“อ๊อฟ ชนะพล” พร้อมแต่ง “ฮาน่า” วางแผนไม่เกิน 2 ปี พูดคุยกับผู้ใหญ่ไว้แล้ว

ขยันเสิร์ฟบู๊ระห่ำเดือดๆ ดราม่าจุกๆ สำหรับ อ๊อฟ–ชนะพล สัตยา พระเอกสายบู๊จากละคร “ปล้นเหนือเมฆ” ทางช่อง 7HD กด 35 มีความสนุกให้ได้ลุ้น! ระทึกทุกอีพี กว่าจะได้ภาพบู๊เท่ๆ เจ้าตัวยอมรับอายุก็เป็นอุปสรรค ใช้ร่างกายมาสมบุกสมบันมันฟ้องทำให้ต้องลดความห้าวลงบ้าง พร้อมขยับลุยงานกำกับละครแนวคุณธรรม เป็นก้าวที่สำคัญที่ได้ประสบการณ์ชีวิต ส่วนความรัก คบฮาน่า ลีวิส นางเอกร่วมวิก กลายเป็นสาย “คลั่งรัก” วางเป้าหมายอีกไม่เกิน 2 ปี แต่งแน่นอน ใน “คนดังนั่งคุย”
เล่นแต่ละครบู๊ตลอดๆ คือไม่บู๊ไม่รับใช่รึเปล่า “คือมันต้องมีครับ 1 เรื่อง ในหนึ่งปีครับ คืออย่างปีที่แล้วบู๊ 1 เรื่อง ไม่บู๊ 1 เรื่องครับ” มันคันไม้คันมือว่างั้นเหอะ “ครับ แต่ก็บู๊ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้วครับ คือเราไม่เอาตัวเองเข้าไปหนักมาก อะไรที่หนักผาดโผนมากเราก็ถอยออกมาบ้างแล้วครับ” เพราะอายุของเราด้วยหรือเปล่า “ก็ด้วยครับ คือร่างกายเรา เราต้องเซฟไว้เพื่อใช้ชีวิตมากกว่า คือถ้าเราไปทุ่มมากแล้วเราเจ็บขึ้นมาก็อาจจะใช้ชีวิตในชีวิตประจำวันยาก” อันนี้เพราะตัวเราหรือใครห้าม “ตัวผมเองครับ เราทำงานเรารู้ หนึ่งคือกำลัง จากที่เราเคยจำคิวบู๊ได้ยาวๆ เราก็เริ่มที่จะขอว่าขอลดลงหน่อย เบาลงหน่อย ท่ายากเราก็จะขอว่าขอเอาแค่สวยๆพอ จากที่เคยโดดจากหลังคารถบรรทุกลงมากลิ้ง หรือกระโดดจากที่สูงได้ ผมก็ขอลดน้อยลง เข่ามันแอบฟ้องครับ แอบบวม แอบปวดบ้าง แต่ตรวจมาโดยรวมคุณหมอก็บอกว่าอาการแบบนี้ก็ ตามวัยแหละ คุณใช้เค้าเยอะ เตะฟุตบอลด้วย”

บทบู๊ในเรื่องนี้ก็ไม่ธรรมดาอยู่นะ “เจอพี่บิณฑ์มากำกับวันแรกคือในเรื่องไม่ได้มีฉากต้องกระโดดขึ้นเจ็ตสกี แต่พอถ่ายไปเรื่อยๆ เหมือนช่วงพักมั้ง พี่บิณฑ์มาบอกว่า อ๊อฟ พี่อยากได้แบบนี้ อ๊อฟช่วยพี่หน่อย พี่เช่าเจ็ตสกีมาแล้ว อ๊อฟกระโดดขึ้นคร่อมเจ็ตสกี ขี่ผ่านกระแทกมาแล้วยิงให้พี่หน่อย เราก็โอเค แต่จังหวะกระโดดเราไม่รู้ว่าจะทำได้แค่ไหน ก็ถ่ายเลยครับ” ตอนกระโดดเป็นอย่างไรล่ะ “ใจมันหวิวอยู่แล้วครับ เราไม่รู้ว่าจังหวะการคร่อม คือขาเราจะเข้าตรงในร่อง แล้วไปพลิกตรงขอบเจ็ตสกีหรือเปล่า กังวลเรื่องข้อเท้า เพราะว่ารองเท้าก็ไม่ใช่รองเท้าที่พอดีเท้าผมด้วยครับ” มีฉากบู๊งอกหน้าเซตเยอะมั้ย “มีมาเรื่อยๆครับ อย่างต้องหนีผู้ที่ตามล่า จู่ๆก็มีการกระโดดข้ามนั่น ข้ามนี่ ตีลังกาข้าม คือผมบอกว่าในจังหวะที่แบบกระโดดลงมาแล้วต้องสไลด์วิ่งต่อไปนี่ผมทำไม่ได้อยู่แล้ว