“นนท์ อินทนนท์” รอ 10 ปีกว่าจะได้เป็นนักแสดง เชื่อสักวันต้องเป็นวันของเรา

สิ้นสุดการรอคอยมานาน นนท์-อินทนนท์ บุญชื่น Tiktoker สายฮา ขึ้นแท่น “นักแสดง” ท่านหนึ่ง ประเดิมจอเล่นภาพยนตร์เรื่องแรก “พี่นาค4” ค่ายไฟว์สตาร์ฯ สร้างตำนานความเฮี้ยนบทใหม่ มีความหลอนสติแตก ตบกันนัวแบบฉ่ำๆ กำลังเข้าฉายแล้ววันนี้ ในโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ แต่ก่อนที่แฟนๆจะเข้าโรงดูหนัง มาทำความรู้จัก แพรรี่ กะเทยปากแจ๋ว คู่กัด บอลลูน (เอม-วิทวัส) กันก่อน กว่านนท์จะมีวันนี้ชีวิตผ่านอุปสรรคมาเยอะแต่ไม่เคยท้อ

เริ่มจาก...ตอนนี้นนท์กลายเป็น ดารานักแสดงท่านหนึ่งไปแล้ว “ตอนนี้ภูมิใจมากเลย เป็นหนังเรื่องแรก เป็นสิ่งที่เราอยากเล่นและเป็นคนชอบเจอผี คิดว่าสิ่งนี้ตรงกับเรา วันนั้นเสร็จจากงานงานนึงและพูดกับผู้จัดการว่าอยากเล่นหนังผีสักเรื่อง ผ่านไป 2-3 วัน ไฟว์สตาร์ติดต่อมาให้ลองแคสต์เรื่องนี้”

ก่อนได้เล่นหนังเรื่องนี้ได้ไหว้ ไปมูฯมาจากไหนหรือเปล่า “ไปไหว้พระที่วัดสุทัศน์ ไม่ได้ขอเรื่องงาน แต่เอาพันธะเรื่องความรักออกไป คือมีหมอดูบอกว่าถ้าอยากมีแฟนให้ไปปลดปล่อยกรรมดู เลยชวนเพื่อนไปสวดมนต์ หน้าพระกลักฝิ่น เรานั่งไหว้และตั้งจิตอธิษฐานแค่นั้น ตอนที่รู้กรี๊ดดังมากจนผู้จัดการบอกว่าเซฟเสียงหน่อยพรุ่งนี้ต้องทำงาน (หัวเราะ) เราตื่นเต้น เป็นหนังที่เราติดตาม เพราะเราชื่นชอบพี่เอมมานานแล้ว รู้สึกว่าคนนี้มีความเป็นเรามาก แต่หนูติดแค่ว่าตอนนั้นยังบอกคุณพ่อแม่ไม่ได้ว่าหนูเป็นอะไร ยังเป็นตัวเองมากไม่ได้เหมือนทุกวันนี้”

กับบทซีน แรกเจอเอม ตามใจตุ๊ด ก็ตบกันนัวแล้ว “พี่เอมบอกว่า นนท์เต็มที่นะ เขาคงอยากเทกเดียวผ่าน โอเค ก็บอกเต็มที่มาเลยก็ไม่คิดว่าจะเต็มที่มาขนาดนั้น จิกหัว จับโขก จับเข่า กระทำเราก่อนนะ เราค่อย ตลบหลัง บีบคอ ไม่ทันได้ตลบหลัง แต่กลายเป็นโดนตะลุมบอน”

ตอนแรกหนักใจเจอเรื่องแรกเป็นไอดอลแต่เราฟาดเค้าไม่ยั้ง “หนักใจนะเพราะว่ามันมีเหตุการณ์นึงเข้าใจผิดกัน พี่เอมบล็อกติ๊กต่อกเรา แล้วอีกวันต้องไปเจอเขาแล้วก็แอบคิดว่าพี่เขาไม่ชอบอะไรเราหรือเปล่า? พอไปเจอกันปุ๊บพี่เอมน่ารักมาก เรียกอีนนท์ เดี๋ยวเราจอยกันแบบนี้นะ แลกไลน์ แลกไอจีกัน ซึ่งก่อนหน้านั้นหนูได้ระบายกับพี่นัท แล้วพี่นัทคงไปบอกพี่เอม พอเจอกันพี่เอมเปิดประเด็นมา มึงเครียดเหรอที่กูบล็อกติ๊กต่อก นางเปิดให้ดูบล็อกเป็นพันคน เขาบล็อกโดยไม่รู้ เข้าใจผิดคิดว่าเป็นแอ็กเคาต์ลูกค้า เลยโล่งใจ หลังจากนั้นคุยกันตลอด สบายใจมาก แฮปปี้ แซวกันฉ่ำ ด่ากันฉ่ำ”

