"จูน กษมา" เมียเปิ้ล นาคร อัพไซส์ 260cc เล่าละเอียด! แม่ลูก 4 หน้าอกไม่เคยได้พัก

จัดใหญ่ จัดเต็ม รับปีใหม่ จูน กษมา ภรรยาคนสวยของพิธีกรหนุ่มอารมณ์ดี เปิ้ล-นาคร ศิลาชัย ที่ล่าสุด! เจ้าตัวได้ตัดสินใจอัปเกรดครั้งใหญ่ ด้วยการขึ้นเขียงให้ศัลยแพทย์มือทองของประเทศไทย หมอสอง นพ.นพรัตน์ รัตนวราห เจ้าของ NCC Clinic (Nopparat Cosmetic Clinic) ทำศัลยกรรมเสริมหน้าอก เป็นขนาด 260 ซีซี 

โดยที่งานนี้ จูน กษมา ได้เปิดใจถึงเหตุผลให้เราฟังว่า "จูนอายุ 41 มีลูก 4 คน หัวปีท้ายปี บอกตรงๆ หน้าอกไม่ได้พักเลย มีความห้อยเหี่ยวมานานมากๆ แล้ว พอรู้ว่าหมอสองมีการผ่าตัดหน้าอก ที่ไม่เจ็บ แผลนิดเดียว ผ่าตัดเสร็จไปทำงานต่อได้ เลยตัดสินทำกับหมอสอง

ซึ่งการผ่าตัดแบบนี้ฟื้นตัวเร็วมาก และไม่ต้องทนทรมานเจ็บปวดหลังผ่าตัดอีกต่อไป แต่ก่อนจะตัดสินใจทำจริงๆ ก็นานมากๆ จูนคุยกับหมอสองนานมากๆ คือพี่เปิ้ลก็สนิทกับหมอสองอยู่แล้ว จูนอยากกลับไปใส่เกาะอกสายเดี่ยวอีก ไม่ได้ใส่มานานแล้วค่ะ ตอนนี้ด้วยวุฒิวัยและหลายๆ อย่างพร้อมแล้ว จึงตัดสินใจทำ

ถามว่าพี่เปิ้ล ห้ามไหม พี่เปิ้ลไม่ได้ห้ามค่ะ เราอยากทำอะไรเขาก็ให้ทำ มีแต่ถามๆ ว่าเมื่อไหร่จะทำมากกว่า (หัวเราะ) เพราะเขาเห็นเราว่ามีปัญหาเรื่องหน้าอก กว่าจะเลือกชุดใส่ได้ต้องดันต้องเสริม

ด้าน เปิ้ล นาคร ได้กล่าวเสริมแบบขำๆ "ผมอนุญาตหมอสองเป็นคนเดียวในชีวิตเลยนะ ที่ยอมให้ยอมจับนมเมียผม แล้วก็...เมียใหม่ไม่มีนะครับ แต่เมียกำลังจะมีนมใหม่ (หัวเราะ)"

ขณะที่ศัลยแพทย์ดัง หมอสอง นพรัตน์ ก็ได้พูดถึงการผ่าตัดครั้งนี้เพิ่มเติมว่า "ผมใช้เทคนิคผ่าตัดทรวงอกใช้กรวยสอดซิลิโคน ซึ่งมีข้อดีหลายประการเช่น ลดการปนเปื้นเชื้อโรคที่จะทำให้เกิดปัญหาหน้าอกแข็งในภายหลัง ลดการฉีกขาดของผิวซิลิโคนที่จะทำให้เกิดปัญหาซิลิโคนรั่วซึม ลดการบาดเจ็บปากแผลคนไข้ ลดระยะเวลาการผ่าตัด ทำให้ได้แผลผ่าตัดที่เล็กเมื่อใช้กับซิลิโคนคุณภาพสูง ทำให้การผ่าตัดนิ่มนวล ไม่เจ็บมาก คนไข้ส่วนใหญ่ผ่าตัดเสร็จลุกเปลี่ยนเสื้อผ้าเองเดินกลับได้เลย ซึ่งแตกต่างจากสมัยก่อนที่ผ่าตัดทรวงอก จะเจ็บมากๆ แบบรถสิบล้อทับ

ตอนนี้การทำศัลยกรรมเป็นเรื่องปกติแล้ว ถ้าพอใจในตัวเองแล้วไม่ต้องทำ แต่ถ้าจะทำเพื่อเสริมความงาม เสริมเพิ่มความมั่นใจให้ตัวเอง หรือมีปัญหาอยากแก้ ก็ทำได้เลย แต่ต้องเลือกหมอให้ดีๆ มีห้องผ่าตัดสะอาดปลอดเชื้อที่ได้มาตรฐาน มีหมอดมยา มีแพทย์เฉพาะทางด้วย จะยิ่งปลอดภัยสูง แนะนำว่าทำไปแล้วไม่ต้องแก้บ่อย เพราะจะยิ่งทำให้เนื้อเยื่อเสียหาย เลือกดีๆ ตัดสินใจในครั้งเดียวให้จบ"

ขอบคุณแหล่งที่มา :  sanook