คือมันต้องเป็นสตันต์แมนอาชีพ พี่เขาเตรียมมาเรียบร้อยแล้ว เขาก็บอกเราว่าเราเล่นได้แค่ไหนเอาแค่นั้น” ซึ่งปกติเราไม่ค่อยใช้สแตนด์อินอยู่แล้ว “มันช้าครับ คือเราต้องมาเล่นรับหน้าเราอยู่แล้ว ถ้าเราเล่นเองเราบู๊แล้วกล้องมันรอรับหน้าเราอยู่แล้ว เอาว่าตอนนั้นก็เหลือแต่การตีลังกา” ใจเราสู้ “ครับ แต่ตอนนี้ร่างกายเราถดถอยไปบ้างแล้ว”
การร่วมงานกับปูเป้–เกศรินทร์ เป็นอย่างไรบ้าง “วันแรกเขาก็เจอดราม่าเลย ผมก็คิดว่าเขาจะเล่นได้ไหมหนอ ผมลืมไปว่าเขาเป็นนางเอกจักรๆ วงศ์ๆ เขาสบายอยู่แล้ว แต่ว่าเราห่วงที่เจอคิวแรกก็ยากเลย แต่โอ้โห...คิวแรกที่เขาเล่นก็ซัดซะน้ำตาแตกเลย หลังจากนั้นผมไม่ห่วงเขาเลย เขาเจอสิ่งที่ยากแล้วเขาทำได้ เขาไม่ธรรมดา” ฉากเลิฟซีนล่ะยังไง “เลิฟซีนก็ไม่น่าห่วงครับ เพราะว่าปูเป้เขาก็ไม่ใช่เป็นคนหวงตัวในเรื่องการทำงานเท่าไหร่ คือถ้าผู้กำกับบอกว่าอยากได้ ปูเป้ก็จะบอกว่าได้ค่ะ เขาเต็มที่ ถ้าไม่ได้ก็ให้บอก ซึ่งพอเขาทำได้ภาพที่ออกมาก็ดีด้วย ฉากเลิฟซีนอยากให้รอดูครับอาจจะมาไม่เยอะ แต่มาแล้วก็จิกหมอนครับ” ก่อนถ่ายฉากเลิฟซีนมีเล่าให้ฮาน่า น้องจ๋าฟังก่อนไหม “บอกครับ บอกเพื่อรับรู้ ไม่ใช่การรายงานตัว เป็นบอกหลังจากทำงานเสร็จแล้วว่ามีฉากแบบนี้นะ คือเขาก็ไม่ได้ว่าอะไร เขาให้เกียรติผมในการทำงาน ผมก็ให้เกียรติเขาในการทำงาน” มีต่อบทให้กันไหม “ไม่ครับ มีแต่ผมนี่แหละที่เข้าไปดูงานเขา เพราะโจทย์ของเขายากขึ้นเรื่อยๆ โจทย์ของเขาในปีนี้เจอบทที่ยากขึ้นเรื่อยๆ อย่างเรื่อง เล่ห์มยุรา ยาก” ไปอ่านบทเขา เป็นแอ็กติ้งโค้ชส่วนตัวเขา “คือถามก็บอกครับ ผมอ่านผมก็อินไปกับตัวละครที่เขาเล่น”
เม้าท์ชัด จัดทุกตอน ติดตามได้ที่ www.thairath.co.th/novel และ Facebook Fanpage : นิยายไทยรัฐ
ก่อนหน้านี้อยู่ๆเสียงหาย คุณหมอแจ้งว่าเป็นอะไร “เส้นเสียงอักเสบครับ จากอาการเบื้องต้นที่คุณหมอดูคอ ดูทอมซิลอะไรพวกนี้ครับ ก็มีความคอแดงมาก คุณหมอสันนิษฐานว่าอาจจะมาการใช้เสียงเยอะมากกว่า ผมก็เล่าว่าผมถ่ายละครกลางแจ้ง คอจะแห้งเหมือนกับการเจอฝุ่น และวันที่ผมมีแถลงข่าวสัมภาษณ์ เช้าวันนั้นก็รู้สึกว่าคอแห้ง และเสียงแห้งอยู่แล้ว รวมถึงเราใช้เสียงมาตลอดทั้งวันจนกระทั่งเราต้องพัก” ตอนนั้นตกใจไหม “ตกใจครับ แต่ขัดใจมากกว่า เพราะคนเราใช้เสียงตลอดไง เวลาที่ไม่มีเสียงออกมาแล้วมีแต่ลม มีแต่เสียงที่มันแหบๆแห้งๆมันก็ขัดใจ” งดใช้เสียงนานขนาดไหน “จริงๆ คุณหมอ ให้งดใช้ตั้งแต่วันแรกที่เป็นเลยครับ แล้วก็มีฉีดยาเพื่อลดอาการอักเสบของเส้นเสียง เพื่อให้หายเร็วขึ้น ฉีดยาแล้วคุณหมอก็บอกว่าขอให้พัก 14 วันนะ แต่พอผ่าน 3 วันผมก็เริ่มกลับมาใช้เสียงแล้ว กองถ่ายเขายกให้ผม แค่ 7 วัน คือเขาก็ไม่สามารถให้ผมหยุดได้ทั้งหมด ถามว่ามีผลไหม มันก็มีผลแหละ ผมอาจจะหายช้าหน่อย”

