คริสติน กุลสตรี เปิดใจครั้งแรก หลังแฉหลักฐานฉาว แพทริค อนันดา ทำติดโรค

คริสติน กุลสตรี เปิดใจครั้งแรก หลังแฉหลักฐานฉาว แพทริค อนันดา ทำติดโรค โต้หิวแสง งง! เขาดังเหรอคะ

คริสติน กุลสตรี / จากกรณีประเด็นร้อนช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา นักร้องหนุ่ม แพทริค อนันดา (Patrickananda) ถูกแฟนเก่านอกวงการแฉว่าทำร้ายร่างกาย โดยตอนนั้นนักร้องหนุ่มได้ออกมายอมรับว่าเคยคบกับฝ่ายหญิง แต่โต้เรื่องทำร้ายร่างกาย

และต่อมาในช่วงเดือนเมษายน แพทริค อนันดา ก็ถูกนางแบบนักแสดง คริสติน กุลสตรี มิชารัลสกี้ ซึ่งเป็นแฟนเก่าอีกคนออกมาแฉว่ามั่วจนนำโรคทางเพศสัมพันธ์มาติด ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องช็อกแล้วช็อกอีก เพราะตอนที่ แพทริค อนันดา ถูกสาวคนแรกแฉ สาว คริสติน ยังออกมาช่วยปกป้อง ก่อนที่ต่อมาเธอจะออกมาฟาดเดือดซะเอง แต่ตอนนั้นเธอให้เหตุผลว่าถูกฝ่ายชายหว่านล้อมให้เชื่อว่าเหยื่อคือฝ่ายที่ผิด

ล่าสุด นักแสดงสาว ได้ออกมาเปิดใจถึงเรื่องนี้อีกครั้ง หลังมาร่วมงาน แถลงข่าวภาพยนตร์แอ๊กชั่นฟอร์มยักษ์แห่งปี “ปิดเมืองล่า PATTAYA HEAT” โดยเผยว่า “ทุกอย่างที่หนูโพสต์แล้วเราได้ทำไปมันค่อนข้างชัดเจนว่าเราออกมาเพื่ออะไร หนูไม่ค่อยได้สนใจคนที่เขาไม่รู้ detail คนใกล้ตัวเราก็จะไม่ค่อยเข้าใจว่าเราออกมาทำอย่างนั้นไปเพื่ออะไร Culture ไทยบางทีมันดูเป็นเรื่องน่าอายแต่เรารู้สึกว่ามันเหมือนเราโดนรถชนแล้วหนี”

อะไรมันเป็นผลทำให้เราตัดสินใจพูดและระเบิดออกมา? “จริงๆ มันไม่ได้ระเบิด แต่พอคนเห็นเราแค่ตัวหนังสือเขาเลยจะคิดว่าผู้หญิงคนนี้มีความโกรธ แต่จริงๆ มันไม่ใช่ เพราะว่าเรื่องมันเกิดขึ้นตั้งแต่ปีที่แล้ว หนูเลยรู้สึกว่าถ้ามันจบมันก็คือจบ แต่หลังจากนั้นมันก็ไม่ราบรื่นซะทีเดียว มันก็คือมีความ toxic ซึ่งหนูก็ไม่อยากจะพูดถึงแล้วกัน เดี๋ยวมันจะเหมือนเราไปพูดทำร้ายฝ่ายนั้น ถ้าวันนึงเรารู้สึกว่าเขายังทำสิ่งเดิมอยู่ ซึ่งมีคนอื่นที่เป็นเหยื่อ และทุกอย่างที่หนูโพสต์ออกมาออกไปไม่มีข้อความไหนที่เราเมคขึ้นมาไม่มีการแต่งเรื่องใดใด แล้วก็มีทั้งผลตรวจเก่าตอนนั้นมีทั้งผลตรวจใหม่ตอนนี้ ก็เก็บไว้เผื่อมาเจอพี่ๆ นักข่าว หนูก็จะได้มีหลักฐาน”

แล้วช่วงนั้นที่เราต้องเผชิญ เราไปเจออะไรบ้าง? “หนูนิยามสิ่งนี้เป็นความรักครั้งนี้เป็นทีนเอจ เดี๋ยวรักเดี๋ยวเลิก แล้วพอไม่ได้สิ่งที่ต้องการก็มีคำพูดที่ทำร้ายเราหรือมีการขู่เรา”

