนุ่ม (กรรชัย) ว่า นุ่นดูรายการโหนกระแส แล้วเอา Ref ของแขกรับเชิญที่มีปัญหาผัวเมียตีกัน แม่ผัวลูกสะใภ้ทะเลาะกัน เพราะนี่คือ อินเนอร์ที่เป็นธรรมชาติของคนที่สุดแล้ว มีเคสหนึ่งพูดๆ อยู่ถอดรองเท้ามาตบหน้า นุ่นแบบนี่แหละคือ Ref เลย เพราะหลังจากทำการบ้านตัวละครสร้อย เด็กที่โตมากับพ่อในบ่อน ไม่มีแม่ แน่นอนต้องโหยหาความรักจากแม่ สร้อยเลยจะมีความอยากมีอยากได้ แล้วพอพ่อสปอยล์มากๆ สร้อยเลยรู้สึกว่าทุกอย่างที่เขาทำมันถูกต้อง พอสร้อยเป็นแบบนี้ มีตัวอย่างทางสังคมแบบนี้ นุ่นก็ จับจิ๊กซอว์ของตัวเองมาเป็นตัวละครตัวนี้”

สามีสนับสนุนให้เล่นละคร?
นุ่น – “พี่ท็อปเป็นคนบอกให้นุ่นทำเช็กลิสต์นะคะ เขาเป็นคนคอยไกด์หลายๆ อย่างในชีวิตนุ่น ก่อนหน้านี้นุ่นบอกพี่ท็อปว่าไม่อยากเล่นละครแล้ว เพราะมีความผิดหวังในบางโปรเจ็กต์เลยปิดกั้นตัวเอง แล้วพี่ท็อปกลายเป็นคนที่บอกว่าจริงๆ แล้วไม่ใช่ทุกอย่างจะไม่ดีไปซะหมด นุ่นควรมีตารางเช็กลิสต์เพื่อดูว่าอันไหนที่เข้าข่ายจะได้ไม่ต้องปิดโอกาสตัวเอง พอฟังพี่ท็อปมาก็เลยลองมาทำกับเรื่องนี้ดูค่ะ”

พอกลับมาในเรื่องนี้แล้ว เรื่องอื่นๆ จะตามมาอีกไหม?
นุ่น – “สุดท้ายก็จะกลับมาลูปเดิมของตัวเองว่าบท คาแร็กเตอร์ จังหวะเวลา เช็กลิสต์ก่อนเลยว่าเข้าข่ายที่เราจะทำได้มั้ย แต่จะไม่ได้มาเพราะช่วงนี้ฉันกำลังมาแล้วรับงานต่อเพิ่มดีกว่า แล้วตอนนี้สามีทำบริษัทเทคโนโลยีเป็นยั่งยืนเทคโนโลยีขึ้นไปอีก มีงานเพิ่มต้องสร้างทีมด้วย ก็จะต้องกลับมาทำงานออฟฟิศ แต่พี่ท็อปเขาเห็นความสุขเวลานุ่นออกกอง พี่ท็อปเชียร์อัพนุ่นมาก มีแต่นุ่นเองนี่แหละที่ไม่พร้อม”

แต่ยืนยันว่ายังไงก็ไม่ทิ้งอาชีพนักแสดงแน่นอน?
นุ่น – “นุ่นรักการแสดงมากค่ะ แล้วพี่นก (จริยา) เป็นคนทำให้นุ่นเปลี่ยนมุมมองชีวิตมากๆ ก่อนหน้านี้นุ่นรู้สึกว่าเล่นเรื่องนี้แล้วคงไม่เล่นแล้ว แต่พี่นกทำให้นุ่นเห็นว่าถ้าเราเป็นรุ่นใหญ่มากขึ้นจะวางตัวยังไง เวลาอยู่กองพี่นกเป็นตัวอย่างของการเป็นนักแสดงที่ดีมากๆ มีทั้งวัยวุฒิ คุณวุฒิ มีการวางตัวที่ไม่ได้ทำให้รู้สึกมีช่องว่างระหว่างเจน พี่นกกลมกลืนตัวเองได้ ในขณะเดียวกันก็สามารถวางตัวให้มีพื้นที่ส่วนตัวโดยที่คนไม่ได้รู้สึกว่าเราแปลกแยก เวลาเข้าฉากก็จะมีความสบาย ก่อนหน้านี้นุ่นเป็นพวกซีเรียส มีน้องบูม (สุภาพร) ที่มาสลายพฤติกรรม อะไรเหล่านี้ทำให้นุ่นเห็นภาพตัวเองว่าถ้าอายุเยอะขึ้น นุ่นจะอยู่ในกองคล้ายๆ พี่นกค่ะ”

ฝากละคร?
นุ่น – “อยากฝากละครเรือนทาสไว้ในอ้อมอกอ้อมใจ ของทุกคนด้วยนะคะ ทุกวันพุธ-พฤหัสฯ เวลา 20.30 น. ทางช่อง 3 ละครเรื่องนี้มีมิติความเป็นมนุษย์สูงมาก ไม่ได้ตัดสินว่า ขาวหรือดำ ถูกหรือผิด แต่ทุกอย่างสมเหตุสมผลกับทุกการกระทำของตัวเองค่ะ”

ขอบคุณแหล่งที่มา :  khaosod