ตอนนี้อ๊อฟมีโปรเจกต์อะไรบ้าง “ตอนนี้มีถ่ายละครเรื่องฟ้าพยับ ครับ ของค่ายมีเดีย ถ่ายจันทร์ อังคาร พุธ ช่วงว่างก็จะมีเขียนบทละครสั้นบ้างเพราะว่าผมถ่ายละครสั้นแนวคุณธรรม เขียนเอง กำกับเอง ลงในเพจของผมที่ทำแพลตฟอร์มในหลายๆแพลตฟอร์มชื่อเพจว่า yangkao feed” อะไรทำให้เราหันมาทำตรงนี้ “ด้วยประสบการณ์การเล่นละครของเรา ก็มีพัฒนาการอยู่เรื่อยๆอยู่แล้ว แต่ในเรื่องเบื้องหลังเราก็อยากฝึกฝน แต่ว่าจริงๆผมก็มองไว้ตั้งแต่แรกอยู่แล้วนะ คือในสิ่งที่เรารักเราก็อยากทำทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง นอกจากโอกาสที่ยังไม่เข้ามา และกำลังจะเข้ามาเราก็ฝึกตัวเองก่อนจากสิ่งที่เราทำได้ ก็เปิดเพจเขียนบท มากำกับ ก็โอเคครับ มีกระแสตอบรับดีนะครับ มียอดคนดูหลักพันเกือบจะถึงหมื่น มีพี่ๆที่ติดตามผมในเฟซบุ๊ก เขาก็บอกว่าดูแล้วโอเค คืออาจจะใช้ทุนไม่เยอะ แต่ว่าภาพออกมาโอเค” เริ่มทำมานานหรือยัง “เพิ่งเริ่มเลยครับ คือสิ่งนี้ผมคิดไว้ตั้งแต่ตุลาคมปีที่แล้ว” ถือว่าขาดทุน เสมอตัว มีกำไร “ขาดทุนไหม คือกำไรไม่มีครับเรียกว่าเสมอตัวดีกว่าครับ พอดีผมได้ลูกค้ามาด้วย ที่เขาชอบทางนี้เพราะว่าผมก็ต้องมีลูกค้าที่จะต้องมาสนับสนุน”
กับความรักครั้งนี้ล่ะ “โดยรวมถือว่าโอเคครับ คือเราเจอกันในวันที่สิ่งที่ขาดหายไป ขอบคุณที่ยังเป็นน้องฮาน่าที่น่ารักตั้งแต่วันแรกที่เราได้เจอกัน ขอบคุณในความเข้าใจตั้งแต่วันแรกจนถึงทุกวันนี้ที่เรายังใช้คำว่าเราเป็นเราด้วยความเข้าใจ ยอมที่จะเจออะไรที่เข้ามา ก็อยากขอบคุณเขาตรงนี้” ช่วงวาเลนไทน์ ที่ผ่านมาเป็นยังไงบ้าง “ไม่มีครับ อยู่กองถ่ายครับ คือเซ็งตั้งแต่คิวออก (หัวเราะ) คือผมอะมีถ่าย 2 วัน แล้วกองผมอะบังเอิญได้หยุดวันวาเลนไทน์พอดี แต่คิวกองของฮาน่าเขาใช้ครับ ก็เรียบร้อย ก็แอบมีนอยด์นิดๆ แต่ว่าเข้าใจครับ เพราะอีกเรื่องหนึ่งเขาก็เร่งมันใกล้จะจบแล้ว” ได้เซอร์ไพรส์อะไรมั้ย “ไม่นะครับ คืออย่างดอกกุหลาบทุกปีก็คือ 100 ดอก มันเหมือนกับเรียกว่าปกติครับ แต่สำหรับผมกับเขา ผมทำให้ทุกวันเป็นวันพิเศษอยู่แล้ว จะบอกเรื่องทำอะไร ดูแลกันอย่างไรคือมันเป็นกิจวัตรไปแล้ว คือเราทำกันแบบนี้ทุกวัน ไม่ใช่วาเลนไทน์ผมก็ชวนเขาไปกินของอร่อยได้ เขาอยากกินอะไรผมก็พาไปกินได้ วัตถุไม่ค่อยสำคัญสำหรับคู่ผมเท่าไหร่ มันอาจจะมีค่าแต่ให้เป็นกรณีพิเศษจะมีค่ามากกว่า”

ตั้งแต่คบฮาน่ายิ่งต้องหันมาดูแลตัวเอง “ใช่ครับ จริงๆ ผมเป็นคนดูแลตัวเอง ออกกำลังกาย บ้าออกกำลังอยู่แล้ว แต่ด้วยเรื่องภาพลักษณ์เนี่ยผมจะดูแค่ส่วนหนึ่งตามความต้องการของผม ผมไม่ได้สนใจโซเชียลโลกภายนอกว่าเขามาในเทรนด์ไหนอะไรอยู่แล้ว คือเราไม่ค่อยเข้าใจ และไม่ค่อยเปิดรับอะไรตรงนี้เท่าไหร่ จนได้มาคบกับฮาน่า กลายเป็นว่าเขาปรับผมตั้งแต่เริ่มคบกัน มองว่าภาพลักษณ์เราควรเป็นอย่างนี้นะ ต้องทันสมัย ตามทันยุค ตามวัย หรือตามเทรนด์ที่เขามีกันอยู่ในเวลานี้ ดังนั้น ในสายตาของเขาก็จะดูว่าผมโทรมไหม ดูแก่ไม่ได้นะคือวัยเราก็ไปแล้วแหละ แต่เขาไม่อยากให้เราไปตามวัยมากเกินไป อยากให้ชะลอลงมาหน่อย”
คบกันมาขนาดนี้เชื่อว่าอ๊อฟน่าจะถูกถามเรื่องแต่งงาน “ไอ้เรื่องเมื่อไหร่ผมยังพูดแบบเดิมนะว่า เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นแต่ว่าตอนนี้ก็ได้คุยกับทางครอบครัวน้อง เขาก็โอเค ดูความเหมาะสมนะว่าอะไรอย่างไร คือเป็นไปตามขั้นตอนอยู่แล้ว คือมีการพูดครั้งแรก ครั้งที่ 2 ครั้งที่ 3 เดี๋ยวจะต้องพูดให้เคลียร์ให้จบ เพราะเรื่องแบบนี้ไม่ใช่พูดครั้งเดียวแล้วจบ ต้องค่อยๆคุยค่อยๆ
วางแผนกันมันถึงจะสมบูรณ์แบบที่สุด” เวลานี้อ๊อฟพร้อมเริ่มต้นครอบครัว “ใช่ครับ เราคุยกันตลอดอยู่แล้ว เราคุยกันทีเล่นทีจริงมาตลอด ผมไม่อยากให้การยึดมั่นถือมั่นของเรา 2 คนไปติดขัดตรงอื่น คือจะไม่แบบเดี๋ยวปีนี้นะ ปีนั้นนะ เดี๋ยวจะเสียกำลังใจถ้าเราทำไม่ได้ แต่เราก็พูดทีเล่นทีจริงกันไปว่าพร้อมเมื่อไหร่เดี๋ยวมันก็มา จริงๆคือเราได้ทำงานที่เรารักทุกวัน เราได้มี
ความสุขกับการที่เราได้อยู่ด้วยกัน ส่วนเรื่องอนาคตที่จะเกิดขึ้นเป็นเมื่อไหร่ อนาคตจะเป็นอย่างไร จะเป็นการเตรียมพร้อมของเราในทุกๆวันอยู่แล้วครับ ที่เราได้เตรียม ได้คุยกับผู้ใหญ่แล้วด้วย เราก็เริ่มวางแผนของตัวเองว่าจะอย่างไร”

เท่าที่วางแผนไม่น่าจะไกลเกิน 2 ปี “ครับ ไม่น่าจะเกิน 2 ปีนี้แล้วครับ เพราะได้คุยกับผู้ใหญ่ไว้แล้ว เพราะเขาก็ไม่อยากให้เกิน 2 ปีนี้แล้ว” ฮาน่าโอเคมั้ย เหมือนเขายังสนุกกับการทำงาน “เขาก็โอเคครับ เราได้คุยกันเรื่องนี้ไว้บ้างตัวคุณแม่ของผมก็ได้มีโอกาสคุยด้วยแล้ว คือคุยกันก่อนที่เราคุยกัน รวมถึงคุณแม่ของน้องพี่สาวของน้อง ทุกคนคืออยู่ร่วมกันเวลาที่จะคุย เพื่อที่จะได้เข้าใจตรงกันในการที่จะวางแผนว่าจะอย่างไรก่อน”.
ขอบคุณแหล่งที่มา : thairath
บันเทิง















ความคิดเห็น