หลายคนบอกว่าเราออกมาในช่วงที่เขาดังมีชื่อเสียง? “เขาดังเหรอคะ (หัวเราะ) อุ้ยขอโทษค่ะ ก็ยอมรับว่าเพลงเขาดังจริง ก็คิดว่าทุกคนน่าจะรู้จักเพลงเขาแต่มันก็มีหลายคนที่ไม่รู้ว่านักร้องหน้าตาเป็นยังไง ซึ่งหนูรู้สึกว่าคนที่ออกมาพูดโจมตีว่าหนูอยากจะได้แสงกับเขา ว่าเขาดังนะ หนูก็ได้แต่ อ๋อค่ะ หนูไม่ได้รู้สึกยังงั้นเลย และตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ หนูยังไม่ได้รับการติดต่อขอโทษอะไรใดใด คือไม่เคยได้รับอะไรเลย ก็เหมือนแค่วันที่หนูโพสต์แล้วเขาออกมาโพสต์โต้กลับ เขาก็เหมือนได้ให้คำตอบกับชาวโซเชียลมีเดียไปแล้วเรียบร้อย โดยการที่เขาโพสต์ ข้อมูลที่มันมีการบิดเบือนแล้วเขาก็เงียบไปแบบนั้นทั้งในสื่อและในชีวิตจริงด้วย เขาไม่ได้ติดต่ออะไรมา”

แล้วเรายังอยากได้คำขอโทษจากเขาอยู่ไหม? “สำหรับหนู คือไม่รู้จักคนนี้แล้วดีกว่าไม่รู้สึกอะไรเลย ถ้าเจอก็คงจะอ๋อเธออ๋อ โอเค” (แล้วกลัวเขาจะฟ้องกลับหรือเปล่า?) “เขาก็มีการพูดนะคะว่าจะฟ้อง หนูก็ถามนะคะว่าจะฟ้องในเรื่องอะไรคะ แต่ไม่ได้คุยกับเขาโดยตรงคือมีผู้ใหญ่คนโน้นคนนี้โทรมาแล้วเรารู้สึกว่าเราเป็นผู้เสียหาย เขาอาจจะรวยกว่าเรานะโมเมนต์นั้น แล้วเขาอยากจะฟ้อง แต่เขาเป็นคนผิดแล้วหนูเป็นเหยื่อ แล้วการที่เขาออกมาฟ้องเรา เขาให้เหตุผลว่าเราทำให้เขาเสื่อมเสียชื่อเสียง แต่มัน ฉันค่ะ ไม่ใช่เธอ”

แล้วสิ่งที่เขาทำมันเป็นแผลใจเราไหม? “ไม่เป็นไรค่ะ ชิลมาก แต่ตอนแรกจริงๆ ก็ไม่ชิล แต่ว่าต้องขอขอบคุณหลายๆ คนที่ได้เข้ามาแล้วออกไป เข้ามาแล้วออกไป แต่แค่รู้สึกว่าบุคคลนี้เป็นคนที่…เอาเป็นว่า ในชีวิตหนูนี้หนูไม่อยากเกลียดใคร ไม่อยากจะสร้างศัตรู แต่ถามว่าอโหสิไหม คือมันไม่ใช่แผลนะคะ แต่คำว่าให้อภัยกับคนนี้หนูรู้สึกว่าหนูต้องถามตัวเองแล้วว่าเขาสมควรจะได้รับหรือเปล่า ถ้าเขามีการออกมาขอโทษเรา ไม่จำเป็นจะต้องผ่านสื่อก็ได้ ต่อหน้าก็ได้ หรืออะไรก็ได้ แต่รู้สึกว่าหลังจากตอนนั้นเขากลายเป็นว่ามาโจมตีเรากลับ คือไม่อโหสิให้ก็แล้วกันค่ะ เพราะรู้สึกว่ามันไม่ได้มีอะไรที่ติดอยู่ในใจแล้ว”

ความรักครั้งนี้ให้อะไรกับเราบ้าง? “คือจริงๆ เขาไม่ใช่แฟนคนแรกของหนู แล้วก็หนูไม่นับว่าเขาเป็นแฟนเก่า นี่ใคร ไม่รู้จัก ก็แค่เคยเป็นคนคนนึงที่ฉันพลาด” (เรารู้สึกยังไงบ้างที่ภาพเขาดูเป็นผู้ชายอบอุ่น?) “ก็คงอบอุ่นมั้งคะก็เห็นบรรดาแฟนเก่า เขาก็ให้ความอบอุ่น คือจริงๆ อ่ะจะบอกว่าหนูเคยเห็นสัมภาษณ์เขาตอนที่เราอยู่ในความสัมพันธ์กัน แล้วหนูก็ไม่ใช่เป็นคนที่ขี้หึง ก็รู้สึกว่า ดีนะที่แฟนเก่าของเขาเป็น inspiration ให้เขา”

