ท็อป นรากร ใจเสีย หวั่นคนขโมยชุดเพชรไปทำของใส่ เคราะห์ซ้ำรถโดนชนแล้วหนี

พระเอกหมอลำ ท็อป นรากร ใจเสีย หวั่นคนขโมยชุดเพชรหมอลำ ไปทำของใส่ เผยเป็นเครื่องทำมาหากินมีครูบาอาจารย์คุณค่าทางจิตใจ เคราะห์ซ้ำ
รถโดนชนแล้วหนี
หลังจากที่พระเอกหมอลำ ท็อป นรากร โพสต์ข้อความถูกคนบุกหลังเต็นท์เวทีหมอลำ ขโมยชุดเพชรเครื่องประดับหมอลำ อุปกรณ์ทำมาหากินที่มีคุณ
ค่าทางจิตใจ ตอนนี้ยังไม่ได้ของคืน แถมล่าสุดฟาดเคราะห์รถที่เพิ่งถอยมาใหม่ โดนคนขับมาชนท้ายแล้วหนี เรียกว่าพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกในช่วงนี้

โดย ท็อป นรากร ได้เปิดใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำใจแล้วว่าจะไม่ได้ชุดเพชรคืน แม้จะไม่ได้มีมูลค่าสูงมาก แต่มีคุณค่าทางจิตใจกับตน เพราะเป็น
อุปกรณ์ทำมาหากินสำคัญในชีวิตหมอลำที่มีครูบาอาจารย์ กังวลว่าคนที่เอาไปจะนำไปทำเรื่องไม่ดีส่งผลร้ายกับตัวเองได้ ส่วนเรื่องรถที่โดนชนแล้วหนี
ตอนนี้อยู่ในกระบวนการทางกฎหมายแล้ว
โดนคนขโมยชุดเครื่องเพชรหมอลำ? “วันนั้นผมไปแสดงหมอลำ เพิ่งลงจากเวทีไปเปลี่ยนชุด จากนั้นก็ไปทำธุระส่วนตัว แล้วทีนี้มีคนเข้ามาหลังเวที
เขาคงอยากมาหาเรานั่นแหละ ผมคิดว่าเขาอาจจะดื่มแล้วมึนเมามา พี่ที่ดูแลผมเขานั่งอยู่หน้าเต็นท์เขาก็ห้ามแล้วบอกว่าท็อปไม่อยู่ ไม่อยากให้เข้าไปใน
เต็นท์ แต่เขาเหมือนเมาแหละ เขาจะเข้าไป ไม่เชื่อว่าผมไม่อยู่ในเต็นท์ รองเท้าไม่ถอดบุกเข้าไปเลย ไม่ใช่ว่าเราหวงหรือไม่อยากให้คนเข้ามาหาเราหลังเวที เรายินดีต้อนรับทุกคน แต่ว่าบางครั้งบางเวลาเราต้องใช้พื้นที่ตรงนั้นเป็นส่วนตัว เปลี่ยนเสื้อผ้าในการเตรียมตัวขึ้นแสดง ซึ่งสถานที่ในเต็นท์มันแคบ
ของทุกอย่าง ของมีค่าเราก็จำเป็นต้องเก็บไว้ตรงนั้น ถือว่าเป็นพื้นที่ส่วนตัวของเราหลังเวที เพื่อความสบายใจของเราและคนที่เข้ามาหาเราด้วย เผื่อเกิด
มีของหายแบบนี้เกิดขึ้น มันจะเป็นปัญหากัน”
เขามาเอาชุดเพชรทำมาหากินของเราไป? “สิ่งที่เขาเอาไปคือเป็นเครื่องประดับชุดเพชร อาจจะไม่หลายชิ้น แต่ว่ามันเป็นสิ่งสำคัญ เป็นเครื่องประดับ
เพชรในความเชื่อของผมมีครูบาอาจารย์ที่ทำให้เราได้ทำมาหากิน มันไม่สามารถหาแทนกันได้ในวันนั้นเลย ต้องสั่งทำแล้วรอเวลาที่จะได้ของมาทดแทน แต่ว่าโชคดีที่สามารถยืมเพื่อนๆ ในวงใช้ก่อนได้”