พี่นาค 4 ถ่ายทำสถานที่จริงมีเหตุการณ์ประทับใจขนาดไหน “โอ้โห เรียกได้ว่าหฤโหด พอเป็นสถานที่จริง ไม่ต้องบิลต์อะไรเลย กลัวจริง ไหว้จริง ขอขมาจริง กรี๊ดจริง เราแค่อยากให้ผ่านไปอย่างเร็ว ไม่ได้อยากอยู่สถานที่นั้นนานเลยกลายเป็นทุกคนตั้งใจ พ่นใส่เต็มที่เลยเพราะทุกคนมีสิ่งเดียวทีิ่คิดเหมือนกันคือกลัว”

ต้องลงพื้นที่ขุดหลุมไปเจอเหตุการณ์ขนหัวลุก “ตอนกลางวันไม่มีอะไรหรอก แต่พอซีนกลางคืนเท่านั้น หลุมขุดลึกและกว้างมาก พี่ไมค์-ภณกฤต ผู้กำกับ บอกพี่จะปล่อยน้ำเล็กๆ ไม่ถึงหัวเข่า พอแฉะๆ เล่นไปเล่นมาถึงหน้าอก ต้องมีฉากจมอีก ต้องกลั้นหายใจ แล้วเป็นฉากก่อนหน้าจะจมผีจะต้องดึงหัวหนูให้จมลงไป หงายหน้าไปเจอปลาไหลเต็มไปหมด ก็ถามทำไมต้องเป็นปลาไหลจริง เขาก็บอกว่าจะได้ฟีลที่เป็นธรรมชาติ ตอนถ่ายควานไปเจอปลาไหลเราก็กรี๊ดสิ หลังจบซีนนั้น ก่อนขึ้นรถตู้กลับก็จะขออาบน้ำก่อน อยู่ๆ ได้ยินเสียงแว่ว อาบเสร็จแต่งตัว ก้าวขึ้นรถตู้ มองผ่านกระจกตรงคนขับไม่ใช่หน้าพ่อ แต่เป็นหน้าของคนตัวดำๆ หัวโล้นๆ ผิวดำมาก มองมาที่เรา นนท์เลยพูดดังๆ เลยว่า คนที่ขึ้นรถมาได้ต้อง เป็นพ่อแม่ ผู้จัดการนนท์ เท่านั้น คนอื่นห้ามขึ้น ถ้าขึ้นแล้วไม่ได้รับอนุญาตจะขออนุญาตแช่ง แล้วปิดประตู พูดเพื่อที่ผีจะได้ไม่ขึ้นตามมา พอหันไปมองพ่อก็กลายเป็นหน้าพ่อปกติ อีกวันไปทำบุญอุทิศส่วนกุศล บริจาคโลงศพให้เลย”

เล่นหนังเรื่องแรกลุ้นขนาดไหน “แค่รู้สึกว่าอยากให้คนดูเข้าไปดูแล้วได้อะไรกลับมา หนังเรื่องนี้มันมีคำสอนแน่ๆ การบูลลี่คน เราก่อกรรมกับคนโดยการใช้ปาก ตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ เราอาจจะคิดว่าเป็นการเล่นสนุกแต่คนที่โดนไม่สนุก กลายเป็นว่ามีหลายอย่าง คนดูได้อะไรแน่ๆ จากภาค 4 นี้ มันเป็นมุมมองการเล่าเรื่องที่คนไทยเข้าใจ จะรู้เลยสิ่งที่เราทำไป หรือเราได้รับโอกาสในการที่จะแก้ตัว เราควรทำนะ แต่ถ้าเราไม่ได้รับโอกาส ถ้าเกิดเราแก้ไขอะไรไม่ได้เราคงเสียใจมากเหมือนกัน”

เราเคยเจอเรื่องบูลลี่ดราม่าหนักๆ “มีๆ เมื่อก่อนโดนเยอะ เมื่อก่อนอ้วน ดำ ขาเป็นจ้ำๆ น้ำเหลืองไม่ดี คนก็จะพูดไปทำอะไรมา สกปรก ตอนนั้นเราเป็นเด็ก พอเจอแบบนั้นเลยกลายเป็นคนเงียบผสมกับเราเป็นตุ๊ดแต่ไม่กล้าเปิดเผยตัวเองกลายเป็นคนปิดกั้นตัวเอง ไม่มีความสุขหลายปีมานี้ เพิ่งจะมีความสุขเมื่อ 3 ปีที่แล้วที่เราเป็นตัวเอง เพราะเราได้บอกคุณพ่อคุณแม่แล้ว หลังจากบอกความจริง 1 ปีเต็มๆที่แม่ไม่ยอมคุยด้วย แล้ววันนึงแม่พูดคำเดียวเลยว่าเหนื่อยมั้ย? หนูร้องไห้เลย ขอบคุณนะคะแม่แล้วขึ้นไปร้องไห้ข้างบนไม่ชอบร้องไห้ให้ใครเห็น ไม่อยากให้คนเห็นด้านนี้อยากให้คนเสพความสุขจากเรา มีคนบอกนนท์อ่อนแอบ้างก็ได้ จริงๆความสุขคนนึงมีหลายรูปแบบ นนท์ได้เรียนรู้จากน้องคนนึงจะฆ่าตัวตายวันนั้นเลยแล้วเขาพิมพ์ไดเรกต์มาหา พี่นนท์ขอบคุณมากๆ เลยหนูกำลังจะฆ่าตัวตาย กำลังจะกรีดข้อมือแล้ว น้องบอกว่าพี่นนท์คือความสุขอีกรูปแบบหนึ่งของหนู เลยยิ่งรู้สึกแฮปปี้ในการที่จะลงคลิปทุกวันที่สนุกให้คนมีความสุข เราถึงทำคลิปทุกวัน เราเป็นกำลังใจให้เขาและเราก็ได้กำลังใจกลับมาด้วย การที่เราทำแบบนี้แล้วเขาเสพความสุขจากเรา ทำให้เรารักษาชีวิตได้อีก 1 ชีวิต เป็นแรงกำลังใจจนถึงวันนี้ เหนื่อยขนาดไหนยังไงก็ต้องโพสต์คลิปติ๊กต่อก วันละคลิป”