แล้วเราได้ความอบอุ่นจากเขาไหม? “ได้แต่ความแบบนี้ (ทำท่านวดขมับ)” (เขาชอบแต่งเพลงให้แฟนเก่าแล้วมีเพลงของเราไหม?) “เขาพูดว่ามี แต่เราก็เออ..เพลงอะไรหรอ” (หลังจากที่เราออกมาพูด หลายคนมองภาพเราเปลี่ยนไป?) “โห ตอนหนูโพสต์ไปครั้งแรกนะ หนูโดนด่าแบบกระจาย บอกว่าหนูมาหาแสง หนูก็นั่งคุยกับเพื่อนคำถามแรกในหัวหนูเลยมันดังเหรอวะ คือหนูก็ไม่ดัง แต่หนูก็แค่อยากรู้ว่ามันดังขนาดนั้นเหรอ ขนาดที่หนูจะใช้แสงจากเขาเหรอ แล้วคำถามที่สองคือมันเป็นเรื่องน่าอายยังไง คือถ้าถามหนูมันก็มีเหตุผลของหนูที่มันพลาดกันได้ คือเป็นแฟนกันมันก็มีหลายอย่าง นู่น นี่ นั่น แต่มันหวยดันมาออกที่หนูเหรอที่หนูติดมา แจ๊กพ็อตแตกที่หนู”

คนมองว่าเราตัดอนาคตเขา? “คือเขาตัดอนาคตตัวเองค่ะ ต่อให้หนูไม่ออกมามันก็มีคนที่พยายามจะแชร์เขา แต่เขาอาจจะไม่ใช่คนในวงการ คือจะต้องบอกก่อนนะคะว่าตอนแรกหนูมีโปรเจ็กต์หนึ่ง ที่หนูแสดงอยู่แล้วหนูต้องถอนตัวออกจากโปรเจ็กต์นั้นเพราะเขา แล้วตอนที่หนูทำโปรเจ็กต์นั้นตอนที่ยังไม่มีงานแถลงข่าว แต่หนูก็พอมีคนรู้จักบ้างแล้ว แล้วส่วนใหญ่เป็นแฟนอินเตอร์ก็เลยมีคนจับตามองนิดนึงแล้วพอหนูโพสต์ปุ๊บพี่ว่าหนูตกใจไหมมีคนดูโพสต์หนู 2,000,000 อย่างที่บอกว่าเพลงเขาดังแล้วพอได้ยินเพลงเขารู้สึกยังไงหนูก็ร้องได้ค่ะ เพราะว่าหนูไม่รู้สึกอะไรกับเขาแล้วเลย เพราะเขาคือคนแปลกหน้าแต่ว่าเออหนูก็ร้องเพลงเขาได้”

“แล้วถ้าวันนี้เขามาขอโทษเราจะให้อภัยเขาไหม ก็เรื่องของเขาค่ะ หนูอยากจะบอกว่าหนูไม่ได้มีแฟนเป็นนักร้องแค่คนเดียว อยากจะบอกว่าพี่คะช่วยใส่ชื่อคนอื่นไปด้วยได้ไหม แล้วตอนนี้มีแฟนเป็นนักร้องไหมไม่ค่ะไม่ หมายถึงอดีตค่ะแต่ว่าไม่มีใครเป็นแบบนี้ค่ะ แล้วตอนนี้มีแฟนใหม่มีค่ะ หนูก็เปิดเผยไม่เคยได้ปิด แล้วร่างกายตอนนี้ก็คือแข็งแรงดี แข็งแรงดีค่ะ แฮปปี้มีความสุข แล้วอยากจะมีอะไรฝากถึงเขาไหม หนูฝากถึงเขาเยอะมากเลยนะคะ แต่ว่าหนูไม่ได้อะไรกลับมาเลย เดี๋ยววันเนี้ยหนูว่าฟ้องแน่เลยหัวเราะ”

ขอขอบคุณ แหล่งที่มา :  https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_7730555