นาทีที่รู้ว่ามีคนบุกเข้าไปในเต็นท์ ตกใจมั้ย ตอนนั้นเราไม่อยู่ด้วย? “ตกใจครับ เพราะในเต็นท์ของเราจะทิ้งของทุกอย่างไว้หมดเลย เงิน ของมีค่า
โทรศัพท์ เราเก็บไว้ตรงนั้นหมดเลย เพราะมันเป็นพื้นที่ส่วนตัว คือเราก็ติดป้ายข้างหน้าไว้แล้วว่ากรุณารอสักครู่ ถ้าอยากเข้าก็ให้เรียกเราก่อน ถ้าเรา
สะดวกก็จะบอกว่าเชิญครับ”
นอกจากชุดเพชร มีอะไรหายอีกมั้ย? “ไม่มีครับ ก็มีแค่นี้ แต่ที่ผมโพสต์ตามหาเพราะมันเป็นของทำมาหากินเรามีครูบาอาจารย์ เราก็อยากได้คืน เพราะว่าเครื่องประดับชิ้นนี้เป็นชิ้นแรกเลยที่ผมใช้ในการแสดงบนเวทีหมอลำ ผมก็เชื่อว่ามันเป็นเครื่องประดับที่หมาน(เฮง)ของเรา เราก็เลยอยากได้คืน มันมีคุณค่าทางจิตใจของเรา ขนาดเครื่องประดับบนหัวมันเก่าแล้วสมควรเปลี่ยนแล้ว แต่ผมก็ยังใช้อยู่ทุกวันนี้”
ถือเป็นเหตุการณ์รุนแรงที่สุดในชีวิตหมอลำเลยไหม? “ก็ถือว่าเป็นเคสที่หนักพอๆ กัน หลายๆ ครั้งก็เคยเจอแบบนี้ แต่ครั้งนี้เราตัดสินใจโพสต์เพราะ
ว่าเผื่อเป็นบทเรียนให้กับหลายคน และสำหรับหลายคนที่อยากเข้ามาในเต็นท์หมอลำพื้นที่ส่วนตัวของเขา ไม่ใช่ไม่อยากให้เข้ามา เข้ามาได้แต่อยากให้
เรียกก่อน”

มูลค่าของที่หายไปเท่าไหร่? “มูลค่าเครื่องประดับอาจจะไม่แพงมาก แต่มันมีคุณค่ามันแพงสำหรับเรา เราก็ไม่รู้ว่าที่เขาเอาไป เอาไปทำไมมันใช้ประ
โยชน์อะไรไม่ได้ ผมก็เลยคิดว่าเขาอาจจะเมา เราโพสต์ไปตอนที่ข้ามวันไปแล้ว เพื่อให้คนที่เขาเอาไปเขามีสติพอเห็นแล้วอยากติดต่อกลับมาคืน แต่ก็
เงียบไป”
เรารู้จักเคยเจอคนที่เอาไปมั้ย? “ผมยังไม่รู้เลยว่าคนที่เอาไปตอนนี้คือใคร เพราะว่าคนที่อยู่เต็นท์คือพวกน้องๆ เขาก็คิดว่าอาจจะเป็นแฟนคลับผม
ตอนแรกไม่กล้าห้ามแรงกลัวเป็นแฟนคลับเรา ผมก็เลยบอกว่าห้ามได้เลยนะต่อให้เป็นแฟนคลับเราหรือไม่ใช่แฟนคลับเรา เราก็บอกเขาได้ว่าท็อปไม่อยู่
ไม่ให้เข้า ให้รอก่อนแป๊บนึง เพราะผมก็ไม่ได้ไปนาน”
หลังจากนี้จะมีมาตรการห้ามคนนอกเข้าเลยมั้ย? “ปกติไม่มีมาตรการห้ามอยู่แล้ว ยินดีให้แฟนคลับทุกคนเข้ามาหาได้ แต่เพียงแค่ว่าอยากให้รอเรานิดนึง เรียกเราก่อนก็ได้ น้องท็อปอยู่มั้ย เพื่อความสบายใจของคนที่เข้ามาหาด้วย เพราะของมันอยู่ในเต็นท์ ถ้าเกิดมีสิ่งเล็กๆ น้อยๆ หายเดี๋ยวมันจะเกิดการขุ่นข้องหมองใจกัน”

หลังจากโพสต์ไปยังมีความหวังว่าเขาจะเอามาคืน? “ตอนแรกก็หวังอยู่ แต่พอมาตอนนี้มันผ่านมานานแล้ว เริ่มไม่หวังแล้ว ก็สั่งเครื่องประดับใหม่แล้วครับ”
มีแอบคิดไหมว่าจะมีคนมาแกล้งเรา สงครามหมอลำ? “ไม่ได้คิดแบบนั้นเลย คิดว่าเป็นคนนอกร้อยเปอร์เซ็นต์ แล้วที่สำคัญเราไม่สบายใจมันเป็นของสูงไม่รู้ว่าเขาเอาไปทำอะไรแล้วมันจะมีผล
กระทบอะไร เรากังวลไง เราเป็นคนที่มีความเชื่อเรื่องอะไรแบบนี้”
กลัวคนเล่นของใส่? “ใช่ครับ แล้วยิ่งมาโดนเรื่องปัญหาตามมาทีหลัง เราก็ใจเสียเหมือนกัน เราก็คิดโยงไปทั่วเลยเกี่ยวกับอันนี้หรือเปล่า
แต่ตอนนี้ก็ยังไม่มีอะไร ปกติครับ”
ล่าสุดรถโดนชน พระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก? “ใช่ครับ เนี่ยมันมีเรื่องเข้ามาก็ทำให้เรากังวลเข้าไปอีก มันเกี่ยวหรือเปล่า ก็เลยต้องมีการไปแก้เคล็ด”
เหตุการณ์วันนั้นเป็นยังไง? “เหตุการณ์วันนั้น ผมกำลังแสดงอยู่บนเวที พอเสร็จแล้วมีน้องที่ช่วยผมขับรถเขามาบอกข้างเวทีว่ารถโดนชน โอ้โห ใจหายแว้บเลย ใจตกอยู่ตาตุ่มเลย ตอนแรกก็คิดรุนแรงไว้ก่อนเลยจะโดนชนหนักขนาดไหน เพราะว่ารถเราก็เพิ่งได้มาใหม่ๆ ด้วย ในใจเราคิดว่าคู่กรณีอาจจะยืนรอเราอยู่ตรงนั้น แต่กลับเงียบไม่มีอะไรเกิดขึ้น โชคดีที่มีคนอยู่ในเหตุการณ์ เขาจำได้ว่ารถคันนี้เป็นรถของเรา แล้วคนที่ชนพอชนปุ๊บเขาก็ขับออกไปเลย ก็พูดง่ายๆ จุดประสงค์ชนแล้วหนี เรามองว่าถ้าเขาเลือกที่จะคุยจะเคลียร์ ถ้าเขาจะขี่ไปออกไปรีบมีธุระจริงๆ เขาควรต้องทิ้งเบอร์เอาไว้ แต่เขาไม่ได้ทิ้ง
ช่องทางการติดต่ออะไรเลยไว้เลยเราก็สามารถมองได้เลยว่าเขาชนแล้วหนี เจตนาไม่ดีแน่ๆ ที่เขาหนีไปแบบนั้น”
ตอนที่รถโดนชน แฟนหมอลำตกใจมั้ยคิดว่าเราอยู่บนรถด้วย? “ตกใจมาก ทุกคนเป็นห่วง คิดว่าผมเป็นอะไร ทุกคนไม่ถามถึงรถเลยตอนนั้น ถามว่าผมเป็นอะไรหรือเปล่า สรุปแล้วตอนนั้นผมไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร”

ไปดำเนินคดีที่สถานีตำรวจแล้ว? “เราไปหาตำรวจแล้ว เบื้องต้นน้องที่ชนเขาติดต่อมาทางเพจ แต่มันผ่านมาหลายวันแล้ว ผมก็ยังไม่ได้คุยส่วนตัวกับ
น้องเขา เพราะเราได้ไปแจ้งความและแจ้งทางประกันไว้แล้ว ซึ่งทางประกันเขาจะดำเนินการเอง เราก็เลยให้ทางนั้นเขาคุยดำเนินการไปเลย เบื้องต้นประกันเราเขาเคลมให้อยู่เรา แต่สิ่งที่ผมอยากเห็นเขาแสดงความรับผิดชอบเห็นใจเรานิดนึง เพราะรถเราไม่ว่าจะเป็นรถใหม่รถเก่าเป็นสิ่งที่เราใช้เราก็รักและ
ห่วง”
ส่วนตัวเชื่อไหมว่าเป็นเคราะห์ของเราช่วงนี้? “ไม่ได้มองว่าเป็นสิ่งที่ไม่ดี สิ่งที่เราเจอเขาเรียกเป็นเคราะห์แหละเนาะ เป็นการฟาดเคราะห์ไป ได้เจอในสิ่งรอบข้างเล็กๆ น้อยๆ ที่เราสามารถแก้ปัญหาได้ดีกว่าเจอกับตัวเราเอง”
แล้วเราไปแก้เคราะห์ แก้เคล็ดหรือยัง? “เป็นคนไม่ค่อยบนเลย แต่จะไปแก้เคล็ดโดยการไหว้พระทำบุญ มีโอกาสได้ไปเชียงใหม่ ก็ไปไหว้พระหลวง
พ่อทันใจ ไปแสดงที่พิษณุโลกก็ไปไหว้หลวงพ่อพุทธชินราช ขอพรให้เรื่องร้ายๆ ที่เกิดขึ้นจบลงแค่นี้ แล้วมีแต่สิ่งดีๆ จริงๆ เราก็ระมัดระวังตัวทุกวันแหละ แต่เราเจอเหตุการณ์ที่มันกระทบกระเทือนจิตใจ เราก็ต้องระวังมากขึ้น”.
ขอขอบคุณ แหล่งที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_7691800
บันเทิง










.jpg?ip/crop/w1200h700/q80/jpg)




ความคิดเห็น