งานดี งานปังแล้วความรักล่ะยังไง “คือหนูเป็นฟีลใจอยากมี ผู้จัดการ หรือพี่แน็ต (พีอาร์ ไฟว์สตาร์) ก็จะพูดว่ามีทำไม ล่าสุดเค้าฟังคำสัมภาษณ์หนู คือหนูเป็นคนแคร์คนมาก เขาจะบอกว่าถ้าแกแคร์คนมากๆแบบนี้ ถ้าล้มมาคือหนักเลยนะ คิดในใจคงเป็นแบบนั้น ควรจะมีหน่อยมั้ย ไม่งั้นชีวิตจะเหี่ยวแห้งเกินไป มันโหยหาในช่วงเวลาที่เราเหนื่อยมากๆ หนูไม่ค่อยชอบเอาตัวเองให้ใครเป็นห่วง มีเรื่องอะไรจะไม่ค่อยปรึกษาแม่ ไม่ค่อยบอกเพื่อน จะเป็นคนเคลียร์ได้ด้วยตัวเอง มีปัญหาคุยกับตัวเอง มีวิธีจัดการแต่ถ้าเรามีแฟน เราจะนอนโง่ๆ คุยกันโง่ๆ เธอๆ เราไปเจออันนี้มาแค่ปลอบๆ เหนื่อยมั้ย ไม่ได้ต้องการคนดูแล มารับมาส่ง ป้อนข้าวป้อนน้ำ ซื้อแบรนด์เนมให้ สุดท้ายแล้วเราอยากได้คนเข้าใจ ไม่มีแฟนก็ไม่เป็นไร ก็แค่งง เศร้า ร้องไห้ (หัวเราะ)”

คนรอบข้างไม่มีใครสนับสนุนให้มีแฟน “ใช่ เพราะงานตอนนี้กำลังดี อยากให้ทำงานไปก่อน อยากให้เก็บเกี่ยวสิ่งที่เราอยากทำ เพราะเรารอมาตั้ง 10 ปี กว่าจะได้ทำงานจริงๆ จังๆ เมื่อก่อนเป็นเอ็กซ์ตร้าถือของ ประกวดเดอะสตาร์ ตกรอบ ประกวด AF ก็ตกรอบ ไปเอาตำนานไม่เอามง เอามีม หลังๆมีคนพูด ไม่คิดว่าจะเป็นคนเล่นละครได้ หนูก็บอกว่าอยู่ในแวดวงนี้มาสักพักนึงแล้ว เราแค่ยังไม่มีโอกาส แค่ไฟยังไม่มาส่องที่เรา รอโอกาส หนูใช้เวลาเป็น 10 ปีที่เราจะได้มีโอกาสได้ทำงานที่เราอยากทำงานที่เรารักจริงๆ บอกคนรอบข้างเสมอที่ยังดำผุดดำว่าย แคสต์ไปเหอะ สุดท้ายการแคสต์งานเราได้ประสบการณ์ สมัยก่อนแคสต์งานไม่ได้ ถูกปฏิเสธ ก็คุยกับตัวเองสักวันจะเป็นวันของเรา ขอบคุณมากๆที่มึงยังสู้อยู่ คำคำนี้เป็นคำที่พูดตลอด ขอบคุณมากๆที่ยังอดทนนะ ยังสู้อยู่นะ ถึงมันไม่มีผลอะไรเลยแต่พอเราประสบความสำเร็จแล้วมาพูดคำคำนี้ ทัชใจเรามากเพราะเป็นคำที่เราใช้จริงๆ เติมกำลังใจให้ตัวเอง เป็นการย้ำๆกับตัวเอง เหมือนกับแฟน ไม่มีก็อยู่ได้ จะมีแฟนก็ได้ แต่ถ้ามีไม่ดีก็ไม่เอา”.

ขอบคุณแหล่งที่มา